ย้อนกลับไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา “ผู้จัดการ มอเตอร์ริ่ง” นำเสนอข่าว การเปลี่ยนตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเมืองไทยของแบรนด์ “จากัวร์และแลนด์โรเวอร์” ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอย่างมากเนื่องจากตัวแทนเดิมทำตลาดได้เพียงประมาณ 2 ปีเท่านั้น แล้วตัวแทนใหม่ที่มาทำตลาดแทนนั้นเป็นใครมาจากไหน ทิศทางในอนาคตของผู้ใช้รถยนต์ จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ในเมืองไทย จะเป็นอย่างไร เรามีคำตอบจากการสัมภาษณ์ “โรบิน โคลแกน” กรรมการผู้จัดการ แลนด์โรเวอร์ เอเชียแปซิฟิก
1. ทำไมจึงเลือกอินช์เคปให้มาทำตลาดในประเทศไทย
- จากัวร์แลนด์โรเวอร์ และ อินช์เคป มีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจและความมุ่งมั่นที่สอดคล้องกัน คือ สร้างความเติบโตของแบรนด์ในประเทศไทยอย่างยืนยาว , พัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพ และยกระดับศูนบ์บริการและโชว์รูมให้ได้มาตรฐานสากล
ความร่วมมือในครั้งนี้ ทำให้ราคารถยนต์จากจากัวร์แลนด์โรเวอร์ลดลง เฉลี่ย 5-10% เพราะอินช์เคปสามารถสั่งรถได้ในปริมาณที่เหมาะสม
2. เป้าหมายการทำตลาดในเมืองไทย
- ถ้าระบุเป็นตัวเลขเป้าหมายยอดขายเราไม่สามารถบอกได้ เพราะเราเป็นบริษัท จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศอังกฤษ ซึ่งมีข้อห้ามในประเด็นนี้ แต่เราสามารถบอกได้ในแง่ของสัดส่วน ซึ่งปัจจุบัน ประเทศไทยมีสัดส่วนการขายแลนด์โรเวอร์ที่ 70% และจากัวร์ 30% คาดว่าปีหน้า สัดส่วนจะเปลี่ยนเป็น 50% ต่อ 50% เนื่องจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของจากัวร์
3. คาดการณ์ต่อตลาดรถยนต์หรูในประเทศไทยอย่างไร
- มองในแง่ของสัดส่วนเปรียบเทียบระหว่างตลาดของประเทศที่พัฒนาแล้ว ตลาดรถยนต์หรูจะมีสัดส่วนการขายราว 10% ของตลาดรวมทั้งหมด ขณะที่สัดส่วนของประเทศกำลังเติบโตจะมีสัดส่วนประมาณ 4-5% ของตลาดรวม ทั้งนี้เรามองภาพรวมตลาดอาเซียน ที่มีประชากรรวมราว 600 ล้านคน เป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ซึ่งกำลังซื้อขอชนชั้นกลางขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
หากรัฐบาลมีความชัดเจนในด้านการสนับสนุนรถพลังงานไฟฟ้า ทางเราก็พร้อมที่จะสนองนโยบายดังกล่าว เนื่องจากเรามีรถไฟฟ้าที่กำลังจะเปิดตัว ขอเพียงนโยบายที่สนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม
4. นโยบายสำหรับลูกค้าที่ใช้รถจากัวร์และแลนด์โรเวอร์เดิม
-เราพร้อมดูแลทุกคนทุกคัน โดยทางอินช์เคป มีแผนการลงทุนและการขยายการบริการที่ชัดเจน โดยมีทุนจดทะเบียนในประเทศไทยจำนวน 100 ล้านบาท แต่ตัวเลขที่อินช์เคปจะลงทุนนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอินช์เคปก็เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของอังกฤษเช่นเดียวกับ จากัวร์แลนด์โรเวอร์ ซึ่งในช่วงแรกอาจจะมีศูนย์บริการที่กรุงเทพฯ เพียงแห่งเดียวก่อน จากนั้นจึงค่อยขยายไปยังต่างจังหวัดเพิ่มเติม
5. กล่าวถึงภาพรวมของจากัวร์แลนด์โรเวอร์
จากัวร์แลนด์โรเวอร์มีผลประกอบการทั่วโลกเติบโตรวม 24% โดยแลนด์โรเวอร์มีการเติบโต 15% จากัวร์ 74%
สัดส่วนยอดขายทั่วโลก 75% เป็นแลนด์โรเวอร์ และ 25% เป็นจากัวร์
