หมู่บ้าน “ตันหยงสตาร์” ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง เป็นชุมชนที่มีมาแต่โบราณนับพันปี และมีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศด้านชายฝั่งตะวันตก เช่น สิงคโปร์ ปีนัง และหัวเมืองชายฝั่งอื่นๆ ด้านคาบสมุทรมลายู
เนื่องจากเมื่อ พ.ศ.2440 สมัยที่ “พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภัคดี” (คอซิมบี้ ณ ระนอง) มาเป็นเจ้าเมืองตรัง ได้ย้ายที่ว่าการอำเภอปะเหลียน มาตั้งอยู่ที่ “บ้านหยงสตาร์” เพราะขณะนั้นมีความเจริญอย่างมาก ก่อนที่ต่อมา จะมีการย้ายตัวอำเภอ มาอยู่ที่ตำบลท่าข้าม จนถึงปัจจุบัน
ภูมิประเทศของชุมชนแห่งนี้มีส่วนสำคัญต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ และขนบธรรมเนียมประเพณี ตลอดจนนิสัยใจคอ เพราะพื้นที่มีลักษณะเป็นแหลมยื่นลงสู่ทะเลอันดามัน
ซึ่งถ้ามองจากภาพถ่ายดาวเทียมจะเห็นลักษณะคล้ายหัวเผือก คือ คอดกิ่วด้านบน แล้วค่อยๆ ป่องออกตรงกลาง แต่พอไปด้านล่างจะค่อยๆ เรียวเล็กลงตรงจุดปลายแหลม ส่วนเศรษฐกิจของหมู่บ้านก็ดีมาก โดยเฉพาะการทำประมง
ขณะเดียวกัน การท่องเที่ยวของหมู่บ้าน “ตันหยงสตาร์” ก็มีความสนใจไม่น้อย ดังนั้น อำเภอปะเหลียน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตรัง สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง ชมรมคนรักปะเหลียน และหลายภาคส่วนในพื้นที่จึงได้ผลักดันตำบลท่าข้าม ให้เป็นจุดขายใหม่ของทะเลอันดามันทางด้านฝั่งทิศใต้ เนื่องจากสามารถเชื่อมไปยังพื้นที่ข้างเคียงอย่างจังหวัดสตูล และประเทศมาเลเซีย
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น “เกาะเหลาตรง” ซึ่งในอดีตประมาณ 200 ปีก่อน เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวจีนที่อพยพมาจากเมืองปีนัง และชาวอินเดียที่เดินทางมาติดต่อค้าขายกับเมืองไทย โดยนำเรือมาพักที่เกาะแห่งนี้ก่อนขึ้นไปยังท่าเทียบเรือหยงสตาร์ จังหวัดตรัง มีหลักฐานปรากฏเป็นศาลทวดโต๊ะสีนาเตะ และเศษจานชามถ้วยไห ปัจจุบันถึงจะกลายเป็นเกาะร้างไปแล้ว แต่ก็ยังมีภูมิทัศน์โดยรอบที่สวยงาม ทั้งชายหาด โขดหิน และป่าชายเลน
นอกจากนั้น ก็ยังมี “ทะเลแหวก” แห่งใหม่ล่าสุดของทะเลอันดามัน บริเวณหมู่ที่ 2 บ้านหยงสตาร์ ซึ่งมีลักษณะเป็นเนินทรายผืนใหญ่ที่โผล่ขึ้นมากลางทะเล ขนาดกว้าง 5-10 เมตร และยาว 300 เมตร
โดยนักท่องเที่ยวสามารถมาชมได้ทุกวัน ในช่วงเวลาบ่าย 2 โมง ถึง 3 โมงเย็น ด้วยการนั่งเรือมาจากท่าเทียบเรือด่านศุลกากรท่าข้าม ราว 10 นาที ก็จะได้พบกับความงดงามทางธรรมชาติที่ชวนตื่นเต้นไม่แพ้ที่อื่นใด
อีกหนึ่งในจุดเด่นก็คือ “สันดอนหอย” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า หอกลาง บริเวณหมู่ที่ 4 บ้านทุ่งรวงทอง ซึ่งมีลักษณะเป็นลานเปลือกหอยนานาชนิดนับแสนๆ ตัว โดยจุดกว้างสุดมีขนาด 50 คูณ 100 ตารางเมตร หรือเท่ากับสนามฟุตบอล และยาว 3-4 กิโลเมตร แบบสุดลูกหูลูกตา
ทั้งนี้ หากมองในมุมสูงจะแลเห็นเหมือนกับมังกรกำลังนอนอยู่กลางทะเล โดยนักท่องเที่ยวสามารถมาชมได้เฉพาะในช่วงน้ำใหญ่ หรือวันขึ้น 14 ค่ำ ถึงแรม 3 ค่ำ เวลาบ่ายโมง ถึง 5 โมงเย็น ด้วยการนั่งเรือมาจากท่าเทียบเรือหยงสตาร์ ราว 10 นาที
นายอนุชา คงสามารถวัฒนา หรือ “บังนุ” แกนนำชมรมคนรักปะเหลียน กล่าวว่า สำหรับ “สันดอนหอย” เกิดขึ้นเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา หลังจากมีชาวประมงพื้นบ้านขับเรือผ่านไปมาพบเห็น กระทั่งเมื่อทางชมรมเข้าไปสำรวจก็ต้องตะลึงกับความมหัศจรรย์ดังกล่าว
เนื่องจากมีเปลือกหอยจำนวนมากมารวมตัวกันอยู่กลางทะเล และไม่รู้ว่าถูกพัดพามาจากที่ไหน ซึ่งสามารถใช้เท้าเปล่าเดินลงไปเหยียบย่ำเพื่อชมความงดงามได้อย่างไม่รู้เบื่อ จึงทำให้มีทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยว และถ่ายภาพกันเป็นจำนวนมาก
สำหรับผู้ที่ต้องการชมความงดงามทางธรรมชาติของตำบลท่าข้าม สามารถเดินทางไปได้โดยเรือหางยาว ซึ่งมีค่าบริการลำละ 800-1,000 บาท เพื่อเที่ยวชมนับตั้งแต่ “เกาะเหลาตรง” ไปสู่ “ทะเลแหวก ”ต่อด้วย “หอลูกไม้” และปิดท้ายที่ “สันดอนหอย” ด้วยระยะเวลาทริปละ 1.30 ชั่วโมง สนใจติดต่อได้ที่ชมรมคนรักปะเหลียน คุณอร โทร.08-9739-7397 หรือคุณกุ้ง 08-5891-6702