สุราษฎร์ธานี - หลายหน่วยงานเร่งช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME หลังเจอภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้รับความเดือดร้อนหนัก ด้านผู้บริหารธนาคาร SME ยอมรับผู้ประกอบการขนาดกลางและรายย่อย ได้รับผลกระทบหนักแต่ยังไม่ถึงเป็นหนี้เสีย พร้อมวอนอย่าเพิ่งท้อ
วันนี้ (4 เม.ย.) ที่สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี นายวงศศิริ พรหมชนะ ผู้ว่าสุราษฎร์ธานี นางพรรณขนิตตา บุญครอง ประธานกรรมการบริหาร ธนาคาร SMEs นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคาร SMEs ร่วม รศ.ดรเจริญ นาคะสรรค์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี ธนาคาร บสย. สถาบันการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรม และศูนย์บ่มเพาะธุรกิจในพื้นที่ ให้ความรู้ถึงนโยบายของรัฐและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนแก่ผู้ประกอบการ SME ขนาดกลางและขนาดย่อม กว่า 100 คน หลังจากธุรกิจเจอสภาวะเศรษฐกิจถดถอย และขาดสภาพคล่อง
โดยโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs กลุ่ม start up นอกเหนือไปจากการสนับสนุนของทางธนาคาร บสย. สถาบันการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรม และศูนย์บ่มเพาะธุรกิจในพื้นที่ ยังมีสมาคมที่ปรึกษาธุรกิจภาคใต้ที่สามารถเป็นพี่เลี้ยงทางธุรกิจให้แก่ SMEs ได้เช่นกัน เนื่องจากเป็นองค์กรที่เป็นการรวมตัวของที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์สูงในแต่ละสาขาธุรกิจ ที่สามารถทำการวินิจฉัยกระบวนการจัดการธุรกิจ และให้คำแนะนำเชิงลึกให้แก่สถานประกอบการในส่วนที่ต้องการปรับปรุงแก้ไข รวมถึงให้คำแนะนำในการพัฒนาสินค้าและบริการได้อย่างตรงจุด จากกิจกรรมที่ทางภาครัฐออกแบบ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน จะเป็นการช่วยส่งเสริมผลักดันผู้ประกอบการ SMEs ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการธนาคาร SMEs กล่าวว่า โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs กลุ่ม start up มี 3 ส่วนด้วยกัน ประกอบด้วย ให้สินเชื่อแก่คนที่ยังเข้าไม่ถึง หรือเข้าไม่ถึงบริการของธนาคารพาณิชย์ โดยทั่วประเทศมีถึง 1.5 ล้านราย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการรายเล็กๆ โดยธนาคารจะให้วงเงินกู้รายละไม่เกิน 15 ล้านบาทต่อราย โดยเฉพาะรายที่ไม่ถึง 5 ล้านบาท ไม่ต้องใช้หลักประกัน หรือที่ดินมาขอกู้ มี บสย.เข้ามาเป็นผู้ค้ำประกันให้ โดยใช้เวลา 5 ปี ในการใช้คืน โดย 3 ปีแรกเสียดอกเบี้ยเพียง 4 % ที่เหลือ 2 ปีเสียดอกเบี้ยตามท้องตลาด
ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการขนาดกลางและรายย่อย ได้รับผลกระทบหนักจากภาวะเศรษฐกิจ หลายหน่วยงานจึงต้องเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงช่วยประคอง พร้อมวอนผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบอย่าเพิ่งท้อแท้ ขอให้อดทนประคับประคองกันทั้งเจ้าหนี้ และลูกหนี้ขอให้ร่วมมือกันหาทางออก พร้อมขอให้ผู้ประกอบการปรับปรุงพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เข้ามาขายเพิ่มเติม ทาง SMEs แบงก์พร้อมที่จะเข้ามาส่งเสริมเรื่องเงินทุน
ด้าน นายสุทัศ เลิศมโนรัตน์ ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ได้เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังขับเคลื่อนได้ดี ส่วนผลกระทบในเรื่องเศรษฐกิจในตอนนี้กำลังซื้อจากภาคเกษตรกรชะลอตัวเนื่องจากราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำโดยเฉพาะยางพารา แต่ก็คาดหวังว่ามาตรจากภาครัฐที่เข้ามาส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจะสามารถกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเพิ่มขึ้น
