ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ตรวจการก่อสร้างโครงการประตูระบายน้ำคลองสทิงหม้อเชื่อมต่อคลองพลเอกอาทิตย์ เพื่อแบ่งโซนน้ำจืด และน้ำเค็ม รวมทั้งการกักเก็บน้ำจืดไว้ใช้ในหน้าแล้งทางด้านการเกษตร และอุปโภคบริโภค
วันนี้ (25 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ว่าที่ ร.ต.ไพเจน มากสุวรรณ รองอธิบดีกรมชลประทาน ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสงขลา ตรวจการก่อสร้างโครงการประตูระบายน้ำคลองสทิงหม้อเชื่อมต่อคลองพลเอกอาทิตย์ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.รำแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลา เป็นประตูระบายน้ำขนาด 6.00 x 5.50 ม. จำนวน 2 ช่อง เครื่องสูบน้ำแบบจุ่มใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดอัตราสูบ 3.00 ลบ.ม./วินาที จำนวน 2 เครื่อง พร้อมอาคารป้องกันการกัดเซาะ สามารถระบายน้ำได้สูงสุด 80.00 ลบ.ม./วินาที งบประมาณ 70.89 ล้านบาท
โดยโครงการนี้ต้องการแบ่งโซนน้ำจืด และน้ำเค็ม รวมทั้งการกักเก็บน้ำจืดเพื่อการเกษตร และอุปโภคบริโภคในหน้าแล้ง ป้องกันน้ำเค็มรุกล้ำเข้าพื้นที่การเกษตร และในช่วงหน้าฝนยกบานพ้นน้ำสามารถระบายน้ำได้ตามปกติ ไม่กีดขวางการระบายน้ำ เพราะได้ทำการออกแบบให้สามารถระบายน้ำได้มากกว่าคลองธรรมชาติเดิม อีกทั้งบริเวณหน้าประตูระบายน้ำมีการยกปรับระดับหลังคัน จะไม่ทำให้น้ำไหลบ่าคันคลองท่วมพื้นที่ข้างคลองได้
ว่าที่ ร.ต.ไพเจน มากสุวรรณ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ชาวบ้านสองฝั่งคลองประกอบอาชีพการเกษตร แต่ในช่วงฤดูแล้งมีปัญหาขาดแคลนน้ำเพราะไม่มีน้ำต้นทุนในธรรมชาติ กรมชลประทาน จึงสร้างประตูระบายน้ำคลองสทิงหม้อ เพื่อจะเก็บน้ำในฤดูฝนนำไปใช้ในฤดูแล้งและป้องกันน้ำเค็มไม่ให้รุกล้ำเข้ามาในคลองสทิงหม้อ เพื่อให้มีน้ำจืดไว้ใช้ในการเกษตร และอุปโภค
หลังจากนั้น รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมคณะได้เดินทางไปยังคลองพลเอกอาทิตย์ ที่เชื่อมต่อกับคลองสทิงหม้อ ซึ่งอยู่ระหว่างการขุดลอกคลองเพื่อป้องกันปัญหาภัยแล้ง ตามดำรินายกรัฐมนตรี ที่จะให้เตรียมกักเก็บน้ำสำรองเพื่อใช้ในการเพาะปลูกในช่วงฤดูแล้งของเกษตรกร กรมชลประทานได้สนองนโยบายนายกรัฐมนตรี โดยขุดลอกวัชพืช และตะกอนดินในคลองพลเอกอาทิตย์ เพื่อเพิ่มปริมาณกักเก็บน้ำให้สามารถกักเก็บน้ำสำรอง และเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำป้องกันปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ตลอดความยาวของคลองพลเอกอาทิตย์
