ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “น้องไอดิน” ได้ชีวิตใหม่ เปลี่ยนชื่อแล้วเป็น “อะตอม” ครอบครัวชาวสวีเดนรับไปอยู่ด้วย เผยเดือนธันวาคม 2559 นี้เดินทางมาที่ขอนแก่นเพื่อรับไปเป็นบุตรบุญธรรม
จากเหตุสะเทือนใจเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมามีผู้พบทารกเพศชายแรกเกิดประมาณ 1 วัน ถูกแทงตามร่างกายมีบาดแผลทั้งตัว 14 แผล แล้วนำไปฝังดินภายในป่าสวนยูคาลิปตัส ใกล้ถนนบ้านโนนสวรรค์-บะแค ห่างจากหมู่บ้านโนนสวรรค์ประมาณ 2 กิโลเมตร ต.คอนฉิม อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น ต่อมา ทารกรายดังกล่าวถูกนำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลขอนแก่น และตั้งชื่อให้ว่า “น้องไอดิน” กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัว น.ส.สุดา ทองดี หรือมล อายุ 42 ปี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณที่พบ “น้องไอดิน”
โดย น.ส.สุดารับสารภาพว่า ทารกเพศชายที่ถูกแทงและถูกฝังทั้งเป็นคือลูกของตัวเอง เหตุคลอดจากการแท้งขณะทำงานตัดไม้ที่ทุ่งนาใกล้จุดฝังทารก ประกอบกับคิดว่าตนคงไม่สามารถเลี้ยงดูลูกที่เพิ่งคลอดออกมาได้อีกเพราะมีลูกชายอยู่แล้ว 3 คน เนื่องจากฐานะยากจน ปัจจุบันน้องไอดินอยู่ที่สถานสงเคราะห์เด็กบ้านแคนทอง จังหวัดขอนแก่น
ล่าสุดวันนี้ (10 ต.ค. 59) ที่อาคารพวงชมพู สถานสงเคราะห์เด็กบ้านแคนทอง ถ.กสิกรทุ่งสร้าง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น สถานที่ดูแลและเลี้ยงดู “น้องไอดิน” เพราะมีข่าวแน่ชัดแล้วว่ามีชาวต่างประเทศมาขอรับ “น้องไอดิน” ไปเป็นบุตรบุญธรรม โดยได้เข้าพบกับนายศุภชัย ปทุมชาติ ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์เด็กบ้านแคนทอง จ.ขอนแก่น กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)
นายศุภชัย ปทุมชาติ ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์เด็กบ้านแคนทอง จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า “น้องไอดิน” มาอยู่ที่บ้านแคนทองได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์สมวัยเด็กอายุ 7 เดือน 17 วัน ซึ่งได้พบแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่นตามนัดหมายมาตลอด บาดแผลที่ถูกของแหลมคมทิ่มแทงหายเป็นปกติทุกอย่าง ปัจจุบันมีชาวต่างชาติจำนวนมากได้ยื่นผ่านกรมกิจการเด็กและเยาวชนเพื่อขอรับเด็กไทยไปเป็นบุตรบุญธรรม เมื่อวันที่ 27ก.ย.ที่ผ่านมาได้พิจารณาคุณสมบัติของชาวต่างชาติที่ต้องการรับน้องไอดินไปเป็นบุตรบุญธรรม โดยคณะกรรมการได้พิจารณาอย่างถ่องแท้และมีมติเห็นสมควรให้ครอบครัวหนึ่งที่เป็นชาวสวีเดนเป็นพ่อแม่บุญธรรมของ “น้องไอดิน” เพราะรายได้ของพ่อบุญธรรมมีรายได้มากกว่า 2 แสนกว่าบาท และเป็นครอบครัวที่มีอายุ 33 กับ 34 ปี อยู่ในประเทศสวีเดน มีการงานที่ดีหลักฐานชีวิตมั่นคง โดยทางกรมกิจการเด็กและเยาวชนได้ให้พ่อบุญธรรมแม่บุญธรรมได้เลี้ยงดูจนครบ 6 เดือนไปก่อน หลังจากนั้นจะพิจาณาอีกครั้งว่า “น้องไอดิน” อยู่กับพ่อแม่บุญธรรมชาวสวีเดนได้หรือไม่ ถ้าไม่มีปัญหาก็จะอยู่ตลอดไปในชีวิตของน้องไอดิน
ทั้งนี้จะใช้ชื่อจริงตามที่แม่บังเกิดเกล้าตั้งให้ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเล่นจากน้องไอดินเป็น “น้องอะตอม” ประมาณต้นเดือนธันวาคม 2559 ครอบครัวชาวสวีเดนจะเดินทางมาที่ประเทศไทย และมาที่ จ.ขอนแก่น เพื่อมาขอรับ “น้องไอดิน” ไปเลี้ยงดูอย่างถูกต้องตามกฎหมายของประเทศไทยต่อไป ถือเป็นความโชคดีที่เด็กน้อยที่ครั้งหนึ่งเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด จะได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ มีพ่อแม่ที่รักเลี้ยงดู