นครศรีธรรมราช - พรุ่งนี้ สภา อบจ.นครศรีธรรมราช เปิดเวทีซักฟอกงบปรับปรุงสนามกีฬากลางจังหวัดที่ยังมีปัญหาคาราคาซัง ขณะที่ ส.อบจ. กลุ่มหนึ่งเตรียมลุยขอความกระจ่าง “สตง.ภูมิภาคที่ 14” กรณีตรวจสอบทุจริตสนามบอล และลู่วิ่งสมัยอยู่ในการดูแลของ “เทศบาลนครศรีธรรมราช”
วันนี้ (16 พ.ย.) ที่ จ.นคศรีธรรมราช สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช (ส.อบจ.) เขต อ.เมือง ได้เข้าตรวจสอบสนามกีฬากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะลู่วิ่ง และสนามฟุตบอล ที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราชได้ส่งคืนสนามกีฬากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมทรัพย์สินให้กลับมาอยู่ในความดูแลของ อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ทั้งหมดอยู่ในสภาพทรุดโทรมอย่างหนัก แม้ว่า 3 ปีที่ผ่านมา เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งมี นายเชาว์นวัศ เสนพงศ์ เป็นนายกเทศมนตรี ใช้งบประมาณไปในการปรับปรุงก่อสร้างทุกส่วนของสนามกีฬาแห่งนี้ถึง 39 ล้านบาท แต่สภาพทางกายภาพที่พบได้โดยทั่วไปกลับทรุดโทรมอย่างหนัก สวนทางต่องบประมาณจำนวนมากที่ใช้จ่ายไป
ขณะที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ภูมิภาคที่ 14 ได้เข้าสอบสวนการทุจริตในการปรับปรุงสนามฟุตบอล และลู่วิ่งที่ใช้งบประมาณปรับปรุงไปถึง 13.4 ล้านบาท เมื่อปลายปี 2557 ที่พบสภาพทางกายภาพเบื้องต้นที่ทรุดโทรม มีการเจาะสำรวจพื้นดินอย่างเป็นทางการจากผู้เชี่ยวชาญ อยู่ในสภาพที่ไม่ตรงกับมาตรฐานของการกีฬาแห่งประเทศไทย รวมทั้งสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่เข้ามาตรวจสอบพบความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของนักกีฬา เนื่องจากสภาพสนามที่แข็งกระด้างจากการใช้ดินลูกรัง จึงไม่สามารถใช้สนามสำหรับการแข่งขันในระดับมาตรฐานชั้นนำของประเทศไทยได้ ส่วนลู่วิ่งยางโพลิเมอร์นั้นมีการฉีดทับของเดิมเพียงบางๆ เท่านั้น ส่งผลให้มีการบวมของพื้นผิวเป็นระยะ
ส่วนการสอบสวนได้เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2558 แต่ปรากฏว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผลออกมา ในขณะที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ได้ส่งคืนสนามกลับมาในสภาพทรุดโทรมเมื่อเดือน ต.ค.58 ทั้งที่ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของ สตง.จนทำให้ อบจ.นครศรีธรรมราช ไม่กล้าที่จะปรับปรุงแก้ไข เนื่องจากเกรงว่าจะทำลายหลักฐานสำคัญไป โดยเฉพาะในส่วนของสนามฟุตบอล และลู่วิ่งโพลิเมอร์ที่เพิ่งปรับปรุงไปในวงเงิน 13.4 ล้าน
ขณะที่ นายจรัญ คงกิ้ม นางสุภาพ ขุนศรี นายศักดิ์หทัย สมุทรอัษฎงค์ และนายอำนาจ ไกรนุกูล ส.อบจ.นครศรีธรรมราช เขต อ.เมือง นายเสน่ห์ แก้วจันทร์ เลขานุการคณะกรรมาธิการการกีฬา อบจ.นครศรีธรรมราช ระบุว่า ส.อบจ.นครศรีธรรมราช ได้เตรียมข้อบัญญัติในเรื่องงบประมาณการจ่ายขาดเงินสะสมจำนวนกว่า 18 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงทุกส่วนที่ทรุดโทรมอย่างหนัก เว้นสนามฟุตบอล และลู่วิ่งโพลิเมอร์ เนื่องจากเป็นงานเร่งด่วน และ อบจ.นครศรีธรรมราช เพิ่งจะรับคืนสนามกีฬากลับมาจากเทศบาลนครนