กระบี่ - กลุ่มต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินบุกศาลากลาง ทวงถามความคืบหน้าการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ผวจ.กระบี่ ยันไม่เคยแสดงความคิดเห็นหนุน หรือคัดค้าน พร้อมพูดคุยกับทุกฝ่าย
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (21 มี.ค.) กลุ่มเครือข่ายต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ในนามเครือข่ายประชาชนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนและกลุ่มเซฟกระบี่ นำโดย นายอาหลี ชาญน้ำ นายกสมาคมคนรักเลจังหวัดกระบี่ และนายอัครเดช ฉากจินดา ประธานกลุ่มเซฟกระบี่ พร้อมสมาชิกประมาณ 100 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อมาทวงถามความคืบหน้าข้อเรียกร้อง จำนวน 3 ข้อ ที่ได้ยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย 1.การขอให้ยกเลิกประกาศเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่ 2.การใช้พลังงานทางเลือกในการใช้ผลิตไฟฟ้า และ 3.ความคืบหน้าการทำงานของกรรมการไตรภาคี การสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่
ต่อมา ทางนายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้เชิญสมาชิกทั้งหมดเข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่ พร้อมรับฟังปัญหา และตอบข้อซักถามต่างๆ โดยมี พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ ประธานอนุกรรมการไตรภาคี ชุดพลังงานทางเลือก การก่อสร้างโรงไฟฟ้ากระบี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟัง
นายอาหลี ชาญน้ำ นายกสมาคมคนรักเลจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตามที่ได้มีประกาศคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 3/2559 เรื่องการยกเว้นการใช้บังคับกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง และกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ และคำสั่งที่ 4/2559 เรื่องการยกเว้นการใช้บังคับกฎกระทรวงให้บังคับใช้บังคับผังเมืองรวมสำหรับการประกอบกิจการบางประเภท ซึ่งประกาศคำสั่งทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวมีผลเป็นการยกเลิกหลักประกันในการคุมครองสิทธิด้านสิ่งแวดล้อมของชุมชนตามกฎหมายหลายประการ เป็นการเปิดทางให้กลุ่มนายทุนมีการประกอบกิจการโดยไม่ต้องคำนึงถึงผังเมือง
นายอาหลี กล่าวด้วยว่า เครือข่ายมีความเห็นว่า การดำเนินการดังกล่าวของ คสช.จะก่อให้เกิดความวุ่นวายตามมา การใช้อำนาจอิทธิพลจะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว อันเป็นการก้าวเดินที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงของรัฐบาล และ คสช.และเชื่อว่าประกาศดังกล่าวเพียงเพื่อเอื้อประโยชน์ให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่อย่างแน่นอน ทางเครือข่ายฯ ได้ยื่นหนังสือเพื่อขอให้มีการยกเลิกไปแล้ว และในวันนี้จึงได้มาทวงถามความคืบหน้า
ด้าน นายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า สำหรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการทำงานของคณะกรรมการไตรภาคี โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 8 เดือน จึงจะได้ข้อสรุป และในระหว่างนี้ตนก็จะขอทราบข้อมูลจากคณะกรรมการทุกฝ่ายเพื่อมาบอกกล่าวให้ประชาชนได้รับทราบว่า มีการดำเนินการคืบหน้าไปอย่างไรบ้าง เดือนละ 1 ครั้ง ส่วนความคืบหน้าเรื่องที่ทางเครือข่ายฯ ได้ยื่นเรื่องไว้ก็จะติดตามให้ และกรณีที่มีข่าวว่าตนสนับสนุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่นั้น ขอยืนยันว่า ตนยังไม่เคยแสดงความคิดเห็นใดๆ และพร้อมที่จะพูดคุยกับทุกฝ่าย
พล.อ.อุดมชัย กล่าวว่า สำหรับเรื่องพลังงานทางเลือกที่ชุดของตนได้รับมอบหมาย ภายในเดือนมิถุนายนนี้ ก็จะเก็บรวมรวมข้อมูลให้แล้วเสร็จ ซึ่งจะได้รู้ว่าพลังงานทางเลือกที่มีอยู่ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ทั้งปาล์มน้ำมัน และอื่นๆ จะมีเพียงพอหรือไม่ในการนำมาผลิตกระแสไฟฟ้าแทนถ่านหิน ตามที่ทางประชาชนที่เห็นต่างในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเสนอให้มีการใช้พลังงานทางเลือกเป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้า และเห็นด้วยที่จะเปิดเผยข้อมูลเป็นระยะๆ ให้แก่ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดข้อขัดแย้งต่างๆ ในพื้นที่