xs
xsm
sm
md
lg

FETCO ชี้ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนดิ่งเหว ตกต่ำสุดรอบ 14 เดือน (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO
สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เผยดัชนีเชื่อมั่นนักลงทุนประจำเดือนสิงหาคมปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 14 เดือน ชี้เศรษฐกิจซบเซาทำกำลังซื้อในประเทศหดตัว ส่งออกเสี่ยงกระทบฟื้นตัวช้าจากค่าเงินบาท ด้าน CIMB หวั่นเศรษฐกิจไทยทรุดยาวไม่ฟื้นเข้าสู่ภาวะถดถอยถึงปลายปี คาดเงินบาทอาจหลุดถึง 36 บาท/ดอลลาร์



นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเดือนสิงหาคมที่มีต่อปัจจัยการลงทุนใน 3 เดือนข้างหน้า พบว่า อยู่ในระดับ 57.27 ปรับตัวลดลงถึง 41.7% จากดัชนีเดือนก่อนซึ่งอยู่ที่ 98.28 และนับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน ซึ่งนักลงทุนทุกกลุ่มมีความคิดเห็นตรงกันว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยน่าจะอยู่ในเกณฑ์ซบเซา หรือ Bearish และช่วงที่เหลือของปีก็น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆโดยปัจจัยที่นักลงทุนแสดงความกังวลมากที่สุดคือ ภาวะเศรษฐกิจไทยที่ซบเซา ส่วนปัจจัยที่มีโอกาสจะผลักดันเศรษฐกิจได้ก็คือ นโยบายเศรษฐกิจ หากภาครัฐเดินหน้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งนโยบายระยะกลาง ถึงระยะยาวอยากเห็นภาครัฐให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคน รวมถึงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ที่มีประสิทธภาพในการเพิ่มค่าทางด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้มากขึ้น เพราะเป็นรากฐานสำคัญที่จะทำให้โครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยทันต่อการแข่งขัน นอกเหนือไปจากการลงทุนระบบรางที่รัฐเดินหน้าในขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ในส่วนนโยบายระยะสั้น ควรเน้นการดูแลเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำ รวมถึงประคับประคองภาคธุรกิจ SME ให้มีความเข้มแข็งสามารถอยู่รอดต่อไปได้เพื่อรอการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ หุ้นที่ยังน่าลงทุน คือ กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เพื่อรับการลงทุนภาครัฐที่น่าจะมีมากขึ้น ขณะที่หุ้นที่ควรหลีกเลี่ยง คือ หุ้นกลุ่มเหล็ก เนื่องจากปัจจัยลบเศรษฐกิจจีนที่ซบเซา

ด้าน นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยสายบริหารความเสี่ยงธนาคารซีไอเอ็มบีไทย บอกว่า ธนาคารอยู่ระหว่างการปรับประมาณการจีดีพีไทยในปีนี้จากเดิมที่คาดว่าโต 3.3% โดยคาดว่าน่าจะเติบโตในกรอบ 2-3% หลังการลงทุน และการบริโภคในประเทศซบเซา การส่งออก น่าจะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน รวมถึงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ต้องติดตามว่าเติบโตจริงหรือไม่ ขณะที่การลงทุนภาครัฐยังล่าช้า และขาดความชัดเจน ทำให้นักลงทุนยังลังเล เนื่องจากยังไม่มีข้อสรุปที่น่าเชื่อถือ

ขณะเดียวกันก็ต้องจับตาการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของไทยไตรมาสที่ 2 จากสภาพัฒน์จึงจะสามารถประเมินภาพรวมของเศรษฐกิจไทยได้ชัดเจน โดยขณะนี้สิ่งที่น่ากังวลว่าเศรษฐกิจไทยอาจเสี่ยงต่อภาวะถดถอย หากเทียบแบบไตรมาสต่อไตรมาส

ทั้งนี้แนวโน้มการอ่อนตัวของค่าเงินบาทอาจอ่อนค่าลงแตะ 36 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงปลายปีนี้ จากการปรับดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐฯ


กำลังโหลดความคิดเห็น