พังงา - คลื่นลมแรงสูงกว่า 2 เมตร ซัดแนวชายหาดเกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ส่งผลให้กัดเซาะสายเคเบิลใต้น้ำ เสาส่งไฟฟ้า และต้นสนริมชายหาดล้มลงทะเล ด้านอำเภอเตรียมเสนอให้ทางจังหวัดประกาศเขตพื้นที่ภัยพิบัติคลื่นกัดเซาะชายหาด
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (11 ก.ค.) นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า พร้อมด้วย นายพรเทพ เพชรมีศรี ผจก.ไฟฟ้าอำเภอตะกั่วป่า นายจักษุ ลิ่มพานิช นายก อบต.เกาะคอเขา นายสุดจิตร ลิ่มพานิช กำนันเกาะคอเขา นายนิวัฒ ส่งแร่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 เกาะคอเขา นางสุนัฎฐา เพียรทอง นายกเหล่ากาชาดอำเภอตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่ อบต.เกาะคอเขา และเหล่ากาชาดอำเภอตะกั่วป่า ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายหลังจากคลื่นขนาดใหญ่สูง 2-3 เมตร ซัดเข้าหาฝั่งกัดเซาะแนวชายหาดบริเวณหมู่ที่ 3 ต.เกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งคลื่นได้กัดเซาะชายเข้ามาถึงฝั่งประมาณ 80 เมตร ความยาว 550 เมตร จากชายหาดที่เคยทอดยาวลงในทะเล ส่งผลทำให้ต้นสน ต้นมะพร้าวจำนวนมากล้มลงในทะเลเป็นแนวยาว
บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมชายหาด จำนวน 3 หลัง ถูกคลื่นซัดถึงตัวบ้าน และเสาไฟฟ้าที่เชื่อมโยงลงใต้น้ำระหว่างบ้านน้ำเค็ม มายังเกาะคอเขา เพื่อนำกระแสไฟฟ้ามาใช้ในพื้นที่เกาะคอเขา ได้รับความเสียหายจนฐานปูน และสายเคเบิลโผขึ้นมาจากพื้นทราย ซึ่งถ้าเสาไฟฟ้าล้มก็จะสร้างผลกระทบต่อการเป็นอยู่ของประชาชน ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม รีสอร์ต เพราะจะทำให้ไม่มีไฟฟ้าใช้ทั้งเกาะ ซึ่งประชาชน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อาศัยใน ต.เกาะคอเขา ขณะนี้จำนวนกว่า 1,000 คน และมีโรงแรม รีสอร์ต จำนวน 11 แห่ง กว่า 600 ห้อง จะได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน โดยเบื้องต้น ทางกาชาดอำเภอตะกั่วป่า ได้นำถุงยังชีพไปมอบให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนจากคลื่นซัดถึงตัวบ้าน และพร้อมนำเข้าหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาในระยะยาวต่อไป
นายพรเทพ เพชรมีศรี ผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอตะกั่วป่า กล่าวว่า ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่เกาะคอเขานั้นนั้นมีผลกระทบอย่างมากต่อจุดเชื่อมต่อสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเสาไฟฟ้า ซึ่งได้ติดตั้งมานานมากแล้ว ซึ่งพบมีการกัดเซาะจนทำให้สายเคเบิลโผล่ขึ้นมาก จึงทำให้เกิดความเสียงที่ต้นไม้จะเกี่ยวสายเคเบิลขาด จึงแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการตัดแต่ง และนำต้นไม้ที่มีความเสี่ยงออกไป พร้อมทั้งกำลังศึกษาวางแผนระยะยาวที่จะทำการเปลี่ยนแนวการวางสายเคเบิลหลีกเลี่ยงการกัดเซาะของน้ำทะเล ส่วนแผนระยะกลางนั้นได้มีการออกแบบจุดยึดโยงจากเคเบิลไปยังเสาไฟฟ้าในรูปแบบประภาคาร ซึ่งอยู่ในระหว่างการว่าจ้างผู้รับเหมาโดยจะเริ่มดำเนินการให้ได้เร็วที่สุด
