นราธิวาส - คืบหน้าเกี่ยวกับไฟไหม้ป่าในพื้นที่ 8 ตำบล 4 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส ยังคงมีการคุกรุ่นอยู่ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังไม่ให้สะเก็ดไฟปลิวไปตกที่ต่างๆ จนกลายเป็นต้นเพลิงอีก
วันนี้ (11 พ.ค.) สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับไฟไหม้ป่าในพื้นที่ 8 ตำบล 4 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส ประกอบด้วย อำเภอสุไหงปาดี สุไหงโก-ลก บาเจาะ และยี่งอ โดยภาพรวมจากการใช้พารามอเตอร์บินสำรวจในช่วงเช้าของวันนี้ในพื้นที่บ้านบาโงซารายอ ม.1 และบ้านลูโบ๊ะซามา ม.8 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่ยังคงมีไฟไหม้ป่าที่วิกฤตที่สุด พบว่า ต้นเพลิงที่คุกรุ่นอยู่ชั้นใต้ดินได้ปะทุขึ้นมาอีกระลอกจากผลพวงของกระแสลมที่พัดแรงในช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้สามารถมองเห็นจุดต้นเพลิงเป็นหย่อมๆ และมีไฟกำลังลุกไหม้ป่าเป็นแนวยาว ประมาณ 1 กม. พร้อมทั้งมีกลุ่มหมอกควันไฟป่าลอยขึ้นสู่บรรยากาศเป็นทางยาว
โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องซึ่งประกอบด้วย นายมาเณศ บุณยานันท์ ผอ.ศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร นายสุพจน์ เพลิดพริ้ง ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 จ.สงขลา นายณรงค์พล หมึกทอง ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 สาขาปัตตานี นายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโก-ลก และเจ้าหน้าที่ทหารได้มีการประชุมปรับแผนการทำงานโดยแยกออกเป็น 2 ฝ่าย คือ การทำงานภาคพื้นดิน และการทำงานทางอากาศ โดยมุ่งเน้นการดับไฟไหม้ป่าที่จุดบ้านลูโบ๊ะซามา ม.8 ต.ปาเสมัส เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟได้ลุกลามเข้าไปยังพื้นที่ศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร
ซึ่งทางภาคพื้นดินได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ และเครื่องมือกลหนักในการใช้เครื่องสูบน้ำระยะไกล สูบน้ำจากคลองชลประทานลงสู่พื้นที่ป่าพรุ เพื่อให้ผืนป่าเกิดความชุ่มชื้น รวมทั้งใช้ในการฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้ พร้อมทั้งใช้รถแบ็กโฮในการเบิกทางเพื่อเป็นแนวกันไฟ เพื่อที่จะล้มกรอบจุดที่ไฟกำลังไหม้ให้อยู่ในวงจำกัด ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังไม่ให้สะเก็ดไฟปลิวไปตกที่ต่างๆ จนกลายเป็นต้นเพลิง
ส่วนทางอากาศนั้น เจ้าหน้าที่ได้ปรับแผนใช้เฮลิคอปเตอร์ จำนวน 3 ลำ คือ ของทหาร 2 ลำ และของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อีก 1 ลำ ในการระดมตักน้ำในคลองชลประทาน เพื่อบินโปรยน้ำดับไฟจุดไฟไหม้ป่าในพื้นที่บ้านลูโบ๊ะซามา ให้มีความต่อเนื่อง เพื่อให้การดับไฟป่าทางอากาศมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ จะสลับสับเปลี่ยนกันทำงานเป็นช่วงๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เหตุไฟไหม้ป่าในครั้งนี้ทั้ง 8 ตำบล ใน 4 อำเภอ ทุกจุดเจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่กันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความพยายามที่จะควบคุมไฟไหม้ป่าให้อยู่ในวงจำกัด