xs
xsm
sm
md
lg

ตร.วิชิต-มูลนิธิกระจกเงาเข้าเก็บข้อมูลจุดพบ “น้องดีเจ” ตั้ง 2 ประเด็นเด็กหาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต พร้อมมูลนิธิกระจกเงา และกำลังกว่า 10 นาย ลงเก็บหลักฐานเพิ่มเติมจุดพบตัว “น้องดีเจ” เพื่อรวบรวมข้อมูลขยายผลว่าเด็กขึ้นมาบนเขาได้อย่างไร โดยเหลือเพียง 2 ประเด็นเท่านั้น ด้านเจ้าของบอกว่าได้เห็นน้องดีเจก่อนประมาณ 3 วัน โดยเดินผ่านมายังสวนของตัวเอง

เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ (10 ก.พ.) พ.ต.ต.ณรงค์ เมืองด้วง พนักงานสอบสวน สภ.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.ต.ประวัติ ตันติปุษปรรฆ์ สว.สส.สภ.วิชิต นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.วิชิต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต กว่า 10 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบลำธารจุดที่พบตัว ด.ช.เจษฎากร ไชโย หรือน้องดีเจ อายุ 3 ปี 9 เดือน และบริเวณโดยรอบเพื่อเก็บข้อมูลหลักฐานแวดล้อมเพิ่มเติมเพื่อนำไปประกอบสำนวนในการสรุปคดีว่า น้องดีเจ ไปอยู่จุดนั้นได้อย่างไร

ในเบื้องต้น ยังคงพบของกิน เช่น ไข่ต้ม กาต้มน้ำ กล้วย ซึ่งอยู่บริเวณกระท่อมห่างจากจุดที่เจอน้องดีเจประมาณ 20-30 เมตร แต่อย่างไรก็ตาม นายไพโรจน์ เทพบุตร เจ้าของสวนผลไม้ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดที่พบน้องดีเจ ยืนยันว่า ข้าวของทั้งหมดเป็นของตน และระบุว่า ก่อนเจ้าหน้าที่พบตัวน้องดีเจ 3 วัน ตนเห็นน้องดีเจ เดินเข้ามาบริเวณกระท่อมที่พักของตน แต่ตอนนั้นคิดว่า เป็นลูกแรงงานพม่า บวกกับตนได้เลี้ยงสุนัขไว้จึงกลัวเด็กโดนกัดจึงไล่ให้กลับไป และช่วงกลางคืนขณะที่ตนนอนพักอยู่นั้นได้ยินเสียงคล้ายเด็กร้องอยู่ในป่าบริเวณจุดพบเด็ก แต่คิดว่าเป็นเสียงแมว หรือสัตว์ป่าอื่นๆ จึงไม่ได้สนใจ กระทั่งเมื่อวานนี้ (9 ก.พ.) เห็นตาของน้องดีเจ มาตามหา และบอกว่า เด็กหาย ตนจึงบอกไปว่าได้ยินเสียงเด็กร้องในลำธารดังกล่าวจนนำไปสู่การพบตัวน้องดีเจในที่สุด

ด้าน พ.ต.อ.กิติพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สภ.วิชิต เปิดเผยถึงแนวทางการสอบสวนว่า ขณะนี้มีการตัดประเด็นเกิดอุบัติเหตุ และถูกแก๊งลักพาตัวไปออก คงเหลือประเด็นเด็กเดินพลัดหลงไปในป่าเอง และคนใกล้ชิดเป็นผู้นำพาตัวไป ซึ่งจะมีการขยายผลการสืบสวนสอบสวนปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องโดยสอบไปมากกว่า 5 ปากแล้ว ทั้งนี้ จากแนวทางสืบสวนสอบสวนในประเด็นคนใกล้ชิดนำพาตัวเด็กไป ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่า คนที่พาตัวเด็กไปนั้นพอเจอแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่ และมีการแชร์ข้อมูลเด็กหายอย่างหนาแน่นผ่านสังคมออนไลน์ เลยทิ้งเด็กไว้กลางป่า เพื่อหนีความผิด และกลัวถูกจับกุมได้ อย่างไรก็ตาม ในข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เด็กเดินไปเองหรือไม่ หรือว่ามีคนพาไปคงต้องรอฟังคำตอบจากปากของเด็ก ซึ่งขณะนี้เด็กยังไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆ


 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น