นราธิวาส - ชาวบ้านเร่งช่วยกันดับไฟไหม้ขณะกำลังลุกลามสวนยางในนราฯ ซึ่งรถดับเพลิงของเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้ สุดท้ายวอดสูญ 2 ไร่ ที่มีอยู่แปลงเดียวต่อหน้าต่อตาเจ้าของ
วันนี้ (12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับไฟไหม้ป่าในเขตรอยต่อระหว่าง อ.สุไหงปาดี กับ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งกินระยะเวลายาวนานติดต่อกันถึง 10 วันแล้วนั้น ล่าสุด ไฟไหม้ป่าในพื้นที่ป่าสงวนลุ่มน้ำบางนราแปลงที่ 2 ซึ่งอยู่ในพื้นที่บ้านบาโงซารายอ ม.1 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ยังคงอยู่ในสภาวะวิกฤตที่สุด เนื่องจากไฟที่คุกรุ่นอยู่ชั้นใต้ดินได้ปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้ลุกลามอย่างรวดเร็วเข้าพื้นที่สวนยางพาราของชาวบ้านจากกระแสลมแรงที่ได้เปลี่ยนทิศ
โดยในระหว่างที่ผู้สื่อข่าวกำลังติดตามทำข่าวการดับไฟไหม้ป่าของกำลังอาสาสมัครรักษาดินแดน อ.สุไหงโก-ลก อยู่นั้น นางรอมมือละ มะ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/9 ซึ่งเป็น 1 ใน 50 ครอบครัว ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าวได้วิ่งมาด้วยหน้าตาแตกตื่น และแจ้งขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่นำรถดับเพลิงเข้าไปฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกลามเข้าป่าสวนยางพารา ที่ห่างจากบ้านพักประมาณ 150 เมตร
แต่ด้วยภูมิประเทศไม่เอื้ออำนวยทำให้รถดับเพลิงไม่สามารถที่จะเข้าพื้นได้ จึงได้นำสมาชิกในครอบครัว และเพื่อนบ้าน จำนวน 4-5 คน ตัดกิ่งไม้ใช้ตีไฟที่กำลังลุกลามให้ดับ แต่ด้วยสภาพที่เป็นป่าพรุที่มีซากพืชซากสัตว์ทับถมกันมาเป็นเวลานานได้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จนไฟได้ลามเข้ากินสวนยางพารา จำนวน 2 ไร่ ที่มีอยู่แปลงเดียวจนได้รับความเสียหายไปต่อหน้าต่อตา
ส่วนการดับไฟไหม้ป่าในภาพรวมขณะนี้ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายยังคงปฏิบัติหน้าที่ป้องกันไม่ให้เกิดไฟไหม้ลุกลามกินพื้นที่ขยายวงกว้างมากกว่าที่เป็นอยู่ แต่สามารถทำได้เพียงวงจำกัด คือ ให้ไฟลุกไหม้ในพื้นที่น้อยสุดเท่านั้น