พังงา - ฝ่ายปกครองตะกั่วป่า ร่วมกับมณฑลทหารบก 45 จังหวัดสุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลุยจัดระเบียบชายหาดบุกรุกที่สาธารณะตั้งร้านค้า ร้านนวดกว่า 100 ราย ขีดเส้นตาย 15 วัน ต้องรื้อถอน หากรายใดไม่ปฏิบัติตามจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
วันนี้ (19 พ.ค.) นายมานิตย์ เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา พร้อมด้วย พ.ท.อารัญ เอี่ยมอิ่มสำราญ ผู้ช่วยกองข่าว มณฑลทหารบก 45 จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายสวัสดิ์ ตันเก่ง นายกเทศบาลตำบลคึกคัก นายธงชัย หันช่อ นายก อบต.ตำบลบางม่วง พร้อมเจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการร้านอาหารบริเวณชายหาด ผู้ประกอบการโรงแรม ประชุมหารือถึงแนวทางในการจัดระเบียบชายหาด โดยมีผู้ประกอบการร้านค้าทั้งหมดกว่า 100 ราย ในตำบลตึกคัก และตำบลบางม่วง ประกอบด้วย หมู่ที่ 1, 2, 3, 4, 5 และตำบลบาง ม่วงหมู่ที่ 7 และ 8 เพื่อให้เป็นมาตรฐาน สวยงามเหมาะแก่การพักผ่อนของนักท่องเที่ยว และป้องกันการบุกรุกที่ดินสาธารณะเพิ่ม
พร้อมขีดเส้นตายต้องรื้อถอนภายใน 15 วัน ซึ่งก่อนหน้านี้ ทางอำเภอตะกั่วป่า พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการจัดระเบียบเบื้องต้นไปแล้วนั้น ซึ่งชาวบ้านเองที่ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ร้านนวด บริเวณชายหาดตั้งแต่บ้านบางเนียง คึกคัก แหลมปะการัง ปากวีป และบางสัก รวมแล้วกว่า 100 ร้าน โดยห้ามไม่ให้มีการนำร่ม เตียง โต๊ะ เก้าอี้ ไปตั้งรุกล้ำเข้าไปในชายหาดซึ่งทำให้ดูไม่สวยงาม และได้มีการแจ้งให้ผู้ประกอบการร้านค้าทั้งหมดที่มีพื้นที่ปลูกร้านค้า ร้านนวดอยู่หน้าหาดให้เร่งดำเนินการรื้นถอนออกภายใน 15 วัน คือ สิ้นสุดวันที่ 6 มิถุนายน 2559 นี้ เพื่อคืนพื้นที่สาธารณะให้แก่ประชาชน และนักท่องเที่ยว อาจจะเดือดร้อนกันบ้างแต่ก็ต้องทำ เพราะเป็นนโยบายของทาง คสช.ที่มีการจัดระเบียบชายหาดทั่วประเทศ วันนี้จึงได้มีการมาทำความเข้าใจให้ต่อทุกคนทราบ และในวันจันทร์หน้าจะนำป้ายประกาศรื้อถอนร้านค้าที่ชายหาด หากพบว่ารายใดไม่มีการรื้อถอนจะถูกดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อให้เป็นมาตรฐานเหมือนกันทั่วประเทศ
นายบุญนำ นวลจันทร์ ผู้ประกอบการร้านอาหารหมู่ที่ 7 กล่าวว่า เบื้องต้น ชาวบ้านพร้อมที่จะทำตามหากทางการมีมาตรการเยียวยาแก่ชาวบ้านที่ต้องมีการรื้อถอน หลังจากนี้ คงต้องมีการประชุมผู้ประกอบการร้านค้าชายหาดกันก่อนว่าจะทำยังไงต่อไป ซึ่งชาวบ้านที่ประกอบการร้านค้าหน้าหาดนี้ต่างก็ทำกันมานานทำมาก่อนที่จะเกิดสินามิ หลังจากนี้ไปคงจะลำบากเพราะต่างคนต่างก็มีภาระครอบครัวที่จะต้องดูแล
ทางด้าน นายมานิตย์ เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า กล่าวว่า ทางหน่วยงานราชการได้เข้าทำความเข้าใจต่อผู้ประกอบการที่ขายของริมชายหาด ในพื้นที่ ต.บางม่วง และ ต.คึกคัก ซึ่งเป็นนโยบายของคณะรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย ให้ดำเนินการแก้ปัญหาในการดำเนินการปลูกสร้างที่รุกล้ำที่สาธารณะชายหาด หรือค้าขายบริเวณหน้าหาด โดยทางอำเภอตะกั่วป่า ได้มีการดำเนินงานจัดระเบียบตั้งแต่ปี 2557 โดยมีการกำหนดเขตปลอดโปรง แต่ก็มีบางกลุ่มที่ผ่าฝืนกฎระเบียบ และไม่เห็นด้วย ต่อจากนี้ได้ทำความเข้าใจต่อผู้ประกอบการกว่า 100 ราย ก่อนเข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง อาคาร ร้านค้า เตียง ร่ม ผ้าใบ ในตำบลคึกคัก ตำบลบางม่วง ตามกฎหมายมาตรา 44 ให้รื้อถอนภายใน 15 วัน โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่อาทิตย์หน้าขึ้นไป หลังจาก 15 วัน ถ้าพบว่ายังไม่มีการรื้อถอนภายในระยะเวลาที่กำหนด ทางเจ้าหน้าที่จะใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร โดยทางท้องถิ่นแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้ที่ไม่รื้อถอนตามขั้นตอนของกฎหมาย ขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่จะคอยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการถ้าไม่มีกำลังที่จะเข้าไปรื้อ ทางเจ้าหน้าที่ยินดีที่จะส่งกำลังคนเข้าไปช่วยดำเนินการรื้อถอนหากมีการร้องขอ
ส่วนในเรื่องการเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับความเดือดร้อนครั้งนี้ ก็ต้องรอให้ทางจังหวัดพังงา รวบรวมประเด็นปัญหา และอนุมัติตามขั้นตอนว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อที่จะดูแลผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ อาจจะหาสถานที่ใหม่ก็ต้องร่วมประเด็นปัญหาให้ผู้บังคับบัญชารับทราบก่อนที่จะได้รับการอนุมัติในการเยียวยาว่าจะหาที่สาธารณะใกล้เคียงกับจุดบริเวณหน้าหาด ร่วมถึงการคัดเลือกบุคคลที่มีอาชีพค้าขาย หรือประกอบอาชีพค้าขายโดยตรงที่เป็นกลุ่มเดือดร้อนจริงเข้าไปดำเนินการ ก็ต้องรออนุมัติตามขั้นตอนต่อไป
