ระนอง - ทหาร มทบ.44 ทำพิธีบวงสรวงขอขมาหลังวางแท่นปูนหนัก 5 ตัน ปิดถนนซอยพม่าข้าม ใช้งบหลวงสร้างในเขตป่าสงวน หมู่ 3 ตำบลบางพระใต้ อ.ละอุ่น จ.ระนอง พร้อมมอบคืนผืนป่าที่ตรวจยึดกว่าพันไร่ ให้เจ้าที่ เจ้าป่า เจ้าเขา และเจ้าเมืองระนอง
จากการที่ พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44/ผอ.รมน.ภาค 4 สย.1 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ชุมพร-ระนอง ได้มอบหมายให้ชุดเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ นำโดย พ.ท.ดุสิต เกสรแก้ว หน.ฉก.บก.ควบคุม มทบ.44 ตรวจสอบเทศบาลตำบลละอุ่น ใช้งบพัฒนาจังหวัดกว่า 3 ล้านบาท สร้างถนนคอนกรีตในซอยพม่าข้าม หมู่ 3 ตำบลบางพระใต้ อ.ละอุ่น จ.ระนอง รุกเข้าในเขตป่าสงวนเกือบ 2 กม. เอื้อประโยชน์แก่กลุ่มนายทุน นักการเมือง และข้าราชการที่เข้าไปบุกรุกทำลายป่ายึดครองที่ดินจำนวนมาก จนหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องลงตรวจสอบดำเนินคดี และทหารได้นำแท่นคอนกรีตขนาดใหญ่ไปปิดถนนดังกล่าวห้ามเข้าออก ตามที่ทีมข่าวเกาะติดมาอย่างต่อเนื่องนั้น
วันนี้ (3 ธ.ค.) พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44/ผอ.รมน.ภาค 4 สย.1 ได้สั่งการให้ พ.ท.ดุสิต เกษรแก้ว หน.ฉก.บก.ควบคุม มทบ.44 ร.ท.นิติธร จันทร์แท้ รอง หน.ชป.กกล.รส.ร.25 พัน2 นำกำลังทหาร ร่วมกับ นายนพวงศ์ อาภรณ์ป่าไม้จังหวัดระนอง น.ส.สุวรรธนา แย้มแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ตำบลบางพระใต้ เพื่อทำพิธีบวงสรวงสวดมนต์พิธีบนถนนคอนกรีตซอยพม่าข้าม บริเวณช่วงที่เจ้าหน้าที่นำแท่นแบริเออร์หนักแท่นละ 1 ตัน จำนวน 5 แท่น ไปปิดกั้นไว้บนถนนดังกล่าวก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มนายทุนอิทธิพล นักการเมือง ข้าราชการ ที่เข้าไปบุกรุกยึดครองที่ดินในป่าสงวนแห่งชาติคลองลำเลียง-ละอุ่น ได้อีก โดยมี จ.ส.อ.สุชาติ มากประดิษฐ์ เจ้าหน้าที่สืบสวนชุด ฉก.บก.ควบคุมมทบ.44 ซึ่งมีความเชี่ยวด้านพิธีกรรมนำเครื่องเซ่นไหว้บวงสรวงสวดมนต์พิธีขอขมาขออนุญาตวางแท่นปูนหนัก 5 ตัน ปิดถนนคอนกรีตที่สร้างในเขตป่าสงวน และมอบคืนผืนป่าที่ตรวจยึดจากกลุ่มนายทุนอิทธิพล นักการเมืองท้องถิ่น ข้าราชการ ทั้งหมดกว่า 1,200 ไร่ ให้แก่เจ้าที่ เจ้าป่า เจ้าเขา และพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง ณ ระนอง) เจ้าเมืองระนองคนแรก และเป็นต้นตระกูล ณ ระนอง และให้ได้รับรู้ถึงความทุ่มเทเสียสละของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจนภารกิจสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี พร้อมกับสาปแช่งผู้ที่เข้าไปบุกรุกทำลายป่า
พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44/ผอ.รมน.ภาค 4 สย.1 กล่าวว่า ตนได้เข้าพบกับ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ท่านบอกว่าได้ติดตามการทำงานมาตลอด และให้ทำหน้าที่อย่างตรวจไปตรงมา ซึ่งขณะนี้ได้ตรวจยึดถนนที่สร้างในเขตป่าสงวน และตรวจยึดคืนผืนป่าที่ถูกบุกรุกกลับคืนมาแล้ว ส่วนการดำเนินคดีต่อตัวบุคลที่เกี่ยวข้องในการใช้งบประมาณมาสร้างถนนในเขตป่า ได้แจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนในท้องที่แล้ว และยังมีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สำนักตรวจการเงินแผ่นดิน (สตง.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ลงมาสอบสวนทำคดีด้วย ซึ่งตนได้ติดตามความคืบหน้าอยู่เป็นระยะๆ ขณะที่มีประชาชนมาแสดงตนครอบครองทำกินที่ดินในเขตป่ากว่า 20 ราย ซึ่งต้องตรวจสอบคัดกรองว่าเป็นผู้ยากจน และเป็นนอมินีหรือไม่อย่างไร ใช้ทั้งหลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ ให้เป็นไปตามนโยบายของ คสช.ต่อไป