ปัตตานี - หนุ่มกำพร้าพ่อทำงานจิตอาสาเพื่อในหลวงร่วม 10 ปี ดีใจที่ได้เป็นตัวอย่างให้แก่สังคม ยืนยันเดินหน้าทำความดีต่อไป เผยชีวิตส่วนตัวสุดรันทด ไม่เคยได้เห็นหน้าตาพ่อบังเกิดเกล้า
วันนี้ (27 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.ปัตตานี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก นายพิษณุ ขำบุญเกิด หรือชื่อที่คนมักจะเรียกขานว่า นายสำลี ที่มีรูปร่างท้วมใหญ่ ตัวดำ โดยผู้คนทั่วไปมักจะเห็น นายสำลี คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนตามสี่แยกต่างๆ และคอยช่วยเหลือคนแก่ และเด็กๆ ข้ามถนน เห็นจนชินตาทุกวัน
นอกจากนี้ ยังเสียสละเวลาส่วนตัวเข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยในโรงพยาบาลปัตตานี โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ถึงแม้ว่าห้วงเวลาจะดึกมากแค่ไหน แต่เมื่อมีเหตุการณ์ความไม่สงบ และมีผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ก็จะเห็น นายสำลี คอยนำเปลคนป่วยมาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉิน จนเป็นที่รักใคร่ของประชาชน ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี
ซึ่งหลายคนอาจจะเข้าใจว่า นายสำลี เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่แท้จริงแล้วตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่นายสำลี ทำงานช่วยเหลือประชาชนนั้นเป็นการช่วยเหลือด้านจิตอาสา โดยไม่เคยได้รับค่าตอบแทนใดๆ สิ่งที่ นายสำลี ทำไปก็เพื่อทำความดีถวายแด่ในหลวง และต้องการเดินตามรอยเท้าของพ่อหลวง ที่ทรงเหน็ดเหนื่อย บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า โดยไม่รู้จักทรงเหน็ดเหนื่อย ถึงแม้ว่าจะไม่มีค่าตอบแทน
แม้กระทั่งชุดที่ใส่ยังต้องนำเงินส่วนตัวมาตัดชุด แต่ก็ไม่น้อยใจ เพราะมีความตั้งใจที่จะทำความดี เพื่อในหลวง และก็มีความภาคภูมิใจที่ชุดที่ใส่ได้ปักไว้ว่า “จิตอาสาเพื่อในหลวง” ซึ่งคำนี้ทำให้นายสำลี ทำงานโดยไม่รู้สึกย่อท้อ และเหน็ดเหนื่อยในการช่วยเหลือประชาชน และพร้อมที่จะทำงานจิตอาสาต่อไปเพื่อพ่อหลวงของแผ่นดิน
นายพิษณุ ขำบุญเกิด หรือสำลี อายุ 32 ปี กล่าวว่า ตนเองไม่ใช่คนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ตนเองก็อยู่ในจังหวัดปัตตานีกว่า 10 ปี การทำงานจิตอาสาในครั้งนี้ก็เพื่อพระองค์ท่านที่อยู่ในใจตนมาตลอด และเป็นเสาหลักที่ใหญ่ที่สุดที่หาเทียบไม่ได้ พระองค์ท่านเป็นรูปแบบตัวอย่างจิตอาสาที่ชื่อ นายสำลี จนถึงทุกวันนี้ เพราะทุกครั้งที่พระองค์ท่านเสด็จไปที่ไหน ตนเองจะคอยติดตามในสื่อ และจดจำภาพของการทำงานของพระองค์ท่านเพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานจิตอาสาของตนทุกครั้งในการทำงานโบกรถ และที่โรงพยาบาล จนมีคนถามที่ปักไว้บนเสื้อว่า จิตอาสาเพื่อในหลวง เพราะอะไร ตนก็ได้ตอบว่า ตนตั้งใจทำเพราะในหลวงจริงๆ
ตนมีเหรียญพระองค์ท่านติดตัวไว้ตลอด เหรียญนี้เป็นเหรียญที่จูงใจตัวตนเองว่า พระองค์ท่านทรงอยู่ในใจตลอด แต่เมื่อรู้พระองค์ท่านทรงสวรรคต ตนเองแทบจะหัวใจวาย เพราะไม่คิดว่าเสาหลักที่หาเทียบไม่ได้ และเป็นต้นแบบที่ดีงามได้จากเราไป แต่พระองค์ท่านได้ตรัสเสมอว่า ถึงพระองค์ท่านจะจากไปแต่ก็ยังอยู่ในหัวใจเสมอ คนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ รับรู้ได้ว่าพระองค์ท่านไม่ได้หายไปจากจิตใจของพวกเรา พระองค์ท่านยังอยู่กับพวกเราอยู่ และตนก็จะทำงานจิตอาสาเพื่อพระองค์ท่านต่อไป
สำหรับ นายพิษณุ ขำบุญเกิด เป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นหน้าพ่อแท้ๆ ต้องอยู่กับแม่ตามลำพัง ด้วยฐานะยากจนแม่นำตัวไปฝากไว้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าตั้งแต่เล็กๆ ที่ จ.นครศรีธรรมราช จนกระทั่งวัย 10 ขวบ แม่น้อม ก็ได้ขอนำไปเลี้ยงดูเป็นบุตรบุญธรรม และได้ย้ายไปอยู่ที่ จ.เชียงราย จนกระทั่งอายุ 17 ปี ตนมีความรู้สึกอยากเจอแม่แท้ๆ จึงได้กลับไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จ.นครศรีธรรมราช เพื่อหาประวัติว่าแม่ของตนจึงรู้ว่าแม่ได้ย้ายไปทำงานที่ จ.ปัตตานี ตนจึงลงไปหาจนกระทั่งพบกับแม่แต่ก็ได้อยู่กับแม่ได้เพียง 2 ปีแม่ก็เสียชีวิต ปัจจุบัน ตนอยู่กับลูกสาววัย 7 ขวบ ส่วนภรรยาเลิกรากัน 3 ปีแล้ว