จากัวร์แลนด์โรเวอร์มองว่าเทรนตลาดรถยนต์ของเอเซียแปซิฟิกมีโอกาสที่เติบโตสูงมากทั้งในประเทศ จีน เกาหลี ฮ่องกง มาเก๊า โดยเฉพาะตลาดรถยนต์เอสยูวี ซึ่งเป็นรถยนต์ที่เหมาะสมกับคนทุกวัย จากัวร์แลนด์โรเวอร์ ได้นำเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้ในรถมากขึ้นเพื่อเชื่อมต่อระบบข้อมูลรถยนต์กับผู้ขับขี่ และยังให้ความสำคัญกับรถไฟฟ้า ซึ่งถ้ามีโอกาสทางการตลาดและนโยบายทางรัฐบาลสนับสนุนก็จะนำมาให้คนไทยได้สัมผัสอย่างแน่นอน
1. ทำไมจึงเลือกอินช์เคปให้มาทำตลาดในประเทศไทย
- จากัวร์แลนด์โรเวอร์ และ อินช์เคป มีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจและความมุ่งมั่นที่สอดคล้องกัน คือ สร้างความเติบโตของแบรนด์ในประเทศไทยอย่างยืนยาว , พัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพ และยกระดับศูนบ์บริการและโชว์รูมให้ได้มาตรฐานสากล
ความร่วมมือในครั้งนี้ ทำให้ราคารถยนต์จากจากัวร์แลนด์โรเวอร์ลดลง เฉลี่ย 5-10% เพราะอินช์เคปสามารถสั่งรถได้ในปริมาณที่เหมาะสม
2. เป้าหมายการทำตลาดในเมืองไทย
- ถ้าระบุเป็นตัวเลขเป้าหมายยอดขายเราไม่สามารถบอกได้ เพราะเราเป็นบริษัท จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศอังกฤษ ซึ่งมีข้อห้ามในประเด็นนี้ แต่เราสามารถบอกได้ในแง่ของสัดส่วน ซึ่งปัจจุบัน ประเทศไทยมีสัดส่วนการขายแลนด์โรเวอร์ที่ 70% และจากัวร์ 30% คาดว่าปีหน้า สัดส่วนจะเปลี่ยนเป็น 50% ต่อ 50% เนื่องจากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของจากัวร์
3. คาดการณ์ต่อตลาดรถยนต์หรูในประเทศไทยอย่างไร
- มองในแง่ของสัดส่วนเปรียบเทียบระหว่างตลาดของประเทศที่พัฒนาแล้ว ตลาดรถยนต์หรูจะมีสัดส่วนการขายราว 10% ของตลาดรวมทั้งหมด ขณะที่สัดส่วนของประเทศกำลังเติบโตจะมีสัดส่วนประมาณ 4-5% ของตลาดรวม ทั้งนี้เรามองภาพรวมตลาดอาเซียน ที่มีประชากรรวมราว 600 ล้านคน เป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ซึ่งกำลังซื้อขอชนชั้นกลางขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
หากรัฐบาลมีความชัดเจนในด้านการสนับสนุนรถพลังงานไฟฟ้า ทางเราก็พร้อมที่จะสนองนโยบายดังกล่าว เนื่องจากเรามีรถไฟฟ้าที่กำลังจะเปิดตัว ขอเพียงนโยบายที่สนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรม
4. นโยบายสำหรับลูกค้าที่ใช้รถจากัวร์และแลนด์โรเวอร์เดิม
-เราพร้อมดูแลทุกคนทุกคัน โดยทางอินช์เคป มีแผนการลงทุนและการขยายการบริการที่ชัดเจน โดยมีทุนจดทะเบียนในประเทศไทยจำนวน 100 ล้านบาท แต่ตัวเลขที่อินช์เคปจะลงทุนนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอินช์เคปก็เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของอังกฤษเช่นเดียวกับ จากัวร์แลนด์โรเวอร์ ซึ่งในช่วงแรกอาจจะมีศูนย์บริการที่กรุงเทพฯ เพียงแห่งเดียวก่อน จากนั้นจึงค่อยขยายไปยังต่างจังหวัดเพิ่มเติม
5. กล่าวถึงภาพรวมของจากัวร์แลนด์โรเวอร์
จากัวร์แลนด์โรเวอร์มีผลประกอบการทั่วโลกเติบโตรวม 24% โดยแลนด์โรเวอร์มีการเติบโต 15% จากัวร์ 74%
สัดส่วนยอดขายทั่วโลก 75% เป็นแลนด์โรเวอร์ และ 25% เป็นจากัวร์
จากัวร์แลนด์โรเวอร์มองว่าเทรนตลาดรถยนต์ของเอเซียแปซิฟิกมีโอกาสที่เติบโตสูงมากทั้งในประเทศ จีน เกาหลี ฮ่องกง มาเก๊า โดยเฉพาะตลาดรถยนต์เอสยูวี ซึ่งเป็นรถยนต์ที่เหมาะสมกับคนทุกวัย จากัวร์แลนด์โรเวอร์ ได้นำเทคโนโลยีดิจิตอลมาใช้ในรถมากขึ้นเพื่อเชื่อมต่อระบบข้อมูลรถยนต์กับผู้ขับขี่ และยังให้ความสำคัญกับรถไฟฟ้า ซึ่งถ้ามีโอกาสทางการตลาดและนโยบายทางรัฐบาลสนับสนุนก็จะนำมาให้คนไทยได้สัมผัสอย่างแน่นอน