ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย และที่ปรึกษาอธิบดีกรมประมง ยกข้อสังเกตจากนักวิชาการอิสระด้านประมงเตือนสติรัฐบาลเกี่ยวกับนโยบายการแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมายที่ทำให้ประเทศไทยได้รับใบเหลืองจากอียู ชี้แก้ปัญหาแบบศรีธนญชัย จึงไปไม่ถึงไหน แนะคนที่กอบโกยมาเยอะควรหยุดได้แล้ว
วันนี้ (24 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงาน นายบบรจง นะแส นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย และที่ปรึกษาอธิบดีกรมประมง ได้มีการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับการแก้ไขการทำประมงที่ผิดกฎหมาย โดยระบุว่า
ฝากนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ อธิบดีกรมประมง....ลองพิจารณาข้อมูล/ข้อคิดเห็นจากนักวิชาการอิสระด้านประมงท่านนี้ดูสิครับ (ดร.สภาภรณ์ อนุชาชีวะ) กว่า 1 ปีที่ประเทศไทยตกอยู่ในวังวนการแก้ปัญหาใบเหลือง IUU Fishing จากสหภาพยุโรป ยิ่งแก้ ก็ยิ่งยุ่งเหยิง และแล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่ต่างแย่งชูชีพตัวสุดท้าย เพื่อให้ตัวเองรอดปลอดภัยจากการที่ต้องสูญเสียผลประโยชน์จากอุตสาหกรรมประมงในประเทศไทย เมื่อประเทศไทยได้ใบเหลือง จากสหภาพยุโรป เมื่อต้นปี พ.ศ.2558
การแก้ปัญหาด้วยการตีโจทย์ไม่แตกก็เริ่มขึ้น เราใช้วิธีการแก้ปัญหาแบบศรีธนญชัย ซึ่งมันทำให้เราไปกันได้ไม่ถึงไหน ท้ายที่สุดก็กลับมามัดตัวเราแน่นหนามากขึ้น 1.เขาบอกว่าเราควรมีกฎหมายประมงฉบับใหม่ เราก็มีให้ได้ทันที พ.ร.บ.ประมง 2558 แต่ไม่ทันได้บังคับใช้ก็ต้องแก้ไขเกือบทั้งฉบับ เป็น พ.ร.ก.ประมง 2558 ซึ่งเป็นกฎหมายประมงที่ยังบังคับใช้ไม่ได้ทั้งหมด มีปัญหาในทางปฏิบัติหลายมาตราด้วยกัน และหลายพื้นที่กำลังทะเลาะกันเพราะ พ.ร.ก.ฉบับนี้
2.เขาบอกว่าเราต้องมีระบบตรวจสอบย้อนกลับสินค้าประมงได้ เราก็จัดให้ มี PIPO (Port In-Port Out) ได้ แต่หารู้ไม่ว่าเราไม่มีท่าเรือ และเจ้าหน้าที่ที่ได้มาตรฐานอย่างในต่างประเทศที่พัฒนาแล้ว สำหรับให้เรือประมงขนาดตั้งแต่ 30 ตันกรอส (อาจลามลงมาที่ 10 ตันกรอส) เข้าเทียบท่า และรองรับระบบใหม่ที่เกิดขึ้น
และเราก็ไม่มีระบบแพปลาที่เพียงพอให้เรือทุกลำสามารถขายสินค้าผ่านแพปลาเพื่อส่งต่อข้อมูลใน log book ให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าปลาเหล่านี้มาจากไหน จับด้วยเครื่องมืออะไร แต่สิ่งที่เรามีคือ เรือประมงขนาดนี้เข้าเทียบท่าตามคลองในหมู่บ้าน หรือหมู่บ้านใกล้เคียง และที่ผ่านมา ชาวประมงหลายคนนำปลาไปขายให้แก่ตลาดใหญ่ๆ ด้วยตนเอง
