เชียงใหม่ - ตลาดนัดค้ากุ้งสวยงาม-กุ้งก้ามแดงน้ำจืดเชียงใหม่คึกคัก คนแห่ซื้อไปเลี้ยงจนช้อนขายกันมือเป็นระวิงทุกสัปดาห์ แถมไม่พอขาย ทำเงินกันวันละนับแสนบาท ขณะที่หนุ่ม อปท.ตั้งบ่อซีเมนต์ใต้ถุนบ้านเลี้ยง รุ่นแรกประกาศขายผ่านโซเชียล คนตามซื้อถึงบ้านได้เงินแล้วหลายหมื่น ลุยเลี้ยงต่อทันที
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า ตลาดค้ากุ้งสวยงาม ตลาดนัดคำเที่ยง ในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังคงคึกคักต่อเนื่อง โดยในวันศุกร์ (2 ก.ย.) ที่ผ่านมา บรรดาวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา รวมทั้งประชาชนทั่วไปพากันมาเลือกซื้อกุ้งก้ามแดง และกุ้งสีสวยงาม เพื่อนำไปเลี้ยงสร้างความเพลิดเพลินในบ้านพักหรือหอพัก รวมทั้งซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กุ้งไปเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์ขายกันคับคั่ง จนไม่พอขายกันทีเดียว
พ่อค้าแม่ค้าแต่ละรายต้องช้อนกุ้งกันมือเป็นระวิง โดยมีทั้งกุ้งขนาด 4 นิ้วขึ้นไป ราคาตัวละ 300 บาท ไปจนถึงราคา 800 บาท ส่วนตัวเล็กราคาตัวละ 30-100 บาท นอกจากนั้น อุปกรณ์ในการเลี้ยงกุ้งสวยงามก็ยังขายดี ทั้งหลอดไฟส่องสว่างในตู้เลี้ยง อุปกรณ์ซ่อนตัว ตู้กระจก เครื่องออกซิเจน รวมไปถึงสาหร่ายที่ชาวบ้านเก็บมาจากแหล่งน้ำจืดที่นำมาวางขายราคากิโลกรัมละ 35 บาท จนหมดอย่างรวดเร็ว
นายศิโรตม์ กุยแก้ว อายุ 36 ปี หนุ่มในกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงกุ้งสีสวยงาม กล่าวว่า ได้รวมกลุ่มนำกุ้งก้ามแดง หรือกุ้งสวยงามมาวางขายที่ตลาดคำเที่ยง เพื่อกระจายรายได้ให้แก่กลุ่มคนเลี้ยง เริ่มแรกมีเพียงไม่กี่ราย ขณะนี้มีสมาชิกในกลุ่มมากกว่า 1 หมื่นรายแล้ว ที่นิยมเพาะเลี้ยงกุ้งสวยงาม
“ทุกวันศุกร์ เราจะรวมกลุ่มกันนำมาขายที่ตลาดนัดคำเที่ยง ตั้งแต่ 4 โมงเย็น ไปจนถึง 4 ทุ่ม สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาททีเดียว จากนี้ไปเชื่อว่าสมาชิกจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะกระแสกำลังแรง คนนิยมเลี้ยงมากขึ้น เรียกว่ายังผลิตไม่พอต่อความต้องการทั้งกุ้งก้ามแดง และกุ้งสวยงาม”
ขณะที่ นายพันธ์ศักดิ์ ตาคะเล อายุ 40 ปี ชาวบ้านน้ำบ่อเย็น ต.ป่าแดด ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีอาชีพเป็นผู้ช่วยช่างเขียนแบบเทศบาลตำบลป่าแดด ใช้พื้นที่ใต้ถุนบ้าน และหลังบ้านเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามแดง หรือกุ้งเครย์ฟิช โดยซื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กุ้งมาเพาะเลี้ยง คู่ละประมาณ 500 บาท มาเลี้ยงในถังพลาสติก และบ่อซีเมนต์
นายพันธ์ศักดิ์ บอกว่า ใช้เวลาประมาณ 3 เดือนก็สามารถขายทำเงินได้แล้ว จนไม่พอขาย โดยลูกกุ้งตัวละ 7 บาท ถึง 15 บาท ส่วนพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ที่มีอายุเกิน 6 เดือน หรือมีขนาดประมาณ 4 นิ้ว ขายราคาคู่ละ 750 บาท รุ่นแรกขายลูกกุ้งไปแล้วประมาณ 3 พันตัว ได้เงินมาหลายหมื่นบาท และกำลังเพาะเลี้ยงเพิ่มอีกจากพ่อพันธ์แม่พันธุ์ไม่ต่ำกว่า 50 ตัว
นายพันธ์ศักดิ์ บอกว่า วิธีการเลี้ยงไม่ยุ่งยาก เลี้ยงในตะกร้าแยกขัง ในน้ำต้องให้ออกซิเจนตลอด จนกว่าจะให้ผสมพันธุ์ จึงนำมาขังด้วยกัน จากนั้นประมาณ 1 เดือน กุ้งก็จะไข่ และออกลูก แม่พันธุ์ 1 ตัว จะได้ลูกประมาณ 200 ตัว ประกาศขายทางโซเซียลก็จะมีลูกค้ามาซื้อถึงที่บ้าน
แต่ถ้าหากจะเพาะเลี้ยงเพื่อเอาพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ดี ต้องซื้อจากแหล่งที่ต่างกันเพื่อไม่ให้เป็นสายเลือดเดียวกัน และนำไปเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ขนาดใหญ่ นานอย่างน้อย 6-8 เดือน ในบ่อต้องมีอุปกรณ์ให้กุ้งได้ไต่ หรือซ่อนตัว จึงจะโตได้ขนาดน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม จะมีประมาณ 7 ตัว ราคาขายกิโลกรัมละ 1 พันบาท หากขายเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ จะได้ราคาดีกว่า 1 คู่ ราคา 750 บาท
“ตอนนี้ตลาดร้านอาหารยังมีความต้องการสูง สร้างรายได้เสริมเป็นอย่างดี เดือนละไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท หากเลี้ยงในนาข้าว หรือในบ่อดินจะโตเร็วกว่า ซึ่งกุ้งจะหากินได้ดีกว่า แต่ถ้าเลี้ยงในบ่อซีเมนต์จะให้อาหารจำพวกอาหารเม็ด ไส้เดือน ฟักทอง ถั่วต้ม ข้าวโพด หรือมะละกอ การเลี้ยงต้องเปลี่ยนน้ำทุก 1 เดือน หากเป็นระบบน้ำวนประมาณ 2 เดือน เปลี่ยนน้ำ 1 ครั้ง แต่ต้องใช้น้ำธรรมชาติเลี้ยง หากน้ำประปาจะมีคลอรีน”
นอกจากนั้น นายพันธ์ศักดิ์ ยังใช้บ่อหลังบ้านเพาะเลี้ยงกบพื้นเมือง ให้มารดาปรุงอาหารขายที่บ้าน ระยะเวลาการเลี้ยงแค่ 3 เดือน กบจะมีขนาดใหญ่ 3 ตัว ประมาณ 1 กิโลกรัม หากซื้อจะราคากิโลกรัมละ 80 บาท ทำให้ประหยัดต้นทุนกว่า เมนูส่วนใหญ่กบทอดกระเทียมพริกไทย หรือแกงแคกบ