ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา เข้าพบแม่ของน้องดีเจ เด็กชายวัย 3 ขวบ ที่หายตัวจากบ้านในจังหวัดภูเก็ต เพื่อมารับฟังข้อมูลก่อนช่วยติดตามตัว
จากกรณีที่ น.ส.เสาวลักษณ์ ไชโย อายุ 23 ปี พนักงานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ร้องมายังสื่อมวลชนขอให้ช่วยตามหา ด.ช.เจษฎากร ไชโย หรือน้องดีเจ อายุ 3 ขวบ 10 เดือน บุตรชาย ซึ่งได้หายออกจากบ้าน เลขที่ 5/3 ม.3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.ของวันที่ 3 ก.พ.59 ที่ผ่านมา ซึ่งครอบครัว อดีตสามี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต ได้ช่วยกันค้นหาตัวน้องดีเจทั้งในพื้นที่ ต.วิชิต และนอกพื้นที่ ต.วิชิต ตลอดทั้ง 4 วัน นอกจากนี้ มีการพึ่งทางไสยศาสตร์ช่วยในการค้นหา แต่ยังไร้วี่แววไม่พบตัวแต่อย่างใด
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (7 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ (มูลนิธิกระจกเงา) นำโดย นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงาอีก 3 คน ได้เดินทางลงพื้นที่มาที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อพบกับ น.ส.เสาวลักษณ์ ในการรับทราบข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดที่เป็นประโยชน์ พร้อมทั้งนำโปสเตอร์ที่มีใบหน้า และข้อมูลรายละเอียดของน้องดีเจที่ทางศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ได้จัดทำขึ้นมอบให้แก่ น.ส.เสาวลักษณ์ ส่วนหนึ่ง เพื่อแจกจ่ายประชาสัมพันธ์ไปยังพื้นที่ต่างๆ ให้แก่ประชาชนได้รับทราบเกี่ยวกับคนหายเพื่อจะได้ช่วยในการติดตามตัวน้องดีเจต่อไป
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวยังได้ลงดูพื้นที่พบปะพูดคุยกับผู้ที่อาศัยในพื้นที่ใกล้เคียง อีกทั้งสำรวจโดยรอบบ้านที่น้องดีเจหายตัวไป เพื่อใช้เป็นข้อมูลวิเคราะห์ความน่าจะเป็นที่น้องดีเจหายตัวไป หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันได้เดินทางไปยัง อ.กะทู้ เพื่อพูดคุยกับพ่อของน้องดีเจอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันพรุ่งนี้ (8 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ศูนย์ข้อมูลคนหายมูลนิธิกระจกเงา จะเข้าพบ พ.ต.อ.กิติพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สภ.วิชิต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วิชิต เพื่อขอทราบข้อมูลความคืบหน้าในการดำเนินการสืบสวนเพื่อจะได้ร่วมกันติดตามตัวน้องดีเจต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.กิติพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สภ.วิชิต กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ยังคงลงพื้นที่หาเบาะแสเพิ่มเติม เพราะพยานหลักฐานที่ได้ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุเป็นที่ส่วนบุคคล และค่อนข้างเปลี่ยว ไม่มีกล้องวงจรปิด อีกทั้งขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีใครอยู่ในบริเวณใกล้เคียง โดยหลังได้รับแจ้งได้ระดมกำลังลงพื้นที่ค้นหาโดยรอบพื้นที่ทั้งในป่า ขุมน้ำ แต่ก็ไม่พบตัวน้องดีเจ ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องหาเบาะแสจากพื้นที่อื่นๆ เช่น กล้องวงจรปิดด้านนอกริมถนน แต่ก็ยังได้ข้อมูลไม่มากเท่าที่ควร ซึ่งยังเชื่อว่าเด็กยังมีชีวิตอยู่
จากกรณีที่ น.ส.เสาวลักษณ์ ไชโย อายุ 23 ปี พนักงานห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ร้องมายังสื่อมวลชนขอให้ช่วยตามหา ด.ช.เจษฎากร ไชโย หรือน้องดีเจ อายุ 3 ขวบ 10 เดือน บุตรชาย ซึ่งได้หายออกจากบ้าน เลขที่ 5/3 ม.3 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.ของวันที่ 3 ก.พ.59 ที่ผ่านมา ซึ่งครอบครัว อดีตสามี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิชิต ได้ช่วยกันค้นหาตัวน้องดีเจทั้งในพื้นที่ ต.วิชิต และนอกพื้นที่ ต.วิชิต ตลอดทั้ง 4 วัน นอกจากนี้ มีการพึ่งทางไสยศาสตร์ช่วยในการค้นหา แต่ยังไร้วี่แววไม่พบตัวแต่อย่างใด
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. วันนี้ (7 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ (มูลนิธิกระจกเงา) นำโดย นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงาอีก 3 คน ได้เดินทางลงพื้นที่มาที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อพบกับ น.ส.เสาวลักษณ์ ในการรับทราบข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดที่เป็นประโยชน์ พร้อมทั้งนำโปสเตอร์ที่มีใบหน้า และข้อมูลรายละเอียดของน้องดีเจที่ทางศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา ได้จัดทำขึ้นมอบให้แก่ น.ส.เสาวลักษณ์ ส่วนหนึ่ง เพื่อแจกจ่ายประชาสัมพันธ์ไปยังพื้นที่ต่างๆ ให้แก่ประชาชนได้รับทราบเกี่ยวกับคนหายเพื่อจะได้ช่วยในการติดตามตัวน้องดีเจต่อไป
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวยังได้ลงดูพื้นที่พบปะพูดคุยกับผู้ที่อาศัยในพื้นที่ใกล้เคียง อีกทั้งสำรวจโดยรอบบ้านที่น้องดีเจหายตัวไป เพื่อใช้เป็นข้อมูลวิเคราะห์ความน่าจะเป็นที่น้องดีเจหายตัวไป หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดเดียวกันได้เดินทางไปยัง อ.กะทู้ เพื่อพูดคุยกับพ่อของน้องดีเจอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันพรุ่งนี้ (8 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ศูนย์ข้อมูลคนหายมูลนิธิกระจกเงา จะเข้าพบ พ.ต.อ.กิติพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สภ.วิชิต และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วิชิต เพื่อขอทราบข้อมูลความคืบหน้าในการดำเนินการสืบสวนเพื่อจะได้ร่วมกันติดตามตัวน้องดีเจต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.กิติพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สภ.วิชิต กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ยังคงลงพื้นที่หาเบาะแสเพิ่มเติม เพราะพยานหลักฐานที่ได้ยังไม่เพียงพอ เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุเป็นที่ส่วนบุคคล และค่อนข้างเปลี่ยว ไม่มีกล้องวงจรปิด อีกทั้งขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาที่ไม่มีใครอยู่ในบริเวณใกล้เคียง โดยหลังได้รับแจ้งได้ระดมกำลังลงพื้นที่ค้นหาโดยรอบพื้นที่ทั้งในป่า ขุมน้ำ แต่ก็ไม่พบตัวน้องดีเจ ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องหาเบาะแสจากพื้นที่อื่นๆ เช่น กล้องวงจรปิดด้านนอกริมถนน แต่ก็ยังได้ข้อมูลไม่มากเท่าที่ควร ซึ่งยังเชื่อว่าเด็กยังมีชีวิตอยู่