ซีไอเอ็มบีไทยแจ้งผลประกอบการ 6 เดือนกำไร 348 ล้านบาท ลดลง 44% เหตุยังต้องกันสำรองหนี้เพิ่มอีก 138.5% ขณะที่รายได้จากการดำเนินงานยังเพิ่ม หนี้เอ็นพีแอลเป็น 3.9% จาก 3.5% “แอลเอชแบงก์” งวด 6 เดือน มีกำไรสุทธิจำนวน 748.3 ล้านบาท เพิ่ม 40.5% จากขยายตัวของสินเชื่อรายใหญ่-รายได้ค่าฟี
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMBT)แจ้งผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 มีกำไรสุทธิ 348.16 ล้านบาท ลดลงจำนวน 277.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 44.3% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกัน โดยสาเหตุหลักเกิดจากสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 138.5% เป็นผลจากการชะลอตัวลงของสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ในงวด 6 เดือน ธนาคารมีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 6,078.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 945.1 ล้านบาท หรือคิดเป็น 18.4% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 5.0% รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ 28.2% และรายได้อื่น 76.9% ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 53.2% เป็นจำนวน 2,595.3 ล้านบาท โดยอัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (NIM) อยู่ที่ 3.05% หรือลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปี 2557 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนต่ำ เนื่องจากสินเชื่อของธนาคารชะลอตัวลงตามสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 8 พันล้านบาท หรือเท่ากับ 3.9% ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสิ้นปี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 อยู่ที่ 3.3% เป็นผลจากความสามารถในการชำระหนี้ลดลงซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากลูกค้าภาคธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมขึ้น ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหนี้ การดำเนินการดูแล และการแก้ไขลูกหนี้ที่ถูกผลกระทบดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
LHBANK กำไรโต 40%
บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (LHBANK) แจ้งกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2558 จำนวน 420.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 113.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 37.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2557 ส่วนงวด 6 เดือนของปี 2558 มีกำไรสุทธิจำนวน 748.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 215.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 40.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ เป็นการเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของสินเชื่อโดยเฉพาะสินเชื่อรายใหญ่ และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการที่เพิ่มขึ้น
และ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 มี NPL จำนวน 2,795.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 346.4 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2557 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.1 อัตราสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม คิดเป็น 2% ของเงินให้สินเชื่อรวม และมีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นตามกฎหมายต่อสินทรัพย์เสี่ยงเท่ากับร้อยละ 14.04 สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งกำหนดไว้ที่ร้อยละ 8.50 และเพิ่มขึ้นจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 ที่มีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ร้อยละ 12.41
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMBT)แจ้งผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 มีกำไรสุทธิ 348.16 ล้านบาท ลดลงจำนวน 277.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 44.3% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกัน โดยสาเหตุหลักเกิดจากสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 138.5% เป็นผลจากการชะลอตัวลงของสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ในงวด 6 เดือน ธนาคารมีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 6,078.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 945.1 ล้านบาท หรือคิดเป็น 18.4% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 5.0% รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ 28.2% และรายได้อื่น 76.9% ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 53.2% เป็นจำนวน 2,595.3 ล้านบาท โดยอัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (NIM) อยู่ที่ 3.05% หรือลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปี 2557 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนต่ำ เนื่องจากสินเชื่อของธนาคารชะลอตัวลงตามสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 8 พันล้านบาท หรือเท่ากับ 3.9% ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสิ้นปี ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 อยู่ที่ 3.3% เป็นผลจากความสามารถในการชำระหนี้ลดลงซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากลูกค้าภาคธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมขึ้น ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหนี้ การดำเนินการดูแล และการแก้ไขลูกหนี้ที่ถูกผลกระทบดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
LHBANK กำไรโต 40%
บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (LHBANK) แจ้งกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปี 2558 จำนวน 420.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 113.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 37.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2557 ส่วนงวด 6 เดือนของปี 2558 มีกำไรสุทธิจำนวน 748.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 215.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 40.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ เป็นการเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของสินเชื่อโดยเฉพาะสินเชื่อรายใหญ่ และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการที่เพิ่มขึ้น
และ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 มี NPL จำนวน 2,795.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 346.4 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2557 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.1 อัตราสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม คิดเป็น 2% ของเงินให้สินเชื่อรวม และมีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นตามกฎหมายต่อสินทรัพย์เสี่ยงเท่ากับร้อยละ 14.04 สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งกำหนดไว้ที่ร้อยละ 8.50 และเพิ่มขึ้นจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 ที่มีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ร้อยละ 12.41