ผู้นำชุมชนแสมสาร ปะทะคารมทหารเรือ ถกปัญหาที่ดินคาเวทีงานบุญ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้นำชุมชนแสมสาร ปะทะคารมทหารเรือ ถกปัญหาที่ดินคาเวทีงานบุญ สุดท้ายต้องให้กระบวนการยุติธรรมของศาล จะเป็นผู้ตัดสิน

วันนี้ (26 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่ม.4 ชุมชนบ้านหนองจง ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้จัดให้มีงานทำบุญเลี้ยงพระ ภายใต้งานที่มีชื่อว่า “รวมพลังทำบุญกลางแจ้งของชาวบ้านตำบลแสมสาร” เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวร

โดยมี นายประเสริฐ พิทักษ์กรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแสมสาร ได้นำผู้นำชุมชน พร้อมชาวชุมชนแสมสารรวมกว่า 1,000 คน ร่วมงานบุญกันอย่างคับคั่ง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝายปกครอง และสารวัตรทหารเรือเข้าดูแลด้านความเรียบร้อย

ภายในงานบุญครั้งนี้ นายประเสริฐ พิทักษ์กรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแสมสาร ได้อาศัยงานบุญเป็นเวทีขึ้นถกหาข้อยุติปัญหาที่ดินในตำบลแสมสาร โดยเชิญฝ่ายฐานทัพเรือสัตหีบ มี น.อ.อธิคม เลาหะกุล รอง ผอ.กองอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบเป็นผู้แทนขึ้นชี้แจง

นอกจากนี้ นายปราโมทย์ โถวสกุล อดีตกำนันตำบลแสมสาร ขึ้นถกปัญหาพร้อมใช้คารมดุเดือดโต้แย้งฝ่ายทหารเรือ แม้บรรยากาศจะมีการประทะคารมกันดุเดือด ชาวบ้านส่งเสียงเฮเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่มีการใช้ความรุนแรง หรือเกิดเหตุวุ่นวายแต่อย่างใด โดยใช้เวลานาน 1 ชั่วโมง สุดท้ายไม่ได้ข้อยุติ

นายปราโมทย์ โถวสกุล ไม่พอใจกองทัพเรือที่เข้ามาจัดระเบียบที่ดิน เพราะยืนยันว่า ที่ดินในแสมสารเป็นที่ดินทำกินของชาวบ้านมานาน และกองทัพเรือ เพิ่งมีการขึ้นทะเบียนที่ดินเป็นที่ราชพัสดุเมื่อปี พ.ศ.2518 แต่ชาวบ้านได้อยู่ทำกินมาก่อนหน้านี้ การที่กองทัพเรือให้ชาวบ้านขึ้นทะเบียนขอเช่าที่ดินต่อกรมธนารักษ์ จึงเป็นความไม่ถูกต้อง พร้อมเรียกร้องให้กองทัพเรือ พิสูจน์สิทธิที่ดินทำกินให้แน่ชัดตามกระบวนการของกฎหมาย ไม่ใช่เรียกร้องให้ชาวบ้านไปยื่นขอสิทธิเช่าครองที่ดินดังกล่าว

ด้าน น.อ.อธิคม เลาหะกุล ได้ชี้แจ้งให้ประชาชนรับทราบถึงการเข้ามาจัดระเบียบที่ดินในแสมสาร ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐ เพราะเห็นว่า จากเดิมที่มีการจัดสรรที่ดินบางส่วนให้ชาวบ้านได้อาศัยทำกิน และได้ขยายเป็นวงกว้างเกินที่กำหนด

นอกจากนี้ มีกลุ่มนายทุน และผู้มีอิทธิพลเข้ามายึดครองที่ดินรัฐ ซื้อขายสิทธิครอบครองโดยมิชอบ และก่อสร้างกิจการเชิงพาณิชย์ เช่น ศูนย์การค้าอาหารทะเล ที่จอดรถ ร้านอาหาร และรีสอร์ต ซึ่งมีการรุกล้ำพื้นที่ รุกเขา และรุกลงไปในทะเล ส่งผลเสียต่อรัฐ และประเทศชาติ

กองทัพเรือ จึงต้องเข้ามาจัดระเบียบ โดยจับกุมนายทุนที่กระทำความผิดต่างๆ พร้อมชี้แจ้งให้ชาวบ้านทราบสิทธิการครอบครองที่ดินทำกินที่ถูกต้อง โดยให้ชาวบ้านมายื่นขอตรวจสอบสิทธิ หากเป็นไปตามระเบียบกำหนดก็จะดำเนินการให้เช่าที่ดินทำกินต่อกรมธนารักษ์ ซึ่งมีอายุยาวนานถึง 3-30 ปี แต่หากผู้ใดมีเอกสาร ส.ค.1 ก่อนปี พ.ศ.2479 ยืนยันความเป็นผู้ครอบครองที่ดิน ก็สามารถยื่นขอพิสูจน์สิทธิ ซึ่งกระบวนการยุติธรรมของศาลจะเป็นผู้ตัดสินว่า ผู้นั้นมีสิทธิครอบครองอย่างถูกต้องหรือไม่