หมอถอดเครื่องช่วยหายใจ “น้องดีเจ” หลังอาการดีขึ้น

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผอ.รพ.วชิระ เผยแพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจน้องดีเจแล้ว หลังอาการดีขึ้นหายใจเองได้ปกติ แต่ยังให้พักรักษาตัวต่อในห้องไอซียูเด็ก ด้านยายน้องดีเจ เผยเจ้าสุนัขโจโจ้มีความผูกพันกับน้องดีเจ เป็นอย่างมาก

จากกรณี ด.ช.เจษฎากร ไชโย หรือน้องดีเจ อายุ 3 ขวบ 9 เดือน ซึ่งพลัดหลงออกจากบ้านพัก ในพื้นที่ ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2559 ที่ผ่านมา และปรากฏว่า พบน้องดีเจแล้วเมื่อวันที่ 9 ก.พ.2559 ที่บริเวณป่าบนภูเขา ใกล้กับถนนอนุสรณ์ 200 ปี ห่างจากบ้านพักประมาณ 3 กิโลเมตร และเจ้าหน้าที่ได้นำน้องดีเจ ส่งโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ตรวจรักษา จากการเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อน แพทย์ตรวจพบมีการติดเชื้อในกระแสเลือด เนื่องจากพบว่ามีบาดแผลตามร่างกายหลายจุด โดยเฉพาะขาทั้ง 2 ข้าง มีสภาพเน่าเปื่อยจากการแช่น้ำเป็นเวลานาน ตามผิวหนังตามร่างกายมีร่องรอยถูกยุง และแมลงกัดต่อยเป็นจำนวนมาก และเด็กมีอาการขาดน้ำและอาหาร ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือด

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (11 ก.พ.) นายแพทย์เจษฎา จงไพบูลย์พัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กล่าวว่า วันนี้เด็กอาการดีขึ้นตามลำดับ เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา แพทย์เจ้าของไข้ได้ถอดเครื่องช่วยหายใจออกแล้ว เนื่องจากพบว่าน้องดีเจ สามารถหายใจได้ด้วยตัวเองตามปกติ สัญญาณชีพเต้นดี หลังถอดเครื่องช่วยหายใจเด็กรู้สึกตัวโดยบอกแก่แพทย์ว่า อยากทานข้าวต้ม น้ำส้ม แต่ทางแพทย์ยังไม่อนุญาตให้ทานอาหารเนื่องจากต้องปรับสมดุลเกลือแร่ในร่างกายก่อน และยังคงให้พักรักษาตัวในห้องไอซียูเด็กอีก 2-3 วัน แพทย์ยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และงดการเข้าเยี่ยมในระยะนี้ โดยหลังจากนี้จะส่งจิตแพทย์เข้าฟื้นฟูจิตใจเข้าให้สู่ภาวะปกติ

พ.ต.อ.กิติพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สภ.วิชิต เปิดเผยว่า ยังคงแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ทีม ทีมแรกเป็นการสอบสวนปากคำพยานบุคคลต่างๆ เช่น แม่เด็ก ตา ยาย เจ้าของสวนผลไม้จุดที่พบตัว โดยมีการสอบปากคำพยานบุคคลไปแล้ว 4-5 ปาก เพื่อรวบรวมคำให้การสรุปเป็นแนวทางการทำงาน ส่วนทีมที่ 2 คือ ทีมสืบสวนหาข้อมูล และพยานหลักฐานต่างๆ

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ แพทย์หญิงธิดา ขวัญนา หัวหน้ากลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ได้ให้การต้อนรับ นางวาสนา ทิพญพงศ์ธาดา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดภูเก็ต ได้เข้าเยี่ยมดูอาการ ด.ช.เจษฎากร ไชโย หรือน้องดีเจ ที่หอผู้ป่วยวิกฤติกุมารเวชกรรม (PICU) พร้อมมอบตุ๊กตาหมาเจ้าโจ้เพื่อเป็นกำลังใจให้น้องดีเจ

นอกจากนี้ หลังการหายตัวออกจากบ้านของ น้องดีเจ หรือ ด.ช.เจษฎากร ไชโย อายุ 3 ขวบ 9 เดือน เมื่อวันที่ 3 ก.พ.59 ที่ผ่านมา ทำให้ แม่ ตา ยาย พ่อรวมถึงญาติของน้องมีความทุกใจเป็นอย่างมาก จนกระทั่งพยายามร่วมกับหลายหน่วยงาน ทั้งตำรวจ สภ.วิชิต มูลนิธิกระจกเงา มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ร่วมกันออกค้นหาตัวน้องดีเจ จนเจอตัวอยู่บนเนินเขาห่างจากบ้านประมาณ 3 กิโลเมตร ในสภาพอิดโรยมีบาดแผลตามแขนขาใบหน้านอนอยู่ในลำธารขนาดเล็กโดยตลอดเวลาที่เจ้าหน้าที่ทำการค้นหากว่า 3 ชั่วโมง มีเจ้าโจโจ้ สุนัขคู่กายน้องดีเจ ร่วมค้นหาด้วยตลอดเวลา และก่อนทำการค้นหาน้องบนเนินเขานั้นเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลจากยายน้องดีเจ ว่าช่วงที่น้องหายออกจากบ้านเกือบทุกวันเจ้าโจโจ้จะนั่งเหม่อหันหน้ามองไปทางป่าบนเนินเขาจนเป็นข้อสงสัยของหลายฝ่ายว่า น้องจะติดอยู่ภายในป่านั้นจึงได้ร่วมกันทำการค้นหาจนเจอในที่สุด

คุณยายนวลจันทร์ มีโรง อายุ 57 ปี ยายน้องดีเจ บอกว่า เจ้าโจโจ้เป็นสุนัขที่ตนนำมาเลี้ยงตั้งแต่น้องดีเจ ยังไม่เกิดตอนนี้อายุประมาณ 5-6 ปี หลังจากนั้น เมื่อน้องดีเจมาอยู่กับตนก็เริ่มสนิทกับเจ้าโจโจ้ และกลายเป็นเพื่อนเล่นกันมาตลอดเพราะที่บ้านไม่มีเด็กคนอื่น จึงผูกพันกับเจ้าสุนัขตัวนี้มาก น้องดีเจ เดินเล่นหรือวิ่งเล่นตรงจุดไหนจะมีเจ้าโจโจ้อยู่ด้วยตลอดเวลา ซึ่งในช่วงที่น้องดีเจหายตัวออกจากบ้านตนสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนไปของเจ้าโจโจ้ คือ เริ่มกินอาหารน้อยลง มีอาการเหม่อลอย ตอนเย็นๆ จะส่งเสียงครวญครางโหยหวน และหันหน้ามองไปยังป่าบนเนินเขาเหมือนจะบอกว่าน้องดีเจ พลัดหลงหรือถูกกักตัวอยู่บนนั้น ซึ่งคุณยายยังกล่าวย้ำหากโจโจ้พูดภาษาคนได้คงจะบอกแล้วว่าใครเป็นคนนำตัวน้องดีเจไป

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พบเจอตัวน้องดีเจแล้ว แต่น้องยังต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพบว่าเจ้าสุนัขโจโจ้ ยังคงมีอาการเหม่อลอย มักไม่วิ่งออกไปไหนไกลๆ จะนอนอยู่ในตัวบ้าน และเดินไปเดินมาแค่บริเวณใกล้ตัวบ้านเท่านั้น