นายกรัฐมนตรี ถามคนแพร่คลิปกระทืบนักท่องเที่ยวเมืองผู้ดี ได้อะไรขึ้นมา อยากแพร่ก็แพร่ไปแต่ถ้าผิดกฎหมายคนแพร่ก็โดนด้วย หน่ายทางจักรยานสวนจตุจักรถูกยึด บอกแทนที่จะเขียนให้ปลุกจิตสำนึก ดันมาบอกว่าล้มเหลว ปฏิเสธเรียกคนถือครองที่ดิน ส.ป.ก. เรียกนายทุนเข้าไปเคลียร์ ระบุจะไปเคลียร์ทำไม ขู่สอบออกโฉนดที่ดินรัฐให้นายทุน
วันนี้ (3 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีเว็บไซต์สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่คลิปภาพที่นักท่องเที่ยว 3 พ่อแม่ลูกชาวอังกฤษถูกรุมทำร้ายที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในคืนสงกรานต์ที่ผ่านมาว่า ตนเข้าใจตั้งแต่วันแรกแล้วก็รู้ว่ามันไม่ดี แล้วตนจะสั่งเขาไหมเล่า เร่งตำรวจให้ไปจับมาไหมเล่า ตำรวจกำลังจับอยู่แล้ว ได้มา 2-3 คน กำลังจับที่เหลืออยู่ ตนก็ต้องปล่อยให้เขาทำงาน แต่การที่มีเว็บไซต์ออกมาตนไม่ได้ไปโทษ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จริงแล้วต้องแยกกันให้ออกว่าอะไรคือกฎหมาย อะไรคือเครื่องมือของรัฐ ตนไม่ได้ปกปิด แต่เครื่องมือต่างๆ ที่ติดตั้งไว้วันนี้ไม่ใช่ทุกคนจะเข้ามาใช้ได้ จะติดทำไม ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องติด เจ้าหน้าที่ก็ใช้ติดตามจับกุมอยู่ แต่ไม่ได้ประกาศออกไป แต่เมื่อมีการเอาออกไปเผยแพร่แล้วมันได้อะไรขึ้นมา เพื่อจะเร่งรัดให้ตำรวจดำเนินการ แล้วที่เสียคือไปทั่วโลก ตนแก้ได้ไหม ตนก็แก้ไม่ได้ สื่อก็ต้องช่วยกันแก้กันต่อไป ตนแก้ได้เท่านี้จับกุมดำเนินคดีให้ได้ แล้วตนก็ไม่เห็นใจที่มาขอโทษเล็กน้อย ตนไม่สนใจ เป็นเรื่องกฎหมายดำเนินการให้เต็มที่ไป เพราะเสียชื่อเสียงประเทศชาติ
“เรื่องของการเอาภาพไปแพร่ ผมถึงบอกทุกคนไม่รู้หมด ทุกคนต้องการจะเร่งรัด ที่ทำ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็หวังดี กฎหมายเขาเขียนว่าอย่างไรเล่า จะหวังดีหวังร้ายถ้ากฎหมายเขาเขียนไว้มันก็ทำไม่ได้ทั้งนั้น เป็นเครื่องมือของใครหรือเครื่องมือได้อะไรมาก็แพร่ไปทั้งหมดมันจะเสียหายประเทศชาติอย่างไร เพื่อจะเล่นงานรัฐบาลนี้ให้ได้ แล้วประเทศมันเสียหายไหมเล่า ผมไม่โกรธหรอก อยากจะแพร่ก็แพร่ไป แต่ถ้าผิดกฎหมายคนแพร่ก็โดนด้วย ไม่ได้ปกปิด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงปัญหานโยบายการจัดระเบียบของรัฐบาลปฏิบัติไม่ต่อเนื่อง กรณีที่ช่องทางจักรยานที่สวนจตุจักรถูกยึดเป็นที่ขายของและที่จอดรถยนต์ว่า สื่อต้องไปถาม ตนต้องเอาทหารไปเฝ้าสักกี่คน จัดแล้วไม่รู้จักจัดกันต่อหรืออย่างไร หน่วยงานใครรับผิดชอบ ก็ไปไล่กรุงเทพมหานคร (กทม.) โน่น ทำแล้วก็ดีอยู่แค่ 3 วัน 5 วัน พอไปทำตรงอื่นกลับมาอีกแล้ว แทนที่จะปลุกจิตสำนึกคนว่ารัฐบาลและ คสช.