xs
xsm
sm
md
lg

แรงงานต่างด้าวอพยพออกจากพื้นที่ซอยพม่าข้าม จ.ระนอง หลังประกาศปิดถนน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ชุมพร - แรงงานต่างด้าวอพยพออกจากพื้นที่ประกาศยึดปิดถนนใน “ซอยพม่าข้าม” หลังตรวจสอบพบเทศบาลละอุ่น ใช้งบกว่า 3 ล้าน สร้างในป่าสงวนไม่มีชาวบ้านอยู่อาศัย แต่เอื้อนายทุน

จากการที่ พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44 มอบหมายให้ชุดเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ นำโดย พ.ท.ดุสิต เกสรแก้ว นายทหารยุทธโยธา บก.ควบคุม มทบ.44 นำฝ่ายเชี่ยวชาญลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีเทศบาลตำบลละอุ่น ใช้งบพัฒนาจังหวัดกว่า 3 ล้านบาท สร้างถนนใน “ซอยพม่าข้าม” หมู่ 3 ตำบลบางพระใต้ อ.ละอุ่น จ.ระนอง รุกล้ำเข้าไปในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ระยะทางยาว 1.5 กม. โดยไม่มีชาวบ้านอยู่แม้แต่รายเดียว แต่กลับเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มนักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐ นายทุน ที่เข้ายึดครองที่ดินทั้งสองฟากถนนที่เป็นทำเลทองอยู่ใกล้กับแม่น้ำละอุ่น มีน้ำตก และใกล้ท่าเรือออกสู่ทะอันดามัน โดยล่าสุด ทหาร กับเจ้าหน้าที่ป่าได้ประกาศปิดถนนเส้นดังกล่าวเพื่อป้องกันการบุกรุกเพิ่ม และให้เจ้าของที่ครอบครองออกมาแสดงตน ตามข่าวที่นำเสนอมาต่อเนื่องนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รน.1 (ละอุ่น) เข้าไปติดป้ายไวนิลขนาดใหญ่ประกาศว่า ถนน คสล.ในซอยพม่าข้าม ที่ก่อสร้างไม่ได้ขออนุญาตใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าจากกรมป่าไม้ ถือมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2485 และความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ฐานก่อสร้าง แผ้วถาง ยึดถือครอบครองทำประโยชน์อยู่อาศัยในที่ดิน หรือกระทำด้วยประการใดๆ เป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ปรากฏว่า ได้มีบรรดาแรงงานต่างด้าวจำนวนหนึ่งที่เข้าไปอยู่อาศัยเฝ้าสวนยางพาร าและปาล์มน้ำมันให้แก่นักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐและนายทุนที่เข้าบุกรุกพื้นที่ในจุดที่สร้างถนนกว่า 600 ไร่ ได้ทยอยขนข้าวของออกจากพื้นที่ไปแล้วเนื่องจากกลัวจะถูกจับกุม เหลือทิ้งไว้เพียงบ้านพักอาศัยเท่านั้น

น.ส.สุวรรณธนา แย้มแก้ว ผญบ.หมู่ 3 ตำบลบางพระใต้ อ.ละอุ่น จ.ระนอง กล่าวว่า ในวันที่ 16 พ.ย.นี้ พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44 และ พ.ท.ดุสิต เกสรแก้ว นายทหารยุทธโยธา บก.ควบคุม มทบ.44 หัวหน้าชุดเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ จะลงมาพื้นที่เพื่อรับฟังข้อสรุปตามคำสั่งที่ให้ผู้ที่อยู่ในเขตป่าสงวนนำหลักฐานการครอบครองมาแสดงตน ณ ที่ทำการต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก่อนจะมีการปิดถนนสายนี้อย่างถาวรในวันที่ 30 พ.ย. แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ครอบครองที่ดินในป่าสงวนที่มีการตรวจยึดตามประกาศดังกล่าวมาแสดงตนเลยแม้รายเดียว นอกจากมีแรงงานต่างด้ายย้ายออกจากพื้นที่เท่านั้น
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น