ชาวนากระแซงโวยตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ยิงปืนข่มขู่จับยาเสพติด

อุบลราชธานี - ชาวบ้านนากระแซง อ.เดชอุดม โวยตำรวจสายตรวจทำเกินกว่าเหตุ หลังเข้าตรวจค้นหมู่บ้านหายาเสพติด มีวัยรุ่นวิ่งหลบหนี ยิงปืนขึ้นฟ้าให้หยุด ญาติแจ้งความเอาผิดฐานพยายามฆ่า ด้าน ผกก.สถานีตำรวจเดชอุดม สั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ทราบผลไม่เกิน 15 วัน ยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ใครผิดว่าไปตามผิด ไม่มีการช่วยเหลือ

จากกรณีมีการแชร์ภาพและข้อความระบุว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ใช้ปืนยิงขู่ขึ้นฟ้าขณะเข้าตรวจค้นวัยรุ่นในหมู่บ้านหนองเงินฮ้อย ต.นากระแซง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี เหตุเกิดเมื่อบ่ายวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาวันที่ 30 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้เข้าพูดคุยกับนางมรกต บุญกอง อายุ 40 ปี นายวันใหม่ บุญกอง อายุ 25 ปี สองแม่ลูกที่หมู่บ้านหนองเงินฮ้อย

นายวันใหม่เล่าเหตุการณ์ว่า เมื่อบ่ายวันที่ 26 ส.ค.ขณะที่ตนนำวุ้นแช่เย็นไปให้หลานชายที่บ้านพี่สาวซึ่งตั้งอยู่กลางทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน ระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่สายตรวจนอกเครื่องแบบประจำตำบลขับรถยนต์กระบะส่วนตัวมาจอดหน้าบ้าน โดยมีคนนั่งมาในรถรวม 3 คน หนึ่งในสามทราบชื่อภายหลังว่า ด.ต.อนันต์พงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) เปิดประตูรถลงมาเดินตรงไปกระชากคอเสื้อของนายวันใหม่เพื่อขอตรวจค้น แต่นายวันใหม่ไม่ทราบเป็นตำรวจจึงสะบัดตัววิ่งหลบหนีไปหลังบ้านที่เป็นทุ่งนา ด.ต.อนันต์พงษ์วิ่งตามและใช้ปืนยิงข่มขู่ขึ้นฟ้า 2 นัดเพื่อไม่ให้นายวันใหม่หลบหนี พร้อมตะโกนบอกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เมื่อนายวันใหม่ทราบว่าเป็นตำรวจจึงหยุดแล้วเดินกลับมาหาให้ตรวจค้น แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย ขณะเดียวกัน ชาวบ้านทราบเรื่องจึงพากันมาต่อว่า ด.ต.อนันต์พงษ์ว่าทำเกินกว่าเหตุใช้ปืนยิงข่มขู่ พร้อมรวมตัวกันเข้าแจ้งความดำเนินคดีฐานพยายามฆ่า ที่สถานีตำรวจอำเภอเดชอุดมในเย็นวันเดียว ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งเป็นคดีไว้แล้ว

นายวันใหม่ระบุสาเหตุที่ต้องวิ่งหลบหนีเพราะเกรงจะถูกทำร้าย เนื่องจากเพิ่งกลับจากทำงานที่กรุงเทพฯ มาอยู่ดูแลยาย หลังนายสม บุญกอง ผู้เป็นตาขับรถชนกันตายเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และยังมีปัญหากับคู่กรณี จึงคิดว่าคู่กรณีส่งคนมาทำร้าย เพราะ ด.ต.อนันต์พงษ์ไม่แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

ขณะที่นางมรกตกล่าวว่า หลังเกิดเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามเข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยจ่ายเงินทำขวัญให้จำนวน 1 หมื่นบาท แต่ตนไม่รับ เพราะเกรงว่าอนาคตตำรวจรายนี้อาจไปทำกับชาวบ้านคนอื่นอีก และต้องการทราบว่า ด.ต.อนันต์พงษ์ยิงปืนข่มขู่ลูกชายตนทำไม ทั้งที่ไม่ได้ทำความผิดอะไร ต้องการให้มีการดำเนินคดีต่อนายดาบตำรวจรายนี้ตามกฎหมาย

ด้าน พ.ต.อ.ภัทรพล โพธิอะ ผกก.สถานีตำรวจเดชอุดม กล่าวว่า หลังเกิดเหตุให้ ด.ต.อนันต์พงษ์ รายงานข้อเท็จจริงทราบว่า วันดังกล่าวได้ขับรถตรวจความเรียบร้อยผ่านไปถึงบ้านหลังดังกล่าว พบมีการจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน โดยหนึ่งในกลุ่มเป็นบุคคลเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ได้เดินหลบเข้าไปในบ้าน ส่วนนายวันใหม่จะขึ้นจักรยานยนต์ที่จอดอยู่จึงเข้าไปขอตรวจค้น แต่นายวันใหม่กลับสะบัดตัววิ่งหลบหนี ทำให้เชื่อว่านายวันใหม่อาจมีสิ่งของผิดกฎหมายจึงวิ่งไล่ตามไปแต่ไม่ทัน จึงยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่เพื่อไม่ให้หลบหนี เมื่อวิ่งไล่ไปสักระยะเห็นนายวันใหม่เหมือนกับโยนสิ่งของลงไปในนาข้าว ก่อนเดินย้อนกลับมาหาเจ้าหน้าที่ให้ตรวจค้นแต่ไม่พบอะไรในตัว หลังเกิดเหตุนายวันใหม่ได้เข้ามาแจ้งความดำเนินคดีในวันเดียวกัน พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้ พร้อมสอบสวนปากคำผู้เสียหายและพยานไว้แล้วรวม 3 ปาก

ขณะเดียวกัน ได้มีคำสั่งย้ายนายดาบตำรวจรายนี ออกจากการทำหน้าที่สายตรวจประจำตำบลนากระแซง ให้มาทำหน้าที่ประจำสถานีตำรวจเดชอุดม เพื่อลดการเผชิญหน้ากับประชาชนในพื้นที่ พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นซึ่งจะทราบผลการสอบสวนไม่เกิน 15 วัน ขอยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะให้ความเป็นธรรมแก่ทั้งสองฝ่าย ใครทำผิดอะไรก็ว่าไปตามผิด ไม่มีการช่วยเหลือกันแน่นอน