ศูนย์ข่าวขอนแก่น - วอนแจ้งเบาะแส “น้องอั้ม” เด็กชายวัย 5 ขวบ บ้านหัวขัว อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น หายออกจากบ้านตั้งแต่หัวค่ำวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะวิ่งเล่นกับเพื่อนแถวหนองน้ำสาธารณะ คาดอาจถูกลักพาตัวเพราะวันเกิดเหตุมีงานตลาดนัดคนพลุกพล่าน ยายเผยกินไม่ได้นอนไม่หลับห่วงหลาน ขอเจอไม่ว่าจะอยู่ในสภาพใด
จากกรณีมูลนิธิกระจกเงาได้ส่งข้อความและภาพ ด.ช.ธนวรรชน์ แก้วตา หรือ น้องอั้ม อายุ 5 ขวบ หายไปจากบ้านหัวขัว หมู่ 7 ต.เปือยน้อย อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 59 เพื่อขอความร่วมมือให้ผู้ใดที่พบเห็นช่วยแจ้งเบาะแสเพื่อติดตามช่วยเหลือน้องกลับคืนสู่อ้อมอกผู้ปกครอง โดยน้องอั้มสูง 110 ซม. น้ำหนักประมาณ 24 กก. ผมสั้นทรงนักเรียน วันที่หายใส่เสื้อคอกลมสีเขียวเหลืองเบนเทน ใส่กางเกงไม่ทราบสี ไม่สวมรองเท้า
ล่าสุดนางสมหวัง ปะระกัง ชาวบ้านหัวขัว หมู่ 7 ต.เปือยน้อย อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นยายของน้องอั้มได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา ซึ่งนางสมหวังเล่าว่า ตนเองและสามีเป็นคนเลี้ยงดูน้องอั้ม เพราะลูกสาวของตนหรือแม่ของน้องอั้มนั้นได้แยกทางกับสามี จากนั้นได้เข้าไปทำงานที่กรุงเทพฯ จึงฝากให้ตนและสามีดูแลเลี้ยงดูหลานชายแทน
โดยเหตุร้ายดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 25 ก.พ. 59 ที่ผ่านมา หลังจากที่ไปรับน้องอั้มกลับจากโรงเรียนแล้ว น้องอั้มก็ได้ขอเงินจากตนไปซื้อขนม และออกไปเล่นกับเพื่อนๆ ในหมู่บ้านเหมือนทุกวัน และในวันดังกล่าวนั้นน้องอั้มได้บอกตนเองว่าจะไปเล่นกับเพื่อนที่บริเวณสระวงษ์ หนองน้ำสาธารณะใกล้กับจุดให้บริการประชาชนของ สภ.เปือยน้อย ที่มีรถแบ็กโฮทำการขุดลอก
“ฉันก็ได้กำชับเหมือนทุกครั้งว่าอย่ากลับเข้าบ้านค่ำ แต่หลังจากนั้นน้องอั้มก็ไม่ได้กลับมาตามเวลาเหมือนทุกวัน ฉันจึงได้ออกติดตามหาตัวตามจุดที่น้องอั้มบอกว่าจะไปเล่น และจุดที่น้องชอบไปเล่น แต่ก็ไม่พบตัวหลานชาย จึงได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ” ยายสมหวังเล่า และเล่าบอกว่า
ตอนนี้อยากพบหลานชายเป็นอย่างมากไม่ว่าจะด้วยสภาพไหนก็อยากจะเจอ และขอร้องคนที่ลักพาตัวหลานชายไปให้เอามาคืนเถอะ เพราะตอนนี้กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะเป็นห่วงและคิดถึงหลานชายเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามนายสัญญา สีพุวงษ์ พนักงานขับรถแบ็กโฮ และทีมงานที่กำลังทำการขุดลอกหนองน้ำที่น้องอั้มบอกว่าจะไปเล่นแถวนั้น ทราบว่า วันเกิดเหตุได้พบเห็นกลุ่มเด็กที่คาดว่าหนึ่งในนั้นเป็นน้องอั้มเข้ามานั่งเล่นดินทรายที่บริเวณนั้นจริง และได้เห็นคนงานเดินไปบอกกล่าวให้น้องอั้มและเพื่อนๆ อย่าเข้ามาใกล้บริเวณที่รถแบ็กโฮทำงาน หลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่าน้องอั้มและกลุ่มเพื่อนๆ ไปกันที่ไหนต่อ
ด้าน พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ พูลเจริญ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเปลือยน้อย เปิดเผยว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวนรับแจ้งความแล้วก็ได้ให้ชุดสืบสวนออกติดตามหาข้อมูล และทราบว่าที่บริเวณขอบสระวงษ์ หนองน้ำสาธารณะใกล้กับจุดให้บริการประชาชน ที่กำลังมีการขุดลอก เป็นจุดสุดท้ายที่มีผู้พบเห็นน้องอั้มเล่นอยู่ใกล้รถแบ็กโฮที่กำลังขุดดินอยู่ ซึ่งแม้ว่าบริเวณที่น้องอั้มหายไปใกล้กับจุดบริการประชาชนของ สภ.เปลือยน้อย
แต่เนื่องจากวันเกิดเหตุมีการจัดตลาดนัดประจำสัปดาห์ ทำให้คนพลุกพล่าน และจากการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกจัดระเบียบจราจรตรงจุดนี้ ระบุว่าได้บอกให้เด็กน้อยกลับบ้าน เพราะคุ้นเคยกับเด็กที่เที่ยวเล่นบริเวณนี้เป็นประจำ
พ.ต.อ.ณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า จากการสืบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ 3 ประเด็น ประเด็นแรก ในวันดังกล่าวมีการจัดตลาดใกล้กับจุดเกิดเหตุ คาดว่าน้องอั้ม อาจถูกผู้ไม่หวังดีหรือขอทานล่อลวงไป เพราะทุกครั้งที่มีการจัดตลาดนัดจะมีทั้งคนในและนอกพื้นที่เข้ามาค้าขาย จับจ่ายซื้อของกันเป็นจำนวนมาก ประเด็นที่สอง เป็น เรื่องในครอบครัวเนื่องจากทราบว่าพ่อแม่เด็กแยกทางกัน ส่วนในประเด็นที่สามนั้นเป็นเรื่องอุบัติเหตุจมน้ำหรือไม่ แต่เบื้องต้นก็ให้น้ำหนักไปทางประเด็นแรกมากกว่า
รายงานข่าวเพิ่มเติมแจ้งอีกว่า บริเวณจุดที่น้องอั้มหายตัวไปนั้นมีกล้องวงจรปิด คาดว่าเป็นของทางเทศบาลฯ ที่มีเครือไม้เลื้อยปกคลุมอยู่ 2 ตัว แต่ถูกตัดสัญญาณไฟฟ้า ใช้งานไม่ได้ ส่วนกล้องวงจรปิดอีกตัวหนึ่งที่ติดตั้งบริเวณจัดตลาดนัดอยู่ห่างออกไปไม่ไกล หน้าเลนส์อยู่ในสภาพหันขึ้นฟ้า ทำให้ตำรวจไม่สามารถดูภาพบันทึกเชื่อมต่อเหตุการณ์ได้
