ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กองบังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา สั่งเร่งคลี่คลายคดีรถขนใบกระท่อมประสบอุบัติเหตุ และคนขับเสียชีวิต ซึ่งญาติระบุถูกเจ้าหน้าที่ไล่ยิงขณะขับรถหลบหนี เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
วันนี้ (10 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีรถกระบะขนใบกระท่อมประสบอุบัติเหตุบนถนนสายคลองแงะ-วังปริง หมู่ 2 ต.เขามีเกียรติ อ.สะเดา จ.สงขลา และคนขับเสียชีวิต ภรรยาระบุว่า ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่งยิงขณะขับรถไล่ล่าเพื่อติดตามจับกุม
ล่าสุด ทางพนักงานสอบสวนของ สภ.คลองแงะ อ.สะเดา ได้เชิญตัว น.ส.มูรณี แวกาเด อายุ 28 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยให้การว่า ส่วนตัวไม่รู้ว่าสามีซุกซ่อนใบกระท่อมไว้ในรถ ขณะเกิดเหตุตนสามี และลูกสาววัย 2 ขวบ และ 3 ขวบ กำลังเดินทางกลับบ้านที่ จ.ปัตตานี เพื่อไปร่วมเทศกาลฮารีรายอ ระหว่างขับรถมาตามเส้นทางเลี่ยงเมือง ต.ทุ่งลุง เพื่อไปออก ต.น้ำขาว อ.จะนะ ได้พบกับด่านตรวจ สามีจึงเลี้ยวรถกลับ และขับหลบหนี และถูกเจ้าหน้าที่หน่วยงานหนึ่งไล่ติดตามพร้อมกับใช้อาวุธปืนยิงใส่ทางด้านหลัง กระสุนถูกสามีที่บริเวณศีรษะจนฟุบกับพวงมาลัย และรถเสียหลักลงข้างทาง แต่โชคดีที่กระสุนไม่ถูกตน และลูกอีก 2 คน เพียงบาดเจ็บจากแรงกระแทกเท่านั้น
ทั้งนี้ นางมูรณี ได้เรียกร้องขอความเป็นธรรม โดยยืนยันว่า ถูกเจ้าหน้าที่ไล่ยิงจริงๆ ไม่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุธรรมดา และเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบสวนตรงไปตรงมา
ทางด้านพนักงานสอบสวน สภ.คลองแงะ เผยว่า ขั้นตอนหลังจากนี้จะทำการสวบสวนว่าหน่วยงานที่ถูกอ้างถึงเป็นหน่วยใดเพื่อประสานไปยังต้นสังกัดนำตัวมาสอบสวน ซึ่งขณะนี้พอทราบแล้วว่าเป็นหน่วยใด ส่วนข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นยังไม่สามารถที่จะชี้ชัดได้ว่าใครผิด หรือเป็นการทำเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่หรือไม่ เนื่องจากต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ของแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลสงขลานครนิทร์ อย่างเป็นทางการ ว่า บาดแผลที่ศีรษะเป็นการถูกยิงตรงตามที่ภรรยาให้การหรือไม่
สำหรับคดีนี้ทางด้านกองบังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา ได้แต่งตั้งให้ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ นิตยวิมล รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เข้ามาควบคุมการสอบสวนเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย เพราะแม้ว่าผู้เสียหายจะกระทำผิดลักลอบขนใบกระท่อม แต่หากสอบสวนแล้วว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุก็จะต้องว่ากันไปตามกระบวนการของกฎหมาย