ศูนย์ข่าวภาคใต้ - “สมชัย ศรีสุทธิยากร” กกต. (ด้านกิจการบริหารจัดการเลือกตั้ง) หวั่น! ขั้วการเมืองใช้ “เฮทสปีช” ปั่นหัวคนไทยแตกแยกช่วงเลือกตั้งปี 2560 ผ่านเวที “การเลือกตั้งกับทิศทางการเมืองไทยและการเมืองโลก” ที่ ม.หาดใหญ่
วันนี้ (1 ก.ย.) ณ ห้องประชุมป่าตอง อาคารภูเก็ต มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ คณะรัฐศาสตร์ สาขาวิชาการปกครองท้องถิ่น ได้มีการจัดโครงการบรรยายพิเศษเรื่อง “การเลือกตั้งกับทิศทางการเมืองไทยและการเมืองโลก” Open House HU & Hatyai Fair ครั้งที่ 8 ประจำปีการศึกษา 2559 โดยเชิญ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. (ด้านกิจการบริหารจัดการเลือกตั้ง) มาเป็นวิทยากรในการบรรยาย และได้มีผู้เข้าร่วมโครงการทั้งนักเรียน นักศึกษา บุคลากร และบุคคลภายนอกที่สนใจเข้าร่วมประมาณ 200 คน
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. (ด้านกิจการบริหารจัดการเลือกตั้ง) กล่าวว่า จากที่ได้มีการลงประชามติเมื่อไม่นานมานี้ เห็นได้ว่า ประชาชนมีมุมมอง และความคิดเห็นที่แตกต่างกัน อาจทำให้เกิด hate speed (ถ้อยคำที่อาจก่อให้เกิดความเกลียดชัง) ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากังวลในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2560 ที่จะถึงนี้ โดยการใช้ hate speed ของฝ่ายการเมืองผ่านสื่อ social media อาจเป็นปัญหาในอนาคตที่ส่งผลให้ประชาชนในประเทศแตกแยกมากขึ้น โดยการเลือกตั้งในปี 2560 กกต.จะดำเนินคดีทันทีหากมีฝ่ายใดใช้ถ้อยคำหยาบคาย หรือมีแนวโน้มว่าจะก่อให้เกิดความเกลียดชังระหว่างกัน
นายสมชัย กล่าวต่อว่า การที่ประชาชนตัดสินใจในการลงประชามติครั้งนี้ไม่ได้เป็นการตัดสินใจจากความรู้ในเนื้อหาสาระของรัฐธรรมนูญสักเท่าไร แต่เป็นการตัดสินใจจากความเชื่อ ทัศนคติ และทิศทางทางการเมืองที่ประชาชนอยากจะให้เป็นไปในปัจจุบัน และในอนาคต
ทั้งนี้ นายสมชัย ได้กล่าวเสริมอีกว่า “การเลือกตั้งในปี 2560 อาจมีแนวโน้มขยายระยะเวลาในการลงคะแนนเสียงให้มากขึ้น อาจปิดหีบเลือกตั้งในเวลา 6 โมงเย็น เพื่อให้ผู้ใช้สิทธิมีสิทธิมากขึ้น อาจจะมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ smart card reader”รวมถึงการนำ application โดยมี app ฉลาดเลือกผู้แทน เพื่อให้ประชาชนสามารถเปิดดูประวัติ และข้อมูลของผู้สมัครได้ และการรายงานผลเลือกตั้งสามารถส่งผ่าน “rapid report app” มาช่วยในการเลือกตั้งเพื่อความสะดวกรวดเร็ว
สุดท้ายนี้ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ได้กล่าวแสดงความคิดเห็นปิดท้ายการบรรยายเกี่ยวกับประเด็นทิศทางการเมืองไทยและการเมืองโลกไว้ว่า ตนเชื่อว่าหลังจากการเลือกตั้งในปี 2560 ไม่ว่าพรรคใดจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลว่าจะได้รับความยอมรับ และเชื่อมั่นจากต่างชาติอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตย ตามระบบสากล แต่จะเกิดความขัดแย้งระลอกใหม่หรือไม่อันนี้ก็มิอาจคาดการณ์ได้