ชาวประมงต้องวิ่งรถไปกลับเกือบ 100 กม. เพื่อแจ้งเรือเข้า-ออก ต่อหน่วย PIPO ที่ตั้งอยู่อีกอำเภอหนึ่งที่ห่างไกลออกไป และให้แพปลาในหมู่บ้านเซ็นรับรอง log book ให้โดยไม่ได้ขายสินค้าผ่านแพปลาจริงๆ ทำให้ระบบ PIPO ที่ตั้งขึ้นมาไม่เป็นจริงในหลายพื้นที่
3.เขาอยากให้เราเกิดการทำประมงอย่างยั่งยืน เราก็จัดให้ หาตัวเลข MSY (Maximum Sustainable Yield) กันจ้าละหวั่น ส่งเจ้าหน้าที่ไปอบรม (อบรมกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันยังไม่เสร็จสักที) เพื่อในอนาคตระบบโควตาในการจับปลาจะถูกนำเข้ามาใช้
แต่ในความเป็นจริงทรัพยากรบ้านเรามันเป็นพวก multi species composition การศึกษา MSY จะดำเนินการอย่างไร ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ และยิ่งการกำหนดโควตาด้วยแล้วยิ่งงงใหญ่ เพราะเราจะได้ปลาที่ไม่ใช่ปลาเป้าหมายเยอะมาก (non-target species) โดยเฉพาะเรือประมงพานิชย์
จริงๆ แล้ว การแก้ปัญหา IUU Fishing บ้านเรา สิ่งที่ EU ว่าเราขาดคือ Political Will ที่จะนำไปสู่เจตนารมณ์ในการต่อต้าน IUU Fishing 1.รัฐยังคงแยกแยะไม่ออกว่าการแบ่งเค้กระหว่างผู้เคยประกอบอาชีพประมง กับการบริหารจัดการประมงอย่างยั่งยืนมันต่างกันอย่างไร จึงทำเกิดวันนี้ขึ้น ที่คนพูดเอาแต่ได้ไม่รู้จบ หาคนพูดเรื่องความยั่งยืนของท้องทะเลน้อยมาก เรียกร้องผลประโยชน์ของตนเองจนเป็นแผ่นเสียงตกร่อง 2.ยังปล่อยให้มีการทำอวนลาก (ลากทุกอย่างแม้ปะการัง ทำลายระบบนิเวศชายฝั่ง) และการจับลูกปลาวัยอ่อนด้วยเครื่องมือประมงปั่นไฟ ซึ่งทำให้การคำนวณ MSY ของกรมประมงยิ่งไม่เป็นจริง และการกำหนดโควตายิ่งไม่เป็นจริงเข้าไปใหญ่ (พ.ร.ก.ประมง 2558 ก็ยังยอมให้มีอวนลาก ตาอวน 4 ซม.)
3.การออกมาเรียกร้องของเรือประมงอวนลากที่บอกว่าไม่สนใจ EU ทำให้เกิดความงุนงงว่าอุตสาหกรรมประมงกับอุตสาหกรรมส่งออกอาหารทะเล ที่ใช้ทรัพยากรจากบ้านเรามันไม่เกี่ยวโยงกันเลยหรือ (ไม่นับปลาทูน่า) ทำให้นึกถึงว่าคนเราเอาประโยชน์ของตัวเองจริงๆ อะไรที่พ้นเลยตัวเองไปแล้วกลับไม่พยายามเข้าใจ และช่วยกันแก้ไขปัญหา
4.เรื่องที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ทุกคนผลักปัญหาเรื่องใบเหลือง IUU Fishing ว่าเป็นปัญหาของกรมประมง (ซึ่งจริงๆ กรมประมงเป็นต้นเหตุของปัญหาที่ไม่มีการจัดการที่ดีมาในอดีต) แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องกลับมามองตัวเองว่า ตัวเองคือตัวปัญหาหรือไม่ ที่ทำลายทรัพยากรทะเลไทยมาจนถึงป่านนี้ มองแต่ว่าตนเองเป็นผู้ถูกกระทำเพียงอย่างเดียว การแก้ปัญหาใบเหลือง IUU Fishing คงไม่ไปไหน
คนที่กอบโกยมาเยอะแล้ว หยุดให้ทะเลได้พักบ้างรับรองทะเลไทยกลับฟื้นคืนมาอย่างรวดเร็วแน่นอนร่วมกัน #ทำประมงด้วยความรับผิดชอบ #จับปลาตัวใหญ่ทะเลไทยยั่งยืน