โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกชาวบ้านระบำดีใจ “ประยุทธ์” จัดให้ทำกินเขตปฏิรูปที่ดิน ยันแก้ไขปัญหาลดความเหลื่อมล้ำ เน้นบริหารที่ดินแบบรวมกลุ่มป้องกันขายต่อ ตั้งเป้า 399,624 ไร่ ทั้งประเทศ เผยเป้าปีนี้มี 47 จังหวัด รวมป่าสงวนเสื่อมโทรม ที่ราชพัสดุและที่สาธารณะ หวังวางแนวทางส่งต่อรัฐบาลชุดหน้า
วันนี้ (28 ก.พ.) พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ จ.อุทัยธานี ของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อมอบหนังสืออนุญาตให้ประชาชน ต.ระบำ อ.ลานสัก เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน จำนวน 8 ชุมชน 331 ครัวเรือน รวมเนื้อที่ 3,239 ไร่ ทำให้ประชาชนรู้สึกดีใจและพอใจที่ได้รับโอกาสให้มีที่ดินทำกินพร้อมกับการส่งเสริมอาชีพจากรัฐบาล
“รัฐบาลมีนโยบายตั้งแต่เริ่มเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ว่า จะแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของผู้ยากไร้และการบุกรุกที่ดินของรัฐ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ จึงได้จัดตั้งคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) บูรณาการงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ให้มีที่อยู่อาศัย มีที่ดินทำกินเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ในลักษณะไม่ให้กรรมสิทธิ์ และให้บริหารจัดการใช้ที่ดินโดยรูปแบบการรวมกลุ่ม เช่น สหกรณ์ เพื่อป้องกันการขายต่อ โดยตั้งเป้าหมายไว้ 399,624 ไร่ ประชาชนจะได้รับประโยชน์ทั้งสิ้น 43,035 ราย”
พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ในปี 58 รัฐบาลได้นำร่องจัดสรรที่ดินให้ประชาชนยากไร้เข้าทำประโยชน์ ครอบคลุมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมโทรม หรือพื้นที่ที่เคยถูกบุกรุกโดยนายทุน พื้นที่ปฏิรูปที่ดิน ใน 18 จังหวัด เนื้อที่รวม 129,754 ไร่ ประชาชนได้ประโยชน์ 12,215 ราย ส่วนในปี 59 ได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายครอบคลุมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมโทรม พื้นที่ปฏิรูปที่ดิน ที่ราชพัสดุ และที่สาธารณประโยชน์ รวม 80 พื้นที่ ใน 47 จังหวัด เนื้อที่รวม 195,451 ไร่ ได้แก่ ภาคเหนือ 8 จังหวัด ภาคอีสาน 15 จังหวัด ภาคกลาง 9 จังหวัด ภาคตะวันตก 4 จังหวัด ภาคตะวันออก 3 จังหวัด ภาคใต้ 8 จังหวัด
“ท่านนายกฯ ได้กำชับให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทย เร่งรัดดำเนินการให้ประชาชนมีที่ดินทำกินจริง โดยมอบหนังสืออนุญาตให้ประชาชนเข้าทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐตามที่ได้จัดสรรไว้โดยเร็ว เหมือนที่เคยมอบหนังสืออนุญาตฯ ให้แก่ประชาชน อ.แม่ออน และ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าสงวน รวมเนื้อที่ 15,208 ไร่ มีผู้ได้รับประโยชน์ 2,612 ราย รวมถึงล่าสุดที่ จ.อุทัยธานี ที่เป็นพื้นที่ ส.ป.ก. โดยหากมีโอกาสท่านนายกฯ จะลงพื้นที่ไปพบกับพี่น้องประชาชนด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ รัฐบาลจะดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของผู้ยากไร้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ทั่วประเทศ และวางแนวทางการปฏิรูปที่ดินระยะยาวส่งต่อให้กับรัฐบาลชุดต่อไป เพื่อสร้างหลักประกันให้ประชาชนผู้ยากไร้ได้มีที่อยู่อาศัย และมีที่ดินทำกินเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้” พลตรี สรรเสริญ กล่าว