xs
xsm
sm
md
lg

ใช้แท่นแบริเออร์หนัก 5 ตัน ปิดถนนซอยพม่าข้าม ผบ.มทบ.44 ฉุนอำเภอล่าช้าตั้งกรรมการตรวจสอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ระนอง - ใช้แท่นแบริเออร์หนักกว่า 5 ตัน ปิดถนนซอยพม่าข้ามห้ามเข้าออก หลังเทศบาลละอุ่น ใช้งบกว่า 3 ล้าน สร้างในเขตป่าสงวน ส่วนคดีความมี 3 หน่วยงาน ป.ป.ช. DSI. สตง. เดินหน้าสอบสวนแล้ว ติงอำเภอคอขวดยิกยักล่าช้าหลังให้เวลามานานไม่ตั้งคณะกรรมการตามมติที่ประชุม ผบ.มทบ.44 ฉุนใช้อำนาจ คสช.ตั้งเองเบ็ดเสร็จ

จากการที่ พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44 และ ผอ.รมน.ภาค 4 สย.1 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ชุมพร-ระนอง ได้มอบหมายให้ชุดเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ นำโดย พ.ท.ดุสิต เกสรแก้ว หน.ฉก.บก.ควบคุม มทบ.44 นำฝ่ายเชี่ยวชาญลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีเทศบาลตำบลละอุ่น จ.ระนอง ใช้งบพัฒนาจังหวัดกว่า 3 ล้านบาท สร้างถนนคอนกรีตใน “ซอยพม่าข้าม” หมู่ 3 ตำบลบางพระใต้ อ.ละอุ่น จ.ระนอง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ระยะทางกว่า 1.5 กม. โดยไม่มีสิ่งสาธารณูปโภคใดๆ และชาวบ้านอยู่อาศัย แต่กลับเอื้อประโยชน์ผู้บุกรุก กลุ่มนายทุน นักการเมืองท้องถิ่น และข้าราชการที่เข้าไปยึดครองปลูกยางพารา ทำสวนปาล์ม กว่า 1,200 ไร่ จนหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องลงตรวจสอบดำเนินคดี

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 29 พ.ย.59 พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44 และ ผอ.รมน.ภาค 4 สย.1 เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้า ครั้งที่ 6 กรณีดังกล่าว ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลละอุ่น โดยมี พ.ท.ดุสิต เกษรแก้ว หน.ฉก.บก.ควบคุม มทบ.44 นายนพวงศ์ อาภรณ์ ป่าไม้จังหวัดระนอง นายดฤษกร สายสิวานนท์ ปลัดอำเภอละอุ่น พ.ต.ต.ประเสริฐ แจ่มใส สว.สส.สภ.ละอุ่น ร.ท.นิติธร จันทร์แท้ รอง หน.ชป.กกล.รส.ร.25 พัน2 และ น.ส.สุวรรธนา แย้มแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ตำบลบางพระใต้ พร้อมผู้เกี่ยวข้องรวมกว่า 10 คน เข้าร่วมประชุม

พล.ต.อุดมวิทย์ ได้กล่าวถึงมติที่ประชุมครั้งที่ผ่านมา และการติดตามความคืบหน้าของคดีเทศบาลละอุ่น ใช้งบพัฒนาจังหวัดก่อสร้างถนนซอยพม่าข้าม ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และมอบหมายให้ทางอำเภอละอุ่น แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการบุกรุกครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวน ซึ่งความคืบหน้าการดำเนินคดีนั้นขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของ ป.ป.ช. DSI และ สตง.ซึ่งอยู่ในขั้นตอนกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริงโดยกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริตต่อหน้าที่และกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ โดยมีผู้บริหารในเทศบาลตำบลละอุ่น และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่เกี่ยวข้อง โดยทั้ง 3 หน่วยงานได้แจ้งผลมูลคดีของการสอบสวนด้านคดีความให้แก่ พล.ต.อุดมวิทย์ และต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อกรณีดังกล่าวได้รับทราบแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ในส่วนของการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการบุกรุก และการตรวจสอบสิทธิการครอบครองในเขตป่าสงวนพื้นที่ 1,200 ไร่ นั้น นายดฤษกร สายสิวานนท์ ปลัดอำเภอละอุ่น แจ้งว่า ทางนายอำเภอยังไม่มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการแต่อย่างใด เนื่องจากยังติดขัดเรื่องระเบียบ และข้อปฏิบัติว่าจะสามารถทำได้หรือไม่อย่างไร ซึ่งยังต้องปรึกษากับผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่ายก่อน

ขณะที่ พล.ต.อุดมวิทย์ กล่าวแสดงความไม่พอใจว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นตนก็คงต้องข้ามขั้นตอนนี้ไปเพื่อไม่ให้เป็นคอขวดติดขัดเกิดความล่าช้าในการทำงาน เพราะได้ประชุมกันมาถึง 6 ครั้ง และในที่ประชุมก็ได้มีมติแล้วแต่กลับยังไม่มีความชัดเจนจากทางอำเภอ จึงขอใช้สิทธิของตนตามอำนาจคำสั่งของ คสช.ที่ 13/2559 ในการแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวขึ้นเองแบบเบ็ดเสร็จภายใน 2-3 วันนี้ เพื่อให้การทำงานเดินหน้าต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง และขณะนี้ได้มีประชาชนมาแสดงสิทธิครอบครองเข้าไปทำกินในเขตป่าสงวนดังกล่าวต่อ มทบ.44 แล้วจำนวน 27 ราย รวมพื้นที่ 650 ไร่ โดยส่วนใหญ่เป็นคนมีที่อยู่อาศัยนอกพื้นที่แล้วเข้ามาจับจอง และซื้อสิทธิต่อๆ กันมา ซึ่งจะต้องตรวจสอบว่าเป็นผู้ยากจนจริง หรือนอมินีหรือไม่ต่อไป และจะให้เวลาผู้ที่ยังไม่มาแสดงสิทธิไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้ หากยังไม่มาแสดงตนก็จะใช้อำนาจรื้อถอนทำลายต่อไป

หลังการประชุมนานเกือบ 2 ชั่วโมง จากนั้นในช่วงเย็น พล.ต.อุดมวิทย์ พร้อมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ใช้รถเครนนำแท่นแบริเออร์ขนาดใหญ่หนักแท่นละกว่า 1 ตัน จำนวน 5 แท่น ไปวางปิดถนนคอนกรีตในซอยพม่าข้าม ที่ทางเทศบาลตำบลละอุ่น สร้างในเขตป่าสงวนแห่งชาติเพื่อปิดทางเข้าออกไม่ให้ผู้บุกรุกเข้าไปใช้ประโยชน์ได้ พร้อมกับขึ้นป้ายประกาศว่าถนนเส้นนี้ก่อสร้างโดยไม่ได้ขออนุญาตจากกรมป่าไม้ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2485 และความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้สงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 พร้อมกับมอบหมายให้ น.ส.สุวรรธนา แย้มแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ตำบลบางพระใต้ จัดชุดกำลัง ชรบ.คอยออกตรวจตรา หากพบผู้ใดรื้อทำลายให้แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งความคืบหน้าทีมข่าวเฉพาะกิจภูมิภาค จะนำเสนอต่อไป

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น