ยะลา - ยะลา จัดพิธีมอบโฉนดที่ดินแปลงใหม่ให้เจ้าของที่ดิน ตามโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาและแก้ปัญหาผังเมืองอย่างเป็นระบบในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา
วันนี้ (19 ส.ค.) ที่อาคารศรีนิบง ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา นายดลเดช พัฒนรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานในพิธีมอบโฉนดที่ดินแปลงใหม่ ตามโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ในเขตเทศบาลนครยะลา ซึ่งกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย และเทศบาลนครยะลา จัดขึ้น โดยมีเจ้าของที่ดินในโครงการจัดรูปที่ดินฯ เข้าร่วม
นายพิชัย อุทัยเชฎฐ์ รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย มีนโยบายในการพัฒนา และแก้ปัญหาผังเมืองอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึง และใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า ลดความเหลื่อมล้ำในการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างเท่าเทียม “โครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่” ถือเป็นแนวทางใหม่ที่นำมาใช้ในการพัฒนาพื้นที่ และแก้ไขปัญหาที่ดินในชุมชนที่ไม่เป็นระเบียบทางผังเมือง และขาดสาธารณูปโภค โดยการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ คือ การนำแปลงที่ดินหลายๆ แปลง จากแปลงที่ไม่มีทางเข้าออก รูปแปลงที่ดินที่มีลักษณะบิดเบี้ยวนำมารวมกันเพื่อจัดรูปแปลง และออกโฉนดใหม่ ซึ่งกรรมสิทธิ์ที่ดินยังเป็นของเจ้าของเดิม แต่จะได้แปลงที่ดินรูปทรงที่เหมาะแก่การพัฒนาเป็นระเบียบสวยงาม และติดถนนทุกแปลง ทำให้ราคาที่ดินสูงขึ้นประมาณ 2-10 เท่า
สำหรับการพัฒนาพื้นที่ด้วยวิธีการจัดรูปที่ดินฯ ในเขตเทศบาลนครยะลา มีรูปแบบการจัดรูปแปลงที่ดินใหม่ด้วยวิธีการคำนวณตามสัดส่วนพื้นที่ (The Area Replotting Method) เน้นการพัฒนาพื้นที่ตาบอดกลางเมือง โดยพื้นที่โครงการจัดรูปที่ดินฯ ตั้งอยู่ระหว่างสวนสาธารณะขวัญเมือง และถนนสิโรรส ห่างจากศาลากลางจังหวัดยะลาไปทางทิศตะวันตกประมาณ 1 กิโลเมตร มีพื้นที่โครงการฯ ประมาณ 325 ไร่ เจ้าของที่ดิน 135 ราย ที่ดิน 236 แปลง จังหวัดที่ได้ดำเนินโครงการจัดรูปที่ดินฯ สำเร็จ และมอบโฉนดที่ดินแปลงใหม่ไปแล้ว มี 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี สมุทรปราการ นราธิวาส น่าน และพะเยา และจังหวัดที่กำลังเตรียมการรอมอบโฉนดที่ดินแปลงใหม่ต่อไป คือ จังหวัดพิษณุโลก
อย่างไรก็ตาม กรมโยธาธิการและผังเมืองฯ มีโครงการก่อสร้างถนนตามผังเมืองรวม โดยใช้การจัดรูปที่ดินเป็นกลไกในการดำเนินการให้สำเร็จทั่วประเทศภายในปี พ.ศ.2561 และรัฐบาลยังได้มีนโยบายในการพัฒนาพื้นที่รอบสถานี และตามเส้นทางรถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง เพื่อเป็นศูนย์บริการและเชื่อมโยงกิจกรรม ด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และอื่นๆ ในหลายพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย