พัทลุง - ชวนชิม “น้ำชุบพรก” หรือ “น้ำพริกกะลา” อีกหนึ่งเมนูเด็ดที่น่าลองรับประทานหากผ่านมาเที่ยวพัทลุง
ถ้าเอ่ยถึงน้ำพริกภาคใต้ หลายคนคงคุ้นเคยรับประทาน ด้วยรสจัดจ้าน ครบเครื่องในตัว แต่ถ้าเอ่ยถึงน้ำพริกกะลา หรือชาวพัทลุง เรียกว่า น้ำชุบพรก นั้นหลายคนคงไม่คุ้นหู และไม่เคยรับประทาน
ด้วยเมนูของน้ำพริกชนิดนี้ที่ไม่แตกต่างจากการทำน้ำพริกทั่วไปมากนัก แต่ผู้ทำได้เพิ่มขั้นตอนการทำให้น้ำชุบพรก หรือน้ำพริกกะลา มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน มีรสชาติกลมกล่อม ทำให้ติดปากสำหรับทุกคนที่เคยชิม
ซึ่งทุกวันอาทิตย์ ที่ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ที่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 9 ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง พี่สร้อย หรืออุษาวดี บุญดำ อายุ 49 ปี จะตำน้ำพริกกะลา หรือน้ำชุบพรก ให้แก่ลูกค้าที่มารอรับชื้อที่บ้าน
โดยมีการสั่งจองล่วงหน้า เนื่องจากน้ำพริกที่ทำนั้นแกจะทำเฉพาะวันอาทิตย์วันเดียว และทำในจำนวนจำกัด โดยขายกะลาละ 20 บาท หมดแล้วหมดเลย ทำให้มีการสั่งจองล่วงหน้าขึ้น
โดยพี่สร้อย เล่าว่า การทำน้ำชุบพรก หรือน้ำพริกกะลานั้นเป็นสูตรอาหารเฉพาะที่ โดยที่เมื่อก่อนชาวบ้านเขามักนิยมทำนา และทำไร่กัน ทำให้การทำกับข้าวไปทานในท้องทุ่งนา และไร่ที่อยู่ห่างไกลค่อนข้างลำบากจึงคิดเมนูอาหารอย่างน้ำพริกขึ้นมาให้คงรสชาติ และเก็บไว้ได้นาน
บวกกับมีรสชาติที่น่ารับประทาน จึงได้นำสูตรน้ำพริกสูตรนี้มาผสม และทำขึ้น ประกอบกับชอบทำอาหารแบบพื้นบ้านจึงลองทำ และลองขายดูปรากฏว่า เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าโดยทั่วไป
สำหรับขั้นตอนการทำน้ำพริกกะลานั้น ส่วนผสมก็มีกะปิ น้ำพริก ใบทำมัง หั่น กระเทียมกลีบเล็ก หอม พริกขี้หนูสด กุ้งแห้ง หรือบด ปลาย่าง ปลากรอบ โดยวิธีทำนำส่วนผสมทุกอย่างลงในครก โดยเริ่มที่กระเทียม แล้วตามด้วยใบทำมัง พริกขี้หนูสด กุ้งแห้ง ปลานึ่งหรือย่าง จากนั้นใส่กะปิ โขลกจนน้ำพริกผสมเข้ากันดี
เสร็จแล้วจึงนำใส่กะลาลูกเล็กๆ ที่เตรียมไว้ ตักน้ำพริกที่โขลกเสร็จใส่ ก่อนน้ำไปย่างไฟที่กรุ่นๆ ราว 10-15 นาที เพื่อให้แห้ง และมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน ตักข้าวสวยร้อนๆ ใส่จานคลุกข้าวกับน้ำพริกให้เข้ากัน มีผัก ลูกเนียง ฝักสะตอเผาหอมๆ ผักสดๆ รับรองเลยว่า อาหารมื้อนี้จะทำให้ท่านกินจนลืมอิ่มไปเลย
สำหรับต้น “ทำมัง” เป็นต้นไม้ที่มีใบซึ่งมีกลิ่นเหมือนแมงดานา จึงใช้ทดแทนกลิ่นกันได้ โดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค และต้นทำมัง เป็นพืชผักพื้นบ้านจากธรรมชาติ ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
กินน้ำชุบใบทำมัง นอกจากจะได้สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว โบราณยังเชื่อว่า ทำมังนั้นเป็นสมุนไพรช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง ท้องอืดท้องเฟ้อ และยังยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรียอีโคไล เป็นที่มาของอาการท้องเสียได้อีกด้วย