ทางด้าน นายมานิต เพียรทอง กล่าวว่า ขณะนี้สิ่งที่ทางอำเภอตะกั่วป่าจะต้องทำคือ การติดตามเรื่องของเขื่อนกันคลื่นที่จะทำหน้าที่ป้องกันการกัดเซาะบริเวณปากร่อง บ้านน้ำเค็ม ซึ่งจะครอบคลุม 2 ตำบล ระหว่างตำบลเกาะคอเขา และตำบลบางม่วง ซึ่งกรมเจ้าท่าได้มีการสำรวจออกแบบ ซึ่งได้มีการประชุมซักถามความคิดเห็นของประชาชนมาแล้วทั้งหมด 3 ครั้ง จนเรื่องดังกล่าวได้ไปอยู่ที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
ซึ่งจะได้ทำการรายงานถึงปัญหาไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เพื่อที่จะได้ทำการสอบถามไปยังกรมเจ้าท่าถึงความคืบหน้าในการสร้างเขื่อนกันทราย และขุดลอกร่องน้ำคลองน้ำเค็มคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว เนื่องจากขณะนี้เกิดเหตุการณ์คลื่นซัดชายฝั่งซึ่งสร้างความเสียหายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการกัดเซาะเสาไฟฟ้าแรงสูงที่เชื่อมระหว่างฝั่งตำบลบางม่วง มายังพื้นที่เกาะคอเขา ชาวประมงที่มีปัญหากับสันทรายในการเข้าออกปากร่องน้ำเค็ม จึงจำเป็นที่จะต้องเสนอจังหวัดพังงา เพื่อขอประกาศเป็นเขตภัยพิบัติเพื่อทำการแก้ปัญหาเหตุคลื่นกัดเซาะชายฝั่งในส่วนของอำเภอตะกั่วป่าทั้ง 2 จุดหลักๆ ไม่ว่าจะเป็น ปากร่องน้ำเค็ม ตำบลบางม่วง-เกาะคอเขา และ ม.5 บ้านบางเนียง ที่โดนกัดเซาะอย่างต่อเนื่องจนสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (11 ก.ค.) นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า พร้อมด้วย นายพรเทพ เพชรมีศรี ผจก.ไฟฟ้าอำเภอตะกั่วป่า นายจักษุ ลิ่มพานิช นายก อบต.เกาะคอเขา นายสุดจิตร ลิ่มพานิช กำนันเกาะคอเขา นายนิวัฒ ส่งแร่ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 เกาะคอเขา นางสุนัฎฐา เพียรทอง นายกเหล่ากาชาดอำเภอตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่ อบต.เกาะคอเขา และเหล่ากาชาดอำเภอตะกั่วป่า ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายหลังจากคลื่นขนาดใหญ่สูง 2-3 เมตร ซัดเข้าหาฝั่งกัดเซาะแนวชายหาดบริเวณหมู่ที่ 3 ต.เกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งคลื่นได้กัดเซาะชายเข้ามาถึงฝั่งประมาณ 80 เมตร ความยาว 550 เมตร จากชายหาดที่เคยทอดยาวลงในทะเล ส่งผลทำให้ต้นสน ต้นมะพร้าวจำนวนมากล้มลงในทะเลเป็นแนวยาว
บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมชายหาด จำนวน 3 หลัง ถูกคลื่นซัดถึงตัวบ้าน และเสาไฟฟ้าที่เชื่อมโยงลงใต้น้ำระหว่างบ้านน้ำเค็ม มายังเกาะคอเขา เพื่อนำกระแสไฟฟ้ามาใช้ในพื้นที่เกาะคอเขา ได้รับความเสียหายจนฐานปูน และสายเคเบิลโผขึ้นมาจากพื้นทราย ซึ่งถ้าเสาไฟฟ้าล้มก็จะสร้างผลกระทบต่อการเป็นอยู่ของประชาชน ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม รีสอร์ต เพราะจะทำให้ไม่มีไฟฟ้าใช้ทั้งเกาะ ซึ่งประชาชน และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อาศัยใน ต.เกาะคอเขา ขณะนี้จำนวนกว่า 1,000 คน และมีโรงแรม รีสอร์ต จำนวน 11 แห่ง กว่า 600 ห้อง จะได้รับความเดือดร้อนอย่างแน่นอน โดยเบื้องต้น ทางกาชาดอำเภอตะกั่วป่า ได้นำถุงยังชีพไปมอบให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนจากคลื่นซัดถึงตัวบ้าน และพร้อมนำเข้าหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาในระยะยาวต่อไป
นายพรเทพ เพชรมีศรี ผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอตะกั่วป่า กล่าวว่า ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่เกาะคอเขานั้นนั้นมีผลกระทบอย่างมากต่อจุดเชื่อมต่อสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเสาไฟฟ้า ซึ่งได้ติดตั้งมานานมากแล้ว ซึ่งพบมีการกัดเซาะจนทำให้สายเคเบิลโผล่ขึ้นมาก จึงทำให้เกิดความเสียงที่ต้นไม้จะเกี่ยวสายเคเบิลขาด จึงแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการตัดแต่ง และนำต้นไม้ที่มีความเสี่ยงออกไป พร้อมทั้งกำลังศึกษาวางแผนระยะยาวที่จะทำการเปลี่ยนแนวการวางสายเคเบิลหลีกเลี่ยงการกัดเซาะของน้ำทะเล ส่วนแผนระยะกลางนั้นได้มีการออกแบบจุดยึดโยงจากเคเบิลไปยังเสาไฟฟ้าในรูปแบบประภาคาร ซึ่งอยู่ในระหว่างการว่าจ้างผู้รับเหมาโดยจะเริ่มดำเนินการให้ได้เร็วที่สุด
ทางด้าน นายมานิต เพียรทอง กล่าวว่า ขณะนี้สิ่งที่ทางอำเภอตะกั่วป่าจะต้องทำคือ การติดตามเรื่องของเขื่อนกันคลื่นที่จะทำหน้าที่ป้องกันการกัดเซาะบริเวณปากร่อง บ้านน้ำเค็ม ซึ่งจะครอบคลุม 2 ตำบล ระหว่างตำบลเกาะคอเขา และตำบลบางม่วง ซึ่งกรมเจ้าท่าได้มีการสำรวจออกแบบ ซึ่งได้มีการประชุมซักถามความคิดเห็นของประชาชนมาแล้วทั้งหมด 3 ครั้ง จนเรื่องดังกล่าวได้ไปอยู่ที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
ซึ่งจะได้ทำการรายงานถึงปัญหาไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เพื่อที่จะได้ทำการสอบถามไปยังกรมเจ้าท่าถึงความคืบหน้าในการสร้างเขื่อนกันทราย และขุดลอกร่องน้ำคลองน้ำเค็มคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว เนื่องจากขณะนี้เกิดเหตุการณ์คลื่นซัดชายฝั่งซึ่งสร้างความเสียหายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการกัดเซาะเสาไฟฟ้าแรงสูงที่เชื่อมระหว่างฝั่งตำบลบางม่วง มายังพื้นที่เกาะคอเขา ชาวประมงที่มีปัญหากับสันทรายในการเข้าออกปากร่องน้ำเค็ม จึงจำเป็นที่จะต้องเสนอจังหวัดพังงา เพื่อขอประกาศเป็นเขตภัยพิบัติเพื่อทำการแก้ปัญหาเหตุคลื่นกัดเซาะชายฝั่งในส่วนของอำเภอตะกั่วป่าทั้ง 2 จุดหลักๆ ไม่ว่าจะเป็น ปากร่องน้ำเค็ม ตำบลบางม่วง-เกาะคอเขา และ ม.5 บ้านบางเนียง ที่โดนกัดเซาะอย่างต่อเนื่องจนสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านเป็นอย่างมาก