xs
xsm
sm
md
lg

รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 แถลงประณามคนร้ายลอบยิงครู กศน.มายอ จ.ปัตตานี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ปัตตานี - รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงประณามคนร้ายลอบยิงครู กศน.ในพื้นที่ อ.มายอ จ.ปัตตานี พร้อมเผยเจ้าหน้าที่พบวัตถุประกอบระเบิด และอาวุธปืนที่ จ.ปัตตานี และ จ.นราธิวาส

วันนี้ (29 ต.ค.) พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุการณ์คนร้ายประกบยิงพนักงานราชการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อ.มายอ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย และบาดเจ็บอีก จำนวน 1 ราย บริเวณหน้าศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย อ.มายอ บนถนนสายมายอ-ทุ่งยางแดง บ้านมาหยอ หมู่ 2 ต.มายอ อ.มายอ จ.ปัตตานี ในขณะเดินทางไปร่วมโครงการย้อมผ้าฟรีให้แก่ประชาชนในพื้นที่บ้านตรัง หมู่ 2 ต.ตรัง อ.มายอ จ.ปัตตานี

จากเหตุการณ์ดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจ ดังนี้

1.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัว และญาติของผู้ที่เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บ จากการกระทำอันโหดร้ายป่าเถื่อน และไร้มนุษยธรรม เป็นพฤติกรรมที่สุดโต่ง ทำร้ายต่อผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งครู ซึ่งเป็นบุคลากรที่สำคัญทางการศึกษา พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งนำหลักฐานที่ได้จากที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะจากกล้องวงจรปิดที่ปรากฏภาพคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างอุกอาจ โดยมิหวั่นเกรงต่อกฎหมายของบ้านเมือง การก่อเหตุในครั้งนี้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง ซึ่งทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จะได้ติดตามจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้มาลงโทษตามกฎหมาย เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ ประกอบกับ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.รมน.ภาค 4 ได้มีนโยบายสำคัญในการในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้หลักคิดกฎหมายนำ การทหารตาม การเมืองขยาย ซึ่งจำเป็นที่จะต้องดำเนินการให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย อันจะนำมาซึ่งความยุติธรรมในพื้นที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนแสวงหาในพื้นที่ชายแดนใต้

2.การก่อเหตุในครั้งนี้ถือเป็นพฤติกรรรมอันโหดเหี้ยมที่ทุกฝ่ายรับไม่ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตลอดห้วงเวลาที่ผ่านมา กลุ่มคนร้ายยังคงสร้างสถานการณ์ความรุนแรง บิดเบือน กลับกลอก โดยใช้ชีวิตผู้บริสุทธิ์ให้ตกเป็นเหยื่อของสถานการณ์ เป็นการกระทำของพวกนอกศาสนา เพราะพฤติกรรมเช่นนี้ขัดต่อบทบัญญัติของศาสนาอย่างร้ายแรง นอกจากนี้ คณะครูอาจารย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้ออกมาแถลงการณ์ต่อต้านการใช้ความรุนแรง หลังจากนักเรียนโรงเรียนสาธิตอิสลามศึกษา ได้รับบาดเจ็บจากการถูกคนร้ายลอบยิง เมื่อวันที่ 23 ต.ค.59 ณ ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา และนักเรียนโรงเรียนสาธิต มหาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดบริเวณตลาดโต้รุ่ง ถนนพิพิธ เขตเทศบาลเมือง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 24 ต.ค.59 จึงขอเรียกร้องให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกลุ่มองค์กรภาคประชาสังคม กลุ่ม NGOs และเครือข่ายองค์กรที่มักเรียกร้องหาความเป็นธรรมในพื้นที่ ได้ร่วมกันประณามการกระทำดังกล่าว และร่วมกันปฏิเสธการใช้ความรุนแรงในทุกรูปแบบ

3.สำหรับการปฏิบัติที่ผ่านมาของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้สามารถทำลายความพยายามของผู้ก่อเหตุรุนแรง เช่น
- การตรวจพบแผงวงจรระเบิดแสวงเครื่อง 3 ชุด ในพื้นที่บ้านบางน้อย ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
- ตรวจพบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และถังแก๊สปิคนิคในพื้นที่ ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี
- การตรวจยึดอาวุธปืนเล็กยาว ชนิด M-16 จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองบรรจุ จำนวน 2 ซอง และกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ดาโต๊ะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

ผลการตรวจพิสูจน์อาวุธปืนที่ยึดได้พบว่า เคยใช้ก่อเหตุมาแล้ว 5 เหตุการณ์ ในพื้นที่ อ.ยะรัง จำนวน 4 เหตุการณ์ และ อ.หนองจิก จำนวน 1 เหตุการณ์ ครั้งล่าสุด เป็นเหตุการณ์กราดยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ และประชาชนขณะเล่นฟุตบอลภายในปั๊มน้ำมันร้าง ริมถนนสาย 43 ต.บางเขา อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 59 ทำให้มีผู้บาดเจ็บ จำนวน 5 ราย ซึ่งเป็นอาวุธปืนที่ถูกแย่งชิงจากเหตุยิงอาสาสมัครทหารพรานเสียชีวิต 3 นาย ขณะสร้างห้องน้ำมัสยิด ในพื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 56 ซึ่งผลจากการปฏิบัติดังกล่าวเป็นการปฏิบัติการเชิงรุกที่นำไปสู่การลดความสูญเสียในชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนได้

4.แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 สั่งการให้กำลัง 3 ฝ่าย รวมทั้งกำลังภาคประชาชนเพิ่มมาตรการเข้มในการดูแลพื้นที่ พร้อมทั้งได้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่จัดระเบียบพื้นที่ชุมชน เส้นทาง และบูรณาการกำลังทุกภาคส่วน รวมทั้งขอความร่วมมือไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำพื้นที่ ผู้นำท้องถิ่น ช่วยกันสอดส่องดูแลกลุ่มคนในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่ถูกออกหมายจับในคดีความมั่นคงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องต่อการก่อความไม่สงบในพื้นที่ ไม่ให้เคลื่อนไหวก่อเหตุความรุนแรงได้อีก

พร้อมทั้งเน้นย้ำในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว อีกทั้งได้เน้นย้ำในเรื่องการรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุมาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเร่งด่วนต่อไป หากพบเหตุพบบุคคลต้องสงสัย หรือสิ่งผิดปกติใดๆ สามารถแจ้งหน่วยงานด้านความมั่นคงใกล้บ้านท่าน หรือหมายเลขโทรศัพท์ 1341 ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า
 
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น