กระบี่ - รมว.การท่องเที่ยว ฝากนักลงทุน ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวน้อมนำพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาใช้ในการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ในงานเปิดงานสัมมนาหัวข้อ “กระบี่ มิติแห่งการท่องเที่ยวลงทุนกับการก้าวสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้” โปรยยาหอม จ.กระบี่ ได้ท่าเรือครุยระดับไฮเอนด์ ขยายสนามบินเพิ่ม รองรับศูนย์กลางท่องเที่ยวภาคใต้
วันนี้ (20 พ.ย.) นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดสัมมนาหัวข้อ “กระบี่ มิติแห่งการท่องเที่ยวลงทุนกับการก้าวสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้” จัดโดยบริษัท ไทยแอร์เอชีย จำกัด ร่วมกับธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ณ โรงแรมโซฟิเทล โภคีธารา กอล์ฟ แอนด์สปา รีสอร์ท ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ มีนายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว นักธุรกิจ นักลงทุน ในจังหวัดกระบี่ และใกล้เคียงเข้าร่วมสัมมนาจำนวนมาก
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวในภาพรวมของปีนี้ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ โดยคาดว่าจะมีมูลค่าการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 2.2 ล้านล้านบาท เติบโตจากปี 2557 ที่มีมูลค่า 2 ล้านล้านบาท ซึ่งในช่วงเดือนมกราคม-กันยายน 2558 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาแล้วประมาณ 21 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน 27 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเมืองไทยยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งในเวลานี้เริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซันแล้ว
นายกอบกาญจน์ กล่าวอีกว่า การท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ยังคงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งไทย และชาวต่างชาติ จุดเด่นอยู่ที่ธรรมชาติทางทะเล และวัฒนธรรมที่หลากหลาย แตกต่างกับภูมิภาคอื่นๆ โดยจังหวัดกระบี่ เป็น 1 ใน 8 คลัสเตอร์ท่องเที่ยว อยู่ในส่วนของเขตการพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามัน ที่จะมุ่งเน้นการท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลก บนฐานวัฒนธรรมอันดามัน มีเป้าหมายให้จังหวัดกระบี่เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยง และกระจายนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง เช่น พังงา ตรัง และสตูล เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพทางการแข่งขันได้เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม นโยบายรัฐที่กำลังเร่งสร้างตัวตนให้กระบี่ ให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติของภาคใต้นั้น ก็ต้องขอฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการ รวมทั้งประชาชนชาวกระบี่ ให้ช่วยกันดูแลทรัพยากรธรรมชาติไม่ให้ถูกทำลาย และในการประกอบกิจการท่องเที่ยวให้คำนึงถึงความเหมาะสม และต้องได้มาตรฐานทั้งด้านบริการ และราคา ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้การท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ มีการเติบโตอย่างยั่งยืน
รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวด้วยว่า สำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่จังหวัดกระบี่ จะได้ในตอนนี้ ก็คือ ท่าเรือครุยแบบไฮเอนด์ สนามบินที่สามารถรองรับปริมาณจำนวนผู้โดยสาร และเที่ยวบินได้เพิ่มมากขึ้น แต่สิ่งที่อยากจะฝากชาวกระบี่ ก็คือ เรื่องสิ่งแวดล้อม เรามีแต่ต้องการให้นักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก แต่ขณะเดียวกัน ดูแลเมืองไม่ทัน ที่จะตามมาก็คือ ความไม่ยั่งยืน การท่องเที่ยวที่เราจะทำเป้าหมายสูงสุดคือ การท่องเที่ยวยั่งยืน เราสามารถส่งต่อให้ลูกหลานเราได้อย่างมีคุณภาพ
ผู้ประกอบการ หรือใครก็ตามที่มีผลประโยชน์จากภาคการท่องเที่ยวอย่าคิดถึงแต่รายได้เพียงอย่างเดียว เพราะไม่อย่างนั้นแล้วความร่ำรวยจะมาในระยะเวลาอันสั้น หากเราคิดว่าจะเก็บผลประโยชน์จากภาคการท่องเที่ยวไปรุ่นสู่รุ่นอย่างไม่จบสิ้น อย่าคิดเฉพาะแต่เพียงการลงทุนเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ ต้องคิดถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม หรือในแง่มุมอื่นๆ ด้วย เหมือนอย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้สอนพวกเราว่า “การที่จะนำมาถึงซึ่งความยั่งยืน เศรษฐกิจพอเพียง เติบโตอย่างยั่งยืน ต้องอยู่บนความสมดุล”
วันนี้ (20 พ.ย.) นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานเปิดสัมมนาหัวข้อ “กระบี่ มิติแห่งการท่องเที่ยวลงทุนกับการก้าวสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้” จัดโดยบริษัท ไทยแอร์เอชีย จำกัด ร่วมกับธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ณ โรงแรมโซฟิเทล โภคีธารา กอล์ฟ แอนด์สปา รีสอร์ท ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ มีนายพินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว นักธุรกิจ นักลงทุน ในจังหวัดกระบี่ และใกล้เคียงเข้าร่วมสัมมนาจำนวนมาก
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวในภาพรวมของปีนี้ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ โดยคาดว่าจะมีมูลค่าการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 2.2 ล้านล้านบาท เติบโตจากปี 2557 ที่มีมูลค่า 2 ล้านล้านบาท ซึ่งในช่วงเดือนมกราคม-กันยายน 2558 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาแล้วประมาณ 21 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน 27 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเมืองไทยยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งในเวลานี้เริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซันแล้ว
นายกอบกาญจน์ กล่าวอีกว่า การท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ยังคงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งไทย และชาวต่างชาติ จุดเด่นอยู่ที่ธรรมชาติทางทะเล และวัฒนธรรมที่หลากหลาย แตกต่างกับภูมิภาคอื่นๆ โดยจังหวัดกระบี่ เป็น 1 ใน 8 คลัสเตอร์ท่องเที่ยว อยู่ในส่วนของเขตการพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามัน ที่จะมุ่งเน้นการท่องเที่ยวทางทะเลระดับโลก บนฐานวัฒนธรรมอันดามัน มีเป้าหมายให้จังหวัดกระบี่เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยง และกระจายนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง เช่น พังงา ตรัง และสตูล เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพทางการแข่งขันได้เช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม นโยบายรัฐที่กำลังเร่งสร้างตัวตนให้กระบี่ ให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติของภาคใต้นั้น ก็ต้องขอฝากไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการ รวมทั้งประชาชนชาวกระบี่ ให้ช่วยกันดูแลทรัพยากรธรรมชาติไม่ให้ถูกทำลาย และในการประกอบกิจการท่องเที่ยวให้คำนึงถึงความเหมาะสม และต้องได้มาตรฐานทั้งด้านบริการ และราคา ไม่เอาเปรียบนักท่องเที่ยว ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้การท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ มีการเติบโตอย่างยั่งยืน
รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวด้วยว่า สำหรับโครงสร้างพื้นฐานที่จังหวัดกระบี่ จะได้ในตอนนี้ ก็คือ ท่าเรือครุยแบบไฮเอนด์ สนามบินที่สามารถรองรับปริมาณจำนวนผู้โดยสาร และเที่ยวบินได้เพิ่มมากขึ้น แต่สิ่งที่อยากจะฝากชาวกระบี่ ก็คือ เรื่องสิ่งแวดล้อม เรามีแต่ต้องการให้นักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก แต่ขณะเดียวกัน ดูแลเมืองไม่ทัน ที่จะตามมาก็คือ ความไม่ยั่งยืน การท่องเที่ยวที่เราจะทำเป้าหมายสูงสุดคือ การท่องเที่ยวยั่งยืน เราสามารถส่งต่อให้ลูกหลานเราได้อย่างมีคุณภาพ
ผู้ประกอบการ หรือใครก็ตามที่มีผลประโยชน์จากภาคการท่องเที่ยวอย่าคิดถึงแต่รายได้เพียงอย่างเดียว เพราะไม่อย่างนั้นแล้วความร่ำรวยจะมาในระยะเวลาอันสั้น หากเราคิดว่าจะเก็บผลประโยชน์จากภาคการท่องเที่ยวไปรุ่นสู่รุ่นอย่างไม่จบสิ้น อย่าคิดเฉพาะแต่เพียงการลงทุนเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ ต้องคิดถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม หรือในแง่มุมอื่นๆ ด้วย เหมือนอย่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้สอนพวกเราว่า “การที่จะนำมาถึงซึ่งความยั่งยืน เศรษฐกิจพอเพียง เติบโตอย่างยั่งยืน ต้องอยู่บนความสมดุล”