สตูล - เปิดปฏิบัติการเฝ้าผืนป่าชายเลนด้านชายแดนสตูล จนท.เพิ่มความเข้มข้น หลังพบขบวนการลอบตัดไม้ขายมาเลย์กลับมาระบาดหนัก หลังมีออเดอร์สั่งเพิ่มสร้างแรงจูงใจ
วันนี้ (12 ธ.ค.) ผู้สื่อข่ายรายงานว่า กำลังเจ้าหน้าที่ 4 หน่วยงานหลัก จากสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 34 ตำมะลัง จ.สตูล พร้อมกำลังทหารกองกำลังเทพสตรี หมวดปืนเล็กที่ 3 ร้อย ร.5021 ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 436 และกำลังจากสถานีตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 9 กองบังคับการตำรวจน้ำสตูล ร่วมกันวางแผนจัดหาพิกัดในการกระจายกำลังพลในการติดตามไล่ล่าขบวนการลักลอบตัดไม้ป่าชายเลน หรือที่ชาวบ้านเรียก ไม้ 11 ศอก ตามแนวตะเข็บชายแดนด้าน จ.สตูล หลังพบว่า ขบวนการลักลอบตัดไม้ส่งขายประเทศมาเลเซีย ได้กลับมาระบาดในน่านน้ำชายแดนฝั่ง จ.สตูล อีกครั้ง
เรือปฏิบัติการในการติดตามไล่ล่า หลังการข่าวพบว่า จะมีการลักลอบตัด และขนไม้ป่าชายเลน จัดส่งให้นายทุนฝั่งประเทศมาเลเซีย ด้านรัฐเปอร์ลิส ซึ่งอยู่ห่างจากพื้นที่ชายแดน ต.ปูยู อ.เมืองสตูล 14 กิโลเมตรเท่านั้น โดยปรับเปลี่ยนวิธีการลักลอบโดยขนผ่านจากเรือหางยาวจากอดีตจะเข้าไปส่งถึงชายฝั่งรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย แต่หลังมีความร่วมมือด้วยกันระหว่าง 2 ประเทศ มีการนัดส่งสินค้ากันบริเวณแนวกำแพงจุดชายแดน เพียงนำเรือขนไม้มาส่งจะมีรถยนต์มารอรับจากจุดชายแดนซึ่งเป็นแผ่นดินใหญ่ถึงที่
แม้ปฏิบัติการในครั้งนี้จะมีการวางแผนอย่างรัดกุม แต่กลับไม่พบเป้าหมายตามสายข่าวแจ้ง พบเพียงรถยนต์จากทางการตำรวจรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย ที่เข้ามาตรวจตราเช่นกัน เชื่อว่าอาจจะมีการไหวตัวได้ ซึ่งกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจตราเฝ้าระวังยังคงมีการทำงานด้านการข่าวอย่างต่อเนื่อง และตรวจตราในพื้นที่จุดเสี่ยง และออกปราบปรามการกระผิดตาม พ.ร.บ.ป่าชายเลน และการกระทำผิดสิ่งผิดกฎหมายชนิดอื่นไปพร้อมกันด้วย
นายเอกชัย เถรว่อง หัวหน้าสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 34 ต.ตำมะลัง จ.สตูล เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่พบว่า ขบวนการตัดไม้ 11 ศอก หรือไม้ป่าชายเลนนั้นจะเป็นกลุ่มชาวบ้านในท้องที่ และชาวประมงที่ต้องการหารายได้เพิ่ม ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของกลุ่มค้าไม้ของชาวมาเลเซีย พบว่ามีใบสั่งต้องการรับซื้อไม้ท่อนละ 200 บาท โดยที่ผ่านมา ทางหน่วยงานได้ไปเยือนทางฝั่งมาเลเซียขอความร่วมมือในการสกัดจับกลุ่มขบวนการขนไม้ทางทะเลเหล่านี้ และช่วงนี้ทางการมาเลเซียมีการปรับแต่งโยกย้ายข้าราชการ จึงไม่มีใครสานต่อในการช่วยเหลือดูแลปราบปราม จึงทำให้มีการกลับมาขนตัดไม้ป่าโกงกางกันมากขึ้น
นายเอกชัย ยังกล่าวอีกว่า ยิ่งใกล้ช่วงปีใหม่ ฝั่งชายแดนสตูลยิ่งมีการลักลอบตัดมากขึ้น โดยจะแอบตัดกลางคืนซึ่งกลุ่มตัดจะมีพฤติกรรมแบ่งพวก 3 กลุ่ม คือ คนตัด คนดูต้นทาง และคนขน โดยจะตัดกลางคืน และเลือกคุณภาพไม้ต้องมีขนาดที่ทางนายหน้าต้องการ ไม้ตามขนาดมาให้คือ ยาว 4 เมตร และกว้างรอบวง 25.3 เซนติเมตร โดยไม้ 11 ศอกที่ต้องการชนิดไม้คือ โปรงแดง ทางกลุ่มขบวนการลักลอบเอาไม้ชอบที่สุด หากไม่มีรองลงมาคือ ไม้โกงกางชนิดถั่วขาว และชนิดไม้ป่าโกงกางถั่วดำ เมื่อตัดเสร็จจะโยนลงในน้ำลึกเพราะไม้เหล่านี้ไม่ลอยน้ำจะจมเมื่อมีโอกาสจะดำลงไปนำขึ้นมา และการตัดคืนเดียวสามารถตัดได้ 400-1,000 ต้น โดยไม้ที่มีการลักลอบตัดนั้นจะนำไปเป็นไม้แบบในการก่อสร้างบ้านเสียส่วนมาก
สำหรับพื้นที่ป่าชายเลนแห่งนี้อยู่ในความดูแลของสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 34 ต.ตำมะลัง จ.สตูล ถือว่าเป็นบริเวณป่าชายเลนที่คุ้มครองด้วยกฎหมายซึ่งเป็นเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเลนตอนที่ 5 ครอบคลุมทั้งหมด 7 หมื่น 2 พันไร่
ด้าน จ.ส.อ.ทรงธรรม ศรีชะฎา ทหารจากชุดกองกำลังเทพสตรี กล่าวว่า การทำงานที่ผ่านมาต้องออกลาดตระเวนทางทะเลมักมีอุปสรรค เพราะการเดินทางเข้าจับกุมสายตา ฝั่งกลุ่มขบวนการจะมาจากชาวบ้านที่แจ้งข่าว ส่วนใหญ่จะจับได้แต่ของกลาง บุคคลจะจับตัวได้ยาก
สำหรับสถิติการจับกุมตรวจยึดที่ผ่านมาในห้วงเดือนธันวาคม จับได้ของกลางไม้ 11 ศอก จำนวน 400 ท่อน ที่พบซุกตั้งกองไว้เพื่อเตรียมขนข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน และในปีที่ผ่านมา ปี 2557 ตรวจจับได้ จำนวน 1,200 ท่อน และในปี 2558 จำนวน 29,263 ท่อน และยิ่งใกล้ช่วงส่งท้ายปีเก่าตอนรับปีใหม่นี้ กลุ่มขบวนการค้าไม้ 11 ศอก ก็จะทำการตัด และส่งขนไปยังประเทศเพื่อนบ้านเพื่อหารายได้เสริม จึงทำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ทำงานดูแลแนวเขตชายแดนต้องทำหน้าที่ปกป้องป่าชายเลนในคงสมบูรณ์ไว้ตลอดกาล
สำหรับพื้นที่ป่าชายเลนใน จ.สตูล อยู่ในอันดับที่ 2 ในเรื่องด้านความสมบูรณ์ อันดับที่ 1 อยู่ที่ จ.พังงา ที่อยู่ในระดับภาคใต้
