กสิกรฯ ประกาศกำไร 9 เดือน-ไตรมาส 3 ลด 6.05% และ 19.17% ตามลำดับ เหตุยังต้องกันสำรองหนี้ฯ เพิ่มตามเอ็นพีแอลที่ยังไม่นิ่ง ด้านซีไอเอ็มบีไทย กำไร 9 เดือน ลด 6% แต่รายไตรมาสเริ่มดีขึ้น ขณะที่แบงก์กรุงเทพ กำไรสวนทางเพิ่มพันล้าน
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2558 ธนาคาร และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 33,997 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 2,190 ล้านบาท หรือ 6.05% เนื่องจากได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น จำนวน 7,193 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น จำนวน 1,820 ล้านบาท หรือ 2.97% โดยอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (NIM) อยู่ที่ระดับ 3.66% ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสอดคล้องต่อทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น จำนวน 6,393 ล้านบาท หรือ 15.38% เป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียม และบริการสุทธิ และรายได้จากผลิตภัณฑ์ตลาดเงิน และตลาดทุนที่เพิ่มขึ้น
ส่วนไตรมาส 3 ปี 2558 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2558 ธนาคาร และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 10,117 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน จำนวน 1,362 ล้านบาท หรือ 11.86% ส่วนใหญ่เกิดจากในไตรมาสนี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น จำนวน 1,470 ล้านบาท รวมทั้งรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง จำนวน 586 ล้านบาท หรือ 3.52% สำหรับ NIM อยู่ที่ระดับ 3.57% และเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2557 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 10,117 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 2,399 ล้านบาท หรือ 19.17%
ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม จำนวน 2,538,678 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 26,955 ล้านบาท หรือ 1.07% และเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2557 จำนวน 149,541 ล้านบาท หรือ 6.26% ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของรายการระหว่างธนาคาร และตลาดเงินสุทธิและเงินให้สินเชื่อ
ทั้งนี้ ณ สิ้นสุดไตรมาส 3 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อ จำนวน 1,577,781 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2557 จำนวน 50,701 ล้านบาท หรือ 3.32% ขณะที่เงินรับฝากมี จำนวน 1,677,008 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2557 จำนวน 47,177 ล้านบาท หรือ 2.89% โดยเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL gross) ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 อยู่ที่ระดับ 2.62% ขณะที่ไตรมาสก่อนและสิ้นปี 2557 อยู่ที่ระดับ 2.39% และ 2.24% ตามลำดับ และจากการตั้งสำรองฯ ที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว ส่งผลให้มีอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 อยู่ที่ระดับ 131.63%
ซีไอเอ็มบีไทยตั้งสำรองเพิ่ม 105.4%
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMBT) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2558 ของธนาคารมีกำไรสุทธิ จำนวน 846.5 ล้านบาท ลดลง จำนวน 53.9 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6.0% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักเกิดจากสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 105.4% จากสภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง
อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิรายไตรมาสเติบโตขึ้นเป็นลำดับ โดยกำไรสุทธิงวดไตรมาส 3 ปี 2558 อยู่ที่ 498.4 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากไตรมาส 2 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 217.5 ล้านบาท และไตรมาส 1 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 130.6 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธนาคารมีรายได้จากการดำเนินงาน จำนวน 9,274.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,537.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19.9% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2557 สาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 6.5% รายได้ค่าธรรมเนียม และบริการสุทธิ 20.3% และรายได้อื่น 94.8% ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากธุรกรรมบริหารเงิน และรายได้เงินปันผล และมี NIM ที่ 3.16%
ด้านเงินให้สินเชื่อสุทธิอยู่ที่ 199.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8% เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ ณ สิ้นปี 2557 และมีเอ็นพีแอลอยู่ที่ 8.6 พันล้านบาท คิดเป็น 4.3% ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 อยู่ที่ร้อยละ 3.3 สืบเนื่องจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจโดยรวมยังคงอ่อนแอ ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมขึ้น ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหนี้ การดำเนินการดูแล และการแก้ไขลูกหนี้ที่ถูกผลกระทบดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 อยู่ที่ร้อยละ 89.2 ลดลงจากสิ้นปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 95.2
**แบงก์กรุงเทพกำไรเพิ่มพันล้าน**
ธนาคารกรุงเทพ รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2558 จำนวน 9,057 ล้านบาท ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2558 จำนวน 9,057 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,022 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.7 จากไตรมาส 2 ปี 2558 และลดลง 518 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.4 จากไตรมาสเดียวกันปี 2557 สำหรับ 9 เดือนแรกปี 2558 ธนาคารมีกำไรสุทธิ จำนวน 26,499 ล้านบาท ลดลง 1,070 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.9 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปี 2557
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือน ปี 2558 ธนาคาร และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 33,997 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 2,190 ล้านบาท หรือ 6.05% เนื่องจากได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น จำนวน 7,193 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น จำนวน 1,820 ล้านบาท หรือ 2.97% โดยอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (NIM) อยู่ที่ระดับ 3.66% ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสอดคล้องต่อทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น จำนวน 6,393 ล้านบาท หรือ 15.38% เป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียม และบริการสุทธิ และรายได้จากผลิตภัณฑ์ตลาดเงิน และตลาดทุนที่เพิ่มขึ้น
ส่วนไตรมาส 3 ปี 2558 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2558 ธนาคาร และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 10,117 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน จำนวน 1,362 ล้านบาท หรือ 11.86% ส่วนใหญ่เกิดจากในไตรมาสนี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น จำนวน 1,470 ล้านบาท รวมทั้งรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง จำนวน 586 ล้านบาท หรือ 3.52% สำหรับ NIM อยู่ที่ระดับ 3.57% และเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2557 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 10,117 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 2,399 ล้านบาท หรือ 19.17%
ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม จำนวน 2,538,678 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 26,955 ล้านบาท หรือ 1.07% และเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2557 จำนวน 149,541 ล้านบาท หรือ 6.26% ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของรายการระหว่างธนาคาร และตลาดเงินสุทธิและเงินให้สินเชื่อ
ทั้งนี้ ณ สิ้นสุดไตรมาส 3 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อ จำนวน 1,577,781 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2557 จำนวน 50,701 ล้านบาท หรือ 3.32% ขณะที่เงินรับฝากมี จำนวน 1,677,008 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2557 จำนวน 47,177 ล้านบาท หรือ 2.89% โดยเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL gross) ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 อยู่ที่ระดับ 2.62% ขณะที่ไตรมาสก่อนและสิ้นปี 2557 อยู่ที่ระดับ 2.39% และ 2.24% ตามลำดับ และจากการตั้งสำรองฯ ที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว ส่งผลให้มีอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 อยู่ที่ระดับ 131.63%
ซีไอเอ็มบีไทยตั้งสำรองเพิ่ม 105.4%
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMBT) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2558 ของธนาคารมีกำไรสุทธิ จำนวน 846.5 ล้านบาท ลดลง จำนวน 53.9 ล้านบาท หรือคิดเป็น 6.0% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักเกิดจากสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 105.4% จากสภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง
อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิรายไตรมาสเติบโตขึ้นเป็นลำดับ โดยกำไรสุทธิงวดไตรมาส 3 ปี 2558 อยู่ที่ 498.4 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากไตรมาส 2 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 217.5 ล้านบาท และไตรมาส 1 ซึ่งมีกำไรสุทธิ 130.6 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธนาคารมีรายได้จากการดำเนินงาน จำนวน 9,274.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,537.2 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19.9% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2557 สาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 6.5% รายได้ค่าธรรมเนียม และบริการสุทธิ 20.3% และรายได้อื่น 94.8% ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากธุรกรรมบริหารเงิน และรายได้เงินปันผล และมี NIM ที่ 3.16%
ด้านเงินให้สินเชื่อสุทธิอยู่ที่ 199.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.8% เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ ณ สิ้นปี 2557 และมีเอ็นพีแอลอยู่ที่ 8.6 พันล้านบาท คิดเป็น 4.3% ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 อยู่ที่ร้อยละ 3.3 สืบเนื่องจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจโดยรวมยังคงอ่อนแอ ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมขึ้น ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหนี้ การดำเนินการดูแล และการแก้ไขลูกหนี้ที่ถูกผลกระทบดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 อยู่ที่ร้อยละ 89.2 ลดลงจากสิ้นปี 2557 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 95.2
**แบงก์กรุงเทพกำไรเพิ่มพันล้าน**
ธนาคารกรุงเทพ รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2558 จำนวน 9,057 ล้านบาท ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 2558 จำนวน 9,057 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,022 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.7 จากไตรมาส 2 ปี 2558 และลดลง 518 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.4 จากไตรมาสเดียวกันปี 2557 สำหรับ 9 เดือนแรกปี 2558 ธนาคารมีกำไรสุทธิ จำนวน 26,499 ล้านบาท ลดลง 1,070 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.9 เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปี 2557