ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “กรรมการผู้จัดการอาดังรีสอร์ท” ออกโรงแจงยังสามารถใช้ประโยชน์ในที่ดินตามสัญญาเช่าจากกรมธนารักษ์ได้ พร้อมร่อนหนังสือชี้แจงในนามบริษัท โดยยกเอาเอกสารจากธนารักษ์พื้นที่สตูล ที่การันตีไว้มาสำทับเพื่อให้เข้าใจโดยทั่วกันอีกครั้ง
วันนี้ (23 ก.พ.) นางปริศนา อรุณเวชกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท อาดังรีสอร์ท จำกัด ได้ชี้แจงต่อ “MGR Online ภาคใต้” ถึงกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวในทำนองว่า ศาลปกครองสูงสูงมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ให้อุทยานแห่งชาติตะรุเตา สามารถทำการรื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ 5 ไร่เศษ ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะอาดัง ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล ได้ว่า เรื่องนี้ยังมีความคลาดเคลื่อนในบางประเด็น และวานนี้ (22 ก.พ.) บริษัทก็ได้ให้ทนายความทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงในนามบริษัทแล้ว
นางปริศนา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา สำนักงานธนารักษ์พื้นที่สตูล ก็ได้ทำหนังสือที่ กค 0311.58/168 ลงนามโดย นายสาธิต บุญแล ธนารักษ์พื้นที่สตูล ชี้แจงเกี่ยวกับคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดส่งให้บริษัทมาแล้ว สรุปใจความสำคัญได้ว่า ในชั้นนี้บริษัทยังคงสามารถใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุดังกล่าวตามสัญญาเช่าได้ โดยสำนักงานธนารักษ์พื้นที่สตูล จะได้มีหนังสือแจ้งกรมธนารักษ์พิจารณาสั่งการเรื่องนี้ต่อไป ตามที่ “MGR Online ภาคใต้” ได้รายงานข่าวแล้ว
สำหรับหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงของบริษัท อาดังรีสอร์ท จำกัด ที่มอบหมายให้ทนายความจัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ดังกล่าว มีเนื้อหาดังนี้ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อต่างๆ ว่า ศาลปกครองสูงสุด สั่งอุทยานแห่งชาติตะรุเตา “รื้อถอนอาดังรีสอร์ท” และมีคำสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ว่า ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้อุทยานแห่งชาติตะรุเตาสามารถใช้อำนาจตาม ม.22 ของ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 เข้ารื้อถอนอาดังรีสอร์ท ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตาได้ และยังให้ข่าวว่า กรณีศาลปกครองสูงสุดเพิ่งมีคำพิพากษาในคดีอาดังรีสอร์ทพื้นที่ 5 ไร่ ที่ซ้อนทับพื้นที่ราชพัสดุในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา โดยวินิจฉัยว่า หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสามารถเข้ารื้อถอนทรัพย์สินที่บุกรุกเขตอุทยานโดยใช้อำนาจทางปกครองได้
บริษัท อาดังรีสอร์ท จำกัด ขอเรียนชี้แจงว่า ตามที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ได้มีคำสั่งให้บริษัทฯ ระงับการก่อสร้าง และให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งบริษัทฯ ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสงขลา และศาลปกครองสงขลา ได้พิพากษาห้ามมิให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตาใช้อำนาจตาม ม.22 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ในการใช้มาตรการบังคับทางปกครองเข้ารื้อถอน หรือทำลายสิ่งปลูกสร้างในส่วนที่ส่งมอบให้แก่กรมธนารักษ์ ซึ่งศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยว่า คำสั่งที่ให้บริษัทฯ ทำลาย หรือรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง หรือสิ่งอื่นใดที่ผิดไปจากสภาพเดิม เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่หาใช่เป็นการใช้มาตรการบังคับทางปกครองดังที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยไม่
อีกทั้งคดีนี้ไม่ปรากฏว่า หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ได้ดำเนินการใช้มาตรการบังคับทางปกครองแต่อย่างใด บริษัทฯ จึงไม่อาจมีคำขอให้ดำเนินการตามนั้นได้ และการที่ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาห้ามมิให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ใช้อำนาจตาม ม.22 พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ใช้มาตรการบังคับทางปกครองเข้ารื้อถอนทำลายสิ่งปลูกสร้าง โดยเห็นว่าเป็นมาตรการบังคับทางปกครองนั้น ศาลปกครองสูงสุดไม่เห็นพ้องด้วย จึงพิพากษาให้ยกฟ้อง จะเห็นได้ว่าศาลปกครองสูงสุดหาได้มีคำพิพากษาดังข้อความตามที่เป็นข่าวแต่ประการใดไม่
บริษัทฯ ขอเรียนข้อเท็จจริงเพื่อให้ทราบกันทั่วไปว่า บริษัทฯ ประกอบกิจการด้านการท่องเที่ยว โดยให้ความสำคัญต่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และสถานที่ประกอบกิจการอาดังรีสอร์ทตั้งอยู่บนที่ดินราชพัสดุ สิ่งปลูกสร้างทั้งหมดในที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นกรรมสิทธิ์ของกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน บริษัทฯ เป็นเพียงผู้ได้รับสิทธิการเช่าตามสัญญาเช่าเป็นระยะเวลา 25 ปีเท่านั้น
“นอกจากนี้ หลังจากศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาแล้ว ทางบริษัทฯ ยังได้รับการยืนยันจากสำนักงานธนารักษ์พื้นที่สตูล ว่า บริษัทฯ ยังสามารถใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุดังกล่าวตามสัญญาเช่าได้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน” ข้อความในหนังสือชี้แจงของบริษัทอาดังรีสอร์ท ระบุไว้ในตอนท้าย
อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง
- “อาดังรีสอร์ท” โต้ข่าวศาลปกครองสูงสุดสั่งรื้อถอนไม่จริง! ยกหนังสือ “ธนารักษ์พื้นที่สตูล” การันตียังใช้ประโยชน์ตามสัญญาเช่าได้
- ทุบทิ้ง “อาดังรีสอร์ท” ที่อุทยานตะรุเตา! อีกความพ่ายแพ้ของ “ทุนการเมือง”
- ฟันไม่เลี้ยง! สตูลเอาจริงรีสอร์ตเถื่อนพร้อมหน่วยงานรัฐที่มีเอี่ยว ชู “อาดังรีสอร์ท” เป็นตัวอย่าง
- อุทยานแห่งชาติตะรุเตาฯ จ่อรื้อ “อาดังรีสอร์ตท” เผยรอกรมฯ มีคำสั่งดำเนินการ