ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวบ้านร้องเมืองพัทยาเร่งแก้ไขปัญหาทางเดินเท้า สันเขื่อนชายหาดวงศ์อมาตย์พังยับ หลังถูกน้ำทะเลกัดเซาะอย่างหนัก ทิ้งซากหินกองเกลื่อนริมหาดนานนับเดือน ไร้การซ่อมบำรุง ล่าสุด รองนายกเมืองพัทยา รุดดูความเสียหายหวั่นบานปลาย เผยเมืองพัทยาเตรียมเสนอสภาขอจัดสรรงบปรับปรุงกว่า 14.7 ล้าน พร้อมแก้ไขเร็ววันนี้
วันนี้ (3 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวประจำเมืองพัทยา ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้า นและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากว่า ปัจจุบันบริเวณทางเดินเท้าสาธารณะ และสันเขื่อนบริเวณริมหาดวงศ์อมาตย์ นาเกลือ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ที่เมืองพัทยาได้ก่อสร้างไว้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้รับความเสียหายอย่างหนักจากภัยธรรมชาติ จนทำให้พื้นทรายเกิดการทรุดตัว มีกองเศษหินที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะกองทิ้งไว้ระเกะระกะไปทั่วบริเวณ สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยว และไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ โดยกรณีดังกล่าวเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน แต่เมืองพัทยา ก็ไม่ได้เข้าดูแลปรับปรุงซ่อมแซม และแก้ไขแต่อย่างใด
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวจึงประสานผ่านไปยัง ดร.วีรวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา เพื่อนำกำลังเจ้าหน้าที่กองช่างสุขาภิบาลเมืองพัทยา ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเบื้องต้น พบว่าสภาพทางเดินเท้าสาธารณะ รวมทั้งสันเขื่อน ตลอดแนวกว่า 200 เมตร ริมชายหาดเกิดความทรุดโทรมอย่างหนัก บริเวณพื้นถนนซึ่งปูด้วยอิฐตัวหนอนเกิดทรุดตัวเนื่องจากทรายดินที่อยู่ใต้พื้นถูกน้ำกัดเซาะอย่างรุนแรง ทำให้กำแพงปูนได้รับความเสียหายแทบทั้งหมด
โดย ดร.วีรวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ที่ผ่านมา บริเวณดังกล่าวเมืองพัทยาได้รับการร้องเรียนถึงความเสียหายจากคลื่นกัดเซาะชายฝั่งมานานแล้ว จึงได้ทำการศึกษาออกแบบเพื่อหาแนวทางการแก้ไข กระทั่งมีการจัดทำแบบแล้วเสร็จซึ่งจะมีการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นที่จะฝังบ่อซีเมนต์ และหินขนาดใหญ่ทำเป็นฐานลงใต้พื้นทรายในระยะความลึก 1.8 เมตร และก่อแนวกำแพงสูงขึ้นอีก 2 เมตร เพื่อป้องกันปัญหาการกัดเซาะของน้ำทะเล
รวมทั้งการจัดทำทางเดินเท้า การปูตัวหนอนใหม่ทั้งหมดตลอดแนวชายหาดในระยะ 900 กว่าเมตร ซึ่งจะใช้งบประมาณดำเนินการ จำนวน 14.7 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้มีการนำเสนอเป็นญัตติเพื่อขออนุมัติจ่ายขาดเงินสะสมต่อสภาเมืองพัทยาครั้งสุดท้าย ที่จะนำเข้าพิจารณาในวันที่ 9 มิถุนายน 2258 นี้ ก่อนจะเร่งรัดให้เกิดการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมอย่างเร่งด่วนที่สุด เพราะถ้าหากปล่อยไว้นานความเสียหายจะขยายตัวกินพื้นที่มากยิ่งขึ้น เพราะขณะนี้กำลังจะเข้าสู่ช่วงฤดูฝนแล้ว