ตรัง - ชาวบ้านริมฝั่งอันดามันในพื้นที่ ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง เพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น เพื่อส่งขายเป็นอาหารกลุ่มคนรักสุขภาพ แถมยังมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละเกือบ 500 บาท เพราะนำไปทำเมนูได้หลากหลาย
วันนี้ (19 ส.ค.) ผศ.ดร.จิโรจน์ พีระเกียรติขจร ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรรุ่งเรืองบ้านไม้ฝาด ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง กล่าวว่า จากกระแสรักสุขภาพที่กำลังมาแรงในขณะนี้ ทำให้สาหร่ายพวงองุ่น อาหารเพื่อสุขภาพได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากพบเห็นได้ตามธรรมชาติน้อยมาก หรือมีปริมาณไม่เพียงพอต่อการเก็บมาเพื่อบริโภค ดังนั้น ตนจึงใช้ชีวิตหลังเกษียณราชการแล้วจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง ด้วยการชักชวนชาวบ้านมาเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น ให้เป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่
โดยนำความรู้จากโครงการฟาร์มตัวอย่างมาเป็นจุดเริ่มต้นของการเพาะเลี้ยงสาหร่าย จนประสบความสำเร็จเป็นรายแรกของ จ.ตรัง ทำให้สาหร่ายชนิดนี้สามารถเก็บไว้ในอุณหภูมิห้องได้นานถึง 7 วัน จึงไม่มีปัญหาเรื่องการส่งสินค้าไปจำหน่ายยังต่างพื้นที่ ปัจจุบันจึงมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 300-450 บาท ขึ้นอยู่กับความยาว ขนาดเส้น และพวงสาหร่าย ต่างไปจากสาหร่ายชนิดอื่นๆ เช่น สาหร่ายขนนก ซึ่งผู้คนนำมารับประทานแบบสดๆ คู่กับน้ำพริก แต่มีราคาแค่กิโลกรัมละ 150-200 บาทเท่านั้น
สำหรับการเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น จะสามารถเจริญเติบโตได้ดีทั้งในบ่อดิน และบ่อซีเมนต์ โดยเฉพาะผู้ที่มีพื้นที่น้อยจะนิยมเพาะเลี้ยงกันในบ่อดิน เพราะสะดวก และบริหารจัดการได้ง่าย เพียงแต่จำเป็นจะต้องดูแลอย่างมากในเรื่องของความเค็ม ให้อยู่ในช่วงระหว่าง 27-33 ppt เท่านั้น โดยการเลือกคุณภาพของแหล่งน้ำเค็ม และสร้างโรงเรือนปิดกั้นมิให้น้ำฝน หรือน้ำจืดไหลลงมาในบ่อมากจนเกินไป รวมทั้งยังเป็นการช่วยควบคุมระบบอากาศ อุณหภูมิ แสง และสารอาหารให้เหมาะสมอีกด้วย
ทั้งนี้ อาจจะมีต้นทุนสูงในระยะแรกนับแสนบาท แต่เมื่อสาหร่ายเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว จะสามารถให้ผลผลิตต่อเนื่องยาวนาน จนสามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ อีกทั้งขณะนี้ตนกำลังพัฒนาให้สาหร่ายแตกกิ่งก้านรวดเร็วขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ พร้อมกับการเพาะเลี้ยงสาหร่ายชนิดอื่นๆ จำหน่ายเสริมไปด้วย เช่น สาหร่ายพริกไทย สาหร่ายขนนก เนื่องจากยังมีตลาดผู้บริโภคในประเทศอีกกว้างไกล โดยเฉพาะสาหร่ายพวงองุ่น ซึ่งสามารถปรุงเป็นเมนูอาหารได้อย่างหลากหลาย ผู้ที่สนใจสามารถโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 09-5163-2565