จัดให้แล้ว ควรจะแบ่งเบาภาระจะได้ไปทำอย่างอื่น ทำไมไม่เขียนแบบนี้บ้าง แต่ไปเขียนว่าไม่สำเร็จๆ ทำแล้วทำอีกๆ มันก็กลับมาอีก ใครคนทำใครคนละเมิดกฎหมายหรือเปล่าไปสอนคนอย่าละเมิดกฎหมายขอแค่นี้
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนทำอะไรไปก็บอกทำอย่างนี้ๆ จัดระเบียบที่นี่ไปแล้วต่อไปช่วยกันดูแลทำมาค้าขายอย่าให้มันไม่สะอาดโสโครก ทุกอย่างกลับมาที่เดิมหมดแล้วมาเล่นงานคนทำ แล้วจะอยู่ได้อะไร กฎหมายก็ไม่เอา ก็ปล่อยอิสระแล้วกัน จะจอดรถตรงไหนก็จอดกัน ดังนั้น ฝากไว้ด้วยหน่วยงานไหนรับผิดชอบเขตไหนไม่รู้ เดี๋ยวตนจะแจ้งผู้ว่าฯ กทม. ไป ผู้ว่าฯ รับปากตนแล้วว่าจะทำทุกอย่างสนองนโยบายรัฐบาลถ้าตนสั่งไป ถ้าไม่ได้ก็ลงโทษไปเขตไหนก็ว่าไป ก็ย้ายไปหลายคนแล้ว มันต้องอย่างนี้ สื่อต้องดูทั้งสองฝ่าย คนใช้กฎหมายพูดให้เขาช่วยแบ่งเบาลดภาระลดปัญหาลงไปบ้าง คนทำงานจะได้ไม่ปวดหัวกลับไปกลับมา ทำเรื่องใหม่ไม่ได้ ย้อนกลับมาเรื่องเก่าร้อยเรื่องทำไปแล้วกลับมาอีกร้อยเรื่องเก่าอีก มันกลายเป็นสองร้อยเรื่องในเวลาเดียวกัน แล้วจะเอาจากตน ตนถามหน่อยเถอะ
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ร่างประกาศมาตรา 44 เพื่อสั่งการให้ผู้ที่ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป มาแสดงตัวและนำหลักฐานการถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินว่า รอเขาเสนอเขามา แต่เป็นการใช้เพื่อให้ ส.ป.ก.ไปตรวจสอบ ไม่ใช่ให้ไปเรียกนายทุนเข้ามาพูดคุย กรณีที่นายทุนบุกรุกที่ดินของรัฐก็กำลังดำเนินการพิสูจน์ว่าใช่หรือไม่ใช่ ถ้าไม่ใช่ก็ต้องฟ้องเอาคืน
เมื่อถามว่า ถ้านายกฯ จะใช้มาตรา 44 เพื่อเรียกนายทุนมาเคลียร์ นายกฯ กล่าวว่า ทำไมตนต้องไปเคลียร์กับนายทุน ตนต้องเคลียร์ทุกเรื่องหรือ ต้องทำเองหรือ คุณต้องเข้าใจการทำงานระบบของประเทศ แล้วกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้ที่เกี่ยวข้องเขาจะทำอย่างไร เสนอขึ้นมาจะดูรู้ว่าเป็นอย่างไร ถ้าไม่ใช่ก็ไปยึดคืนมา มันไม่ง่าย ไม่ใช่เรียกมา แล้วใช้มาตรา 44 ว่าอันนี้ใช่ หรือไม่ใช่ มันทำไม่ได้ ทั้งนี้เรื่องที่ดินของรัฐที่ถูกนายทุนบุกรุก และมีการออกเอกสารสิทธิจาก ส.ป.ก.ให้นายทุนนั้นๆ เรื่องนี้จะมีการตรวจสอบ ส.ป.ก.ด้วยว่าออกโฉนดมาได้อย่างไร