ผู้ปกครองรวมตัวไล่ ผอ.ร.ร.ดำเนินคดีนักเรียนฐานทำโทรทัศน์พัง

ตราด-ผู้ปกครองรวมตัวไล่ ผอ.โรงเรียนวัดท่ากุ่ม เหตุแจ้งความดำเนินดคีต่อนักเรียนหลังทำโทรทัศน์พัง ขณะ ผอ.ระบุต้องทำตามระเบียบ พร้อมขอโทษที่ทำเกินกว่าเหตุก่อนยุติ แต่ผู้ปกครองยังไม่พอใจ

วันนี้ (24 ส.ค.) เวลา 10.30 น. ที่โรงเรียนวัดวรุณดิตถาราม (วัดท่ากุ่ม) ต.ท่ากุ่ม อ.เมือง จ.ตราด นายอนุรันต์ ช้างงาม ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดวรุณดิตถาราม พร้อมคณะครูโรงเรียน และผู้ปกครองนักเรียนร่วมประชุมชี้แจงพร้อมผู้ปกครองกว่า 100 คน โดยมี นายสมชาย สินกุล นายอำเภอเมืองตราด และป้องกันจังหวัดตราด ร่วมรับฟัง

กรณี น.ส.ปิยนุช รัตชพี ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนวัดวรุณดิตถาราม ถูกฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายหลังลูกชายทำโทรทัศน์ ราคา 24,000 บาท ในห้องเสียพังเสียหาย ทำให้ประชาชนในตำบลท่ากุ่ม ที่ทราบข่าวไม่พอใจ ทำหนังสือร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อม 8 ข้อเรียกร้อง ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของ นายอนุรันต์ ช้างงาม ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดวรุณดิตถาราม ในการบริหารงานโรงเรียน

น.ส.ปิยนุช รัตชพี กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองเพิ่งมาทราบภายหลังจากที่ลูกชายทำโทรทัศน์พังเสียหายจากนั้น 1 เดือน เพราะลูกชายไม่กล้ามาบอก จนกระทั่งเพื่อนมาล้อลูกชายว่าแม่กำลังจะโดนจับ จึงได้สอบถามลูกชายว่าเกิดอะไรขึ้น จึงได้ทราบว่าลูกชายทำโทรทัศน์ของโรงเรียนพังเสียหาย

จากนั้นทางโรงจึงได้เรียกผู้ปกครองเข้าพบพร้อมกับทำสัญญาชดใช้ความเสียหายทั้งหมด 24,000 บาท แบ่งจ่ายเดือนละ 2,400 บาท ซึ่งตนเองฐานะยากจนจึงไม่สามารถนำเงินมาชำระได้ตามกำหนด แต่กลับถูกทางโรงเรียนแจ้งความดำเนินคดีต่อตนเอง จนเรื่องถึงชั้นศาล และได้ทำการเกลี่ยไกล่ตกลงชดใช้ความเสียหายกันใหม่ เป็นเดือนละ 1,500 บาทจนหมด และได้ขอใบเสร็จจากโรงเรียน แต่ทางผู้อำนวยการบอกว่าไม่สามารถให้ได้

ด้าน นายอนุรันต์ ช้างงาม ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดวรุณดิตถาราม ได้ชี้แจงว่า ปัญหาที่เกิดเหตุขึ้นทางโรงเรียนได้ทำตามระเบียบของราชการ ซึ่งโทรทัศน์เป็นทรัพย์สินของทางราชการที่ได้รับจัดสรรมาจากรัฐบาล เมื่อเกิดปัญหา หรือเสียหายทางโรงเรียนจำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบ โดยการแจ้งความดำเนินคดีเรียกขอความเสียหายจากผู้กระทำเพื่อเป็นหลักฐาน

ซึ่งก่อนที่จะแจ้งความได้เรียกผู้ปกครองมาทำสัญญาชดใช้ความเสียหายแล้ว แต่ทางผู้ปกครองไม่สามารถชำระเงินได้ตามสัญญา จึงได้เข้าแจ้งความฟ้องศาล จนกระทั่งครูรายหนึ่งในโรงเรียนได้ช่วยจ่ายเงินให้ 2 ครั้ง ครั้งแรก 2,000 บาท และครั้งที่ 2 อีก 8,000 บาท นอกจากนี้ สามีเก่าที่เลิกไปได้ช่วยข่ายเงินอีก 12,000 บาท

แต่ทางผู้ปกครองของเด็กจ่ายเงินได้เพียง 2 เดือน รวม 3,000 บาท รวมเงินทั้งหมด 25,000 บาท หลังจากได้เงินครบแล้วจึงได้นำเงินไปซื้อโทรทัศน์ตามสเปกเดิม คือ 24,000 บาท ส่วนที่เหลือ 1,000 บาท ไปนำไปคืนให้แก่ครูที่ช่วยเหลือผู้ปกครองรายนี้

“ทั้งหมดตนเองไม่ได้มีเจตนาทำร้ายใคร แต่ทำตามกฎระเบียบของทางราชการ ซึ่งตนเองในฐานะผู้บริหารมีเจตนาที่ดี ต้องการพัฒนาโรงเรียนวัดวรุณดิตถาราม ให้เทียบเท่ากับโรงเรียนอื่น แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองต้องขอโทษ อาจจะทำเกิดกว่าเหตุไป แต่ตนเองได้ชี้แจงเหตุผลการกระทำไปแล้ว” ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดวรุณดิตถาราม กล่าว

ขณะที่ผู้ปกครองรายอื่นกล่าวในที่ประชุมว่า ทำไมผู้อำนวยการไม่พูดคุยกันก่อน หรือนำเรื่องนี้เข้าคณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียน ซึ่งเป็นทางออกที่ดีกว่าจะนำเรื่องนี้ไปแจ้งความดำเนินคดี ทำไมผู้อำนวยการถึงไม่เห็นใจครอบครัวนี้เลย ทำไมไม่มีคุณธรรม และจริยธรรมในการทำหน้าที่ของผู้บริหารที่ดี ไม่เห็นแก่นักเรียนของโรงเรียนเลยหรือไม่ การขอโทษมันเลยจุดนั้นมาแล้ว ผู้อำนวยการต้องพิจารณาตัวเองว่าต้องทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ปัญหาที่แบบนี้เกิดขึ้นมาอีก

ซึ่งบรรยากาศเริ่มตึงเครียด มีการตอบโต้กันตลอดเวลานานจนเวลาล่วงมาถึง 12.30 น. ทำให้ นายสมชาย สินกุล นายอำเภอเมืองตราด ต้องลุกขึ้นเพื่อพูดคุยกับปัญหาดังกล่าว แต่ผู้ปกครองบางคนยังไม่พอใจ และได้เดินออกจากที่ประชุมไป อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายผู้ปกครองได้เรียกร้องของใบเสร็จรับเงินที่จ่ายเงินไปทั้งหมดจากผู้อำนวยการโรงเรียนอีกครั้ง ซึ่งผู้อำนวยโรงเรียนยินยอมมอบใบเสร็จ ก่อนที่ในที่ประชุมจะยุติลงท่ามกลางผู้ปกครองหลายคนที่ไม่พอใจที่ต้องการให้ผู้อำนวยการคนนี้ย้ายออกจากโรงเรียนไป