วันนี้ (4 เม.ย.) ที่สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี นายวงศศิริ พรหมชนะ ผู้ว่าสุราษฎร์ธานี นางพรรณขนิตตา บุญครอง ประธานกรรมการบริหาร ธนาคาร SMEs นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคาร SMEs ร่วม รศ.ดรเจริญ นาคะสรรค์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี ธนาคาร บสย. สถาบันการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรม และศูนย์บ่มเพาะธุรกิจในพื้นที่ ให้ความรู้ถึงนโยบายของรัฐและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนแก่ผู้ประกอบการ SME ขนาดกลางและขนาดย่อม กว่า 100 คน หลังจากธุรกิจเจอสภาวะเศรษฐกิจถดถอย และขาดสภาพคล่อง
โดยโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs กลุ่ม start up นอกเหนือไปจากการสนับสนุนของทางธนาคาร บสย. สถาบันการศึกษา ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรม และศูนย์บ่มเพาะธุรกิจในพื้นที่ ยังมีสมาคมที่ปรึกษาธุรกิจภาคใต้ที่สามารถเป็นพี่เลี้ยงทางธุรกิจให้แก่ SMEs ได้เช่นกัน เนื่องจากเป็นองค์กรที่เป็นการรวมตัวของที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์สูงในแต่ละสาขาธุรกิจ ที่สามารถทำการวินิจฉัยกระบวนการจัดการธุรกิจ และให้คำแนะนำเชิงลึกให้แก่สถานประกอบการในส่วนที่ต้องการปรับปรุงแก้ไข รวมถึงให้คำแนะนำในการพัฒนาสินค้าและบริการได้อย่างตรงจุด จากกิจกรรมที่ทางภาครัฐออกแบบ โดยอาศัยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน จะเป็นการช่วยส่งเสริมผลักดันผู้ประกอบการ SMEs ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการธนาคาร SMEs กล่าวว่า โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs กลุ่ม start up มี 3 ส่วนด้วยกัน ประกอบด้วย ให้สินเชื่อแก่คนที่ยังเข้าไม่ถึง หรือเข้าไม่ถึงบริการของธนาคารพาณิชย์ โดยทั่วประเทศมีถึง 1.5 ล้านราย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการรายเล็กๆ โดยธนาคารจะให้วงเงินกู้รายละไม่เกิน 15 ล้านบาทต่อราย โดยเฉพาะรายที่ไม่ถึง 5 ล้านบาท ไม่ต้องใช้หลักประกัน หรือที่ดินมาขอกู้ มี บสย.เข้ามาเป็นผู้ค้ำประกันให้ โดยใช้เวลา 5 ปี ในการใช้คืน โดย 3 ปีแรกเสียดอกเบี้ยเพียง 4 % ที่เหลือ 2 ปีเสียดอกเบี้ยตามท้องตลาด
ซึ่งขณะนี้ผู้ประกอบการขนาดกลางและรายย่อย ได้รับผลกระทบหนักจากภาวะเศรษฐกิจ หลายหน่วยงานจึงต้องเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงช่วยประคอง พร้อมวอนผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบอย่าเพิ่งท้อแท้ ขอให้อดทนประคับประคองกันทั้งเจ้าหนี้ และลูกหนี้ขอให้ร่วมมือกันหาทางออก พร้อมขอให้ผู้ประกอบการปรับปรุงพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เข้ามาขายเพิ่มเติม ทาง SMEs แบงก์พร้อมที่จะเข้ามาส่งเสริมเรื่องเงินทุน
ด้าน นายสุทัศ เลิศมโนรัตน์ ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ได้เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังขับเคลื่อนได้ดี ส่วนผลกระทบในเรื่องเศรษฐกิจในตอนนี้กำลังซื้อจากภาคเกษตรกรชะลอตัวเนื่องจากราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำโดยเฉพาะยางพารา แต่ก็คาดหวังว่ามาตรจากภาครัฐที่เข้ามาส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจะสามารถกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดสุราษฎร์ธานีเพิ่มขึ้น
