ตรัง - หญิงชราวัย 82 ปี ชาวตรัง ใจกล้าเดินทางคนเดียวไปพระบรมมหาราชวัง เพื่อถวายสักการะพระบรมศพฯ จนสร้างความประทับใจ และเป็นที่ฮือฮาของชาวบ้าน เจ้าตัวบอกตื้นตันใจเป็นที่สุดที่คนธรรมดาได้เข้าไปถึงในวัง และได้กราบ “ในหลวง รัชกาลที่ ๙”
วันนี้ (3 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วิทยาลัยเทคนิคตรัง อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นสถานที่ค้าขายของ นางแดง จงทอง แม่ค้าขายถั่วต้ม วัย 82 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ม.5 ต.นาบินหลา อ.เมือง จ.ตรัง หญิงชราเฒ่าผู้มีหัวใจอาจหาญกล้าเดินทางไปกรุงเทพฯ เพียงลำพัง เพื่อเข้าไปถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งก็ได้สร้างความประทับใจ และฮือฮามากพอสมควรสำหรับผู้ที่ได้ทราบเรื่องราว
โดย ยายแดง กล่าวว่า เป็นความตั้งใจของตนเอง เมื่อทราบข่าวว่าจะมีการเปิดให้ประชาชนได้แสดงอาลัยพระบรมศพของในหลวง ตนก็จัดเตรียมข้าวของ เสื้อผ้า เดินทางไปสถานีรถไฟตรัง เพื่อซื้อตั๋วรถไฟชั้น 3 ราคา 245 บาท เพื่อต้องการจะไปแสดงความอาลัย โดยตนเดินทางในวันเสาร์ที่ 28 ต.ค.59 และถึงเช้าวันอาทิตย์ที่ 29 ต.ค.59 และมีเสื้อผ้าสีดำติดตัวไปเพียง 2 ชุด และเดินทางคนเดียว คิดว่าค่อยไปหาเพื่อนเอาข้างหน้า และไม่รู้สึกกลัว หรือประหม่าใดๆ เพราะเคยไปเยี่ยมลูกสาวที่ จ.ชลบุรี และเดินทางคนเดียวอยู่เรื่อยๆ
ส่วนในพระบรมมหาราชวัง ที่ตั้งพระบรมศพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ยังไม่เคยเลยสักครั้งเดียว แต่โชคดีที่บนรถไฟตนได้รู้จักกับสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ต้องการจะไปพระบรมมหาราชวัง เช่นกัน ตนก็ได้อาศัยตามเขาไป ตนแต่งกายด้วยเสื้อ และนุ่งผ้าถุงสีดำ แต่ไม่ได้สวมรองเท้า เนื่องจากเท้าตนทั้งสองข้างผิดรูปเพราะประสบอุบัติเหตุเมื่อสมัยสาวๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาในการเดินทางแต่อย่างใด
ซึ่งเมื่อไปถึงก็ได้ไปลงทะเบียนตามจุดที่เจ้าหน้าที่กำหนดเพื่อต่อคิวเข้าไปถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งเป็นวันแรกที่เปิดให้ประชาชนถแสดงความอาลัย และก็คอยฟังเสียงขานชื่อตน ซึ่งวันดังกล่าวมีคนเยอะมาก และหลายคนก็เดินทางมาจากต่างจังหวัดเช่นเดียวกับตน
ยายแดง กล่าวต่อไปว่า ก่อนที่ตนจะเดินทางไปครั้งนี้ คนแถวบ้านต่างก็พูดกันต่างๆ นานาว่า เขาคงไม่ให้เข้าหรอกเพราะเป็นชาวบ้านธรรมดา รองเท้าก็ไม่ได้ใส่ แต่งตัวก็เสื้อผ้าเก่าๆ แต่ตนไม่ได้สนใจ เมื่อตั้งใจแล้วก็ขอไปสักครั้งในชีวิต แต่เมื่อไปถึงตนก็ไม่กล้าไปต่อคิว เพราะกลัวสำนักพระราชวังว่าไม่มีรองเท้า แต่คิดผิด ตนกลับได้รับการดูแลอย่างดี ได้นั่งรถเข็น มีเจ้าหน้าที่คอยบริการ แถมตนได้แสดงความอาลัยก่อนคนอื่นๆ ด้วยซ้ำ เพราะอายุมากแล้ว ทำให้รู้สึกปลื้มปีติ จนพูดไม่ออก ซาบซึ้งใจ และดีใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าตนจะมีโอกาสในครั้งนี้ จากนั้นก็ได้มีคนมาขอถ่ายรูป และพูดคุยสอบถามกับตน จนมีการลงในโซเชียลมีเดีย ทำให้หลายคนรู้จักตนมากยิ่งขึ้น
สำหรับ ยายแดง นั้นยึดอาชีพขายถั่วต้มมานานกว่า 40 ปี ตามสถานที่ราชการ โรงเรียน วิทยาลัย และชุมชนใน จ.ตรัง มีบุตร 5 คน ผู้ชาย 4 คน และผู้หญิง 1 คน ทุกคนประกอบอาชีพรับจ้างกรีดยาง
ยายแดง บอกว่า ตนทำงานมาไม่เคยหยุดพัก ได้กำไรไม่มากมายนัก แต่ก็รักที่จะทำงาน ไม่คิดจะเป็นภาระลูกหลาน และปัจจุบันก็อยู่เพียงลำพัง ส่วนลูกๆ ก็ไปทำมาหากินต่างอำเภอ หรือต่างจังหวัดกันหมด อาหารการกินตนก็ดูแลตัวเอง และโชคดีที่ไม่มีโรคประจำตัว กินอิ่มนอนหลับ ตื่นเช้าก็ออกไปขายถั่ว ชาวบ้านร้านค้ารู้จักตนดี ได้เงินก็ประหยัดกินประหยัดใช้ เก็บออม ตามแนวทางพระราชดำริของในหลวง ที่เคยบอกคนไทยไว้ และตนจะยึดเป็นหลักชีวิตต่อไป