xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.มทบ.สั่งปิด “ถนนซอยพม่าข้าม” แล้ว พร้อมแจ้งความคนเกี่ยวข้อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชุมพร - ผบ.มทบ.เฉียบ ปิด “ถนนซอยพม่าข้าม” แล้ว หลังเทศบาลตำบลละอุ่น สร้างรุกป่าสงวน พร้อมแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มตัวบุคคล ระดมกำลังตัดทำลายพืชผลทุกต้นทุกแปลง ป้องกันนายทุนหวนกลับมาอีก เผยฝ่ายปกครองระดับจังหวัดยังนิ่งเฉย

จากกรณีที่ พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44/ผอ.รมน.ภาค 4 สย.1 มอบหมายให้ชุดเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ นำโดย พ.ท.ดุสิต เกสรแก้ว นายทหารยุทธโยธา บก.ควบคุม มทบ.44 นำฝ่ายเชี่ยวชาญ ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีเทศบาลตำบลละอุ่น ใช้งบพัฒนาจังหวัดกว่า 3 ล้านบาท สร้างถนนใน “ซอยพม่าข้าม” หมู่ 3 ตำบลบางพระใต้ อ.ละอุ่น จ.ระนอง รุกล้ำเข้าไปในเขตป่าสงวนแห่งชาติละอุ่น ระยะทางยาว 1.5 กม. โดยไม่มีชาวบ้านอยู่แม้แต่รายเดียว แต่กลับเอื้อประโยชน์นายทุนที่เข้ายึดครองที่ดินทั้งสองฟากถนน และล่าสุด มีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ลงพื้นที่สอบสวนคดีดังกล่าว ตามที่นำเสนอมาต่อเนื่องนั้น

วันนี้ (17 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลละอุ่น จ.ระนอง พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44/ผอ.รมน.ภาค 4 สย.1 เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว โดยมี พ.ท.ดุสิต เกษรแก้ว หน.ชุดเฉพาะกิจ บก.ควบคุม มทบ.44 นายจงรัก ทรงรัตนพันธ์ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 11 (สุราษฎร์ธานี) พ.ต.ต.ประเสริฐ แจ่มใส สว.สส.สภ.ละอุ่น ร.ท.นิติธร จันทร์แท้ รอง หน.ชป.กกล.รส.ร.25 พัน 2 นายนพวงศ์ อาภรณ์ ป่าไม้จังหวัดระนอง น.ส.สุวรรธนา แย้มแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ตำบลบางพระใต้ นายสนอง รอดน้อย รองนายกเทศมนตรีตำบลละอุ่น และผู้เกี่ยวข้องรวมกว่า 10 คน เข้าร่วมประชุม

ในที่ประชุม พล.ต.อุดมวิทย์ ได้กล่าวถึงการติดตามความคืบหน้าของคดีก่อสร้างถนนซอยพม่าข้าม และกลุ่มนายทุนบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติละอุ่น ในพื้นที่ 1,200 ไร่ โดยที่ผ่านมา ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายด้วยดี ส่วนปัญหาอุปสรรคในการทำงานนั้นยังขาดความร่วมมือจากฝ่ายปกครองระดับสูงใน จ.ระนอง ที่ยังเพิกเฉยไม่ให้ความร่วมมือมากนัก และที่ผ่านมา หลังจากเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดพื้นที่ และติดประกาศให้กลุ่มบุคคลได้นำหลักฐานการครอบครองที่ดินออกมาแสดงตน จนถึงปัจจุบันนานนับเดือนยังไม่มีผู้ใดออกมาแม้แต่รายเดียว ในขณะที่แรงงานต่างด้าวจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นลูกจ้างของนายทุน นักการเมืองท้องถิ่น เจ้าหน้าที่รัฐ และข้าราชการเกษียณที่เข้าไปจับจองที่ดินบริเวณดังกล่าวได้พากันอพยพเก็บข้าวของหลบหนีออกจากพื้นที่ไปจนหมดแล้ว จนกลายเป็นถนนร้างไม่มีผู้คนใช้สัญจรเข้าออกอีกแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม การประชุมในครั้งนี้ใช้เวลาประชุมนานกว่า 1 ชม. จึงได้ข้อสรุปร่วมกัน ว่า 1.ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ให้นำแท่นแบริเออร์คอนกรีตไปปิดกั้นถนนซอยพม่าข้าม ที่สร้างในป่าสงวนอย่างถาวร เพื่อป้องกันไม่ให้บุกรุกเข้าไปใช้ประโยชน์ได้อีกต่อไป 2.ให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 25 ภายใน 7 วัน หรือตามความเหมาะสม โดยให้ผู้เกี่ยวข้องจัดกำลังรื้อถอนตัดทำลายพืชผลทั้งหมดทุกต้นทุกแปลงจนกว่าจะหม ดเพื่อไม่ให้ผู้บุกรุกหวนกลับมาครอบครองเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อีกภายหลังอีก 3.ให้หน่วยงานเกี่ยวข้องติดตามความคืบหน้าผลการร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.จังหวัดระนอง รวมถึงสำนวนคดีของพนักงานสอบสวน สภ.ละอุ่น 4.มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้แจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบนำงบประมาณโครงการก่อสร้างถนนในป่าสงวนโดยไม่ได้ขออนุญาต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังปิดการประชุม พล.ต.อุดมวิทย์ พร้อมผู้เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบถนน คสล.ซอยพม่าข้าม ตลอดเส้นทาง 1,500 เมตร พบว่า มีสภาพคล้ายถนนร้างไม่มีร่องรอยยานพาหนะสัญจรเข้าออก บางช่วงมีหญ้าขึ้นปกคลุม โดยทั้งสองฟากถนนเป็นสวนยางพารา ปาล์มน้ำมัน ไม่มีไฟฟ้า น้ำประปา หรือสิ่งสาธารณูปโภคใดๆ ไม่มีบ้านคนอยู่อาศัย นอกจากที่พักคนงานต่างด้าวถูกปล่อยทิ้งร้างเนื่องจากพากันหลบหนีไปก่อนหน้าแล้ว ความคืบหน้า ทีมข่าวเฉพาะกิจภูมิภาค จะนำเสนอต่อไป
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น