xs
xsm
sm
md
lg

ครอบครัวและศิษย์เก่าโรงเรียนญิฮาดวิทยาตัดใจไม่สู้คดี เผยท้อต่อความยุติธรรมที่เกิดขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ปัตตานี - ครอบครัว และศิษย์เก่าโรงเรียนญิฮาดวิทยา ร่วมตัดสินใจไม่สู่คดี ขณะเดียวกัน ชาวบ้านนับร้อยช่วยกันโยกย้ายข้าวของออกจากบริเวณโรงเรียนดังกล่าว ท่ามกลางความเสียใจของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก

วันนี้ (14 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีศาลแพ่งมีคำพิพากษาในคดีแพ่ง แดงที่ 160/2558 สั่งริบทรัพย์สินที่ดินโรงเรียนญิฮาดวิทยา เพราะถือเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวต่อการกระทำผิดตามบทนิยามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 3(21) แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 หลังจากพบมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายในพื้นที่ เป็นที่ฝึกฝนกำลังเพื่อการก่อความไม่สงบในพื้นที่ จากการเบิกปากพยานยืนยันว่า มีการใช้ที่ดินที่เป็นที่ตั้งของโรงเรียนดังกล่าวเป็นที่ฝึกการก่อการร้ายจริง โดยมีวัตถุพยานร่องรอยกระสุนปืนที่บริเวณต้นมะพร้าวภายในโรงเรียนดังกล่าว พบมีกระป๋องน้ำอัดลมที่มีร่องรอยกระสุนปืนหลายแห่ง อุปกรณ์ที่สามารถใช้เป็นส่วนประกอบวัตถุระเบิด เช่น สายไฟ ท่อพีวีซี เครื่องวัดไฟฟ้า และแผนปฏิบัติเจ็ดขั้นในขวดโหลพลาสติกฝังดินในหลุมขยะใกล้บ้านพัก ดังนั้น ที่ดินที่ยึดจึงถือเป็นทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้หรือสนับสนุนการกระทำความผิดตามมาตรา (8) ของบทนิยามว่า ความผิดมูลฐานเป็นความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตาม ป.อาญา
 

 
ภายหลังมีคำสั่งดังกล่าว ทำให้ครอบครัว และประชาชนในพื้นที่ไม่สบายใจ และเป็นห่วงต่อสถานการณ์ของโรงเรียนขึ้นมาทันที หลังจากก่อนหน้านี้ เคยถูกปิดไม่มีกำหนด ไม่อนุญาตทำการเรียนการสอนได้อีก จนกระทั่งมีคำพิพากษา หรือคำสั่งศาลแพ่งให้ริบที่ดินที่เป็นที่ตั้งโรงเรียนแห่งนี้

จนทำให้หน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมกับอัยการพิเศษ 2 ภาค 9 ต้องออกมาชี้แจงข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับกรณีคดีดังกล่าว และพยายามหาแนวทางเยียวยาให้แก่ครอบครัวหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการของศาล เนื่องจากยังอยู่ในห่วงเวลาของการยื่นอุทธรณ์ หลังจากทีมทนายความได้ยื่นขอต่อเวลาเพิ่มจาก 30 วันแรก จนถึงภายในวันที่ 14 ก.พ.นี้ ว่าทางญาติจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ นอกจากนั้น ทางหน่วยงานอำนวยความยุติธรรม ศอ.บต. ได้ลงพื้นที่ เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา เพื่อพูดคุยสร้างความเข้าใจต่อทางญาติ พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกเมื่อมีการอุทธรณ์เพื่อสู้คดี
 

 
จนกระทั่งล่าสุด วันนี้ (15 ก.พ.) นางยาวาฮี แวมะนอ ภรรยาของนายดูลเลาะ แวมะนอ พร้อมครอบครัว และศิษย์เก่าโรงเรียนญิฮาดวิทยา ได้ร่วมตัดสินใจไม่ยื่นอุทธรณ์หลังจากครบกำหนดเวลาในวันนี้ พร้อมนำข้าวของโยกย้ายออกจากบริเวณโรงเรียนดังกล่าว โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ และพื้นที่ข้างเคียงที่ทราบข่าวนำรถกระบะ รถพ่วงสามล้อ เข้ามาช่วยกันขนย้ายข้าวของนับสิบคันรถ ซึ่งยังไม่มีที่พักแห่งใหม่ เบื้องต้น นำข้าวของมากองรวมไว้ที่มัสยิดบ้านท่าด่านเป็นการชั่วคราว โดยชาวบ้านในพื้นที่ และบริเวณรอบมัสยิดได้ช่วยกันทยอยนำข้าวของไว้ในบ้านของตัวเอง เพราะทุกคนเห็นใจ และรับสภาพเหล่านั้นไม่ได้ เพราะชาวบ้านที่นี้ส่วนใหญ่เป็นลูกศิษย์จากโรงเรียนแห่งนี้

ส่วนสาเหตุที่ตัดสินใจไม่อุทธรณ์สู่คดีต่อนั้น ทางญาติได้เผยต่อผู้สื่อข่าวว่า เนื่องจากครอบครัวรู้สึกล้าต่อการเดินทางขึ้นลงไปสู้คดีที่กรุงเทพฯ มีค่าใช้จ่ายที่สูง และท้อต่อความยุติธรรมที่เกิดขึ้นต่อครอบครัว เพราะสู้แล้วมันจะเป็นอย่างไรยังไม่รู้ จึงยอมปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลดังกว่าว
 

 
ส่วนสาเหตุที่ต้องย้ายข้าวของออกจากบริเวณโรงเรียนนั้น ทางญาติได้เผยว่า ก็เพื่อศักดิ์ศรีของครอบครัว เมื่อเขาว่าที่ตรงนั้นเป็นที่ก่อการร้าย ถ้ายังอยู่เขาก็หาว่าเราเป็นกลุ่มก่อการร้าย เพื่อคืนความเป็นธรรมให้แก่ครอบครัวจึงตัดสินใจออก ส่วนจะไปอยู่ที่ไหนนั้นยังไม่มีกำหนดแต่ขออาศัยบริเวณมัสยิดเป็นที่พักอาศัยชั่วคราวของครอบครัว

ส่วนบรรยากาศตลอดทั้งวันชาวบ้านในพื้นที่ต่างเดินทางมาสมทบเข้ามาช่วยเหลือ หุงข้าวปลาอาหารเลี้ยงครอบครัวที่ย้ายออกมาจากโรงเรียนดังกล่าว และชาวบ้านที่ได้เข้ามาช่วยย้ายข้าวของอย่างเป็นกันเองท่ามกลางความเสียใจต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น นับเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะถูกบันทึกในเล่มประวัติศาสตร์ปัตตานี ที่รัฐไม่ควรที่จะปล่อยให้กลายเป็นแผลลึกในจิตใจของคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น