สภาธุรกิจตลาดทุนฯ เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนต่ำสุดในรอบ 14 เดือน นักวิเคราะห์ฯ มองหุ้นเดือน ต.ค.ซบเซา แนะจับตา สศช. ประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/58 หากติดลบ ถือว่า ศก.ไทย เข้าข่ายถดถอยทางเทคนิค ชี้นโยบายรัฐเน้นกระตุ้นระยะยาวเป็นเรื่องดี แต่ควรมีมาตรการในระยะสั้นเพื่อหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ทาง ศก. นายแบงก์ชี้หากเฟดขึ้น ดบ. เดือน ธ.ค. และแบงก์ชาติหั่น ดบ. ลงอีก ค่าบาทจะอ่อนมากกว่า 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า จากการสำรวจความคิดเห็นกลุ่มผู้ลงทุน 4 กลุ่ม ได้แก่ นักลงทุนรายย่อย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) สถาบันในประเทศ และสถาบันต่างประเทศ เพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน พบว่า ทุกกลุ่มนักลงทุนคาดว่าในเดือน ต.ค.ดัชนีหุ้นไทยจะอยู่ในกรอบซบเซา (Bearish) โดยกลุ่ม บล.มองว่าจะซบเซามากที่สุด และเป็นครั้งแรกตั้งแต่การสำรวจที่รายย่อยมองว่าหุ้นไทยจะซบเซา ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมในเดือน ต.ค.ลงมาอยู่ที่ 57.27 จุด ต่ำที่สุดในรอบ 14 เดือน
ทั้งนี้ มองว่าดัชนีความเชื่อมั่นที่ลดลงมาจากปัจจัยเชิงลบหลักจากเศรษฐกิจในประเทศ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเหลือ 3% ในไตรมาส 2/2558 การส่งออกหดตัว 4.9% การลงทุนเอกชนอยู่ในระดับต่ำ การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐต่ำกว่าเป้า หนี้ครัวเรือน และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของปีนี้เชื่อว่า ดัชนีหุ้นไทยจะแกว่งตัวในกรอบแคบเพราะไม่มีปัจจัยบวกใหม่ ยกเว้นภาครัฐจะออกมาตรการที่คาดไม่ถึงมากระตุ้นเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน ก็มองว่าการที่รัฐบาลออกนโยบายกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะกลาง และยาวเป็นเรื่องที่ดี แต่ควรออกนโยบายช่วยเหลือเศรษฐกิจในระยะสั้นเพื่อหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจ เช่น การบริโภคครัวเรือน และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้วย
นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย สายบริหารความเสี่ยง ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย กล่าวว่า หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.นี้ คาดว่าเงินบาทจะอยู่ที่ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่หาก ธปท. ปรับลดดอกเบี้ยลงอีกมีโอกาสที่บาทจะอ่อนค่ามากกว่า 36 บาท
ทั้งนี้ ต้องติดตามว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2/2558 ที่ประกาศโดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2558 จะติดลบหรือไม่ หากติดลบจะทำให้ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิค ส่วนธนาคารประเมินว่าจีดีพีปีนี้จะอยู่ระหว่าง 2.3-3.3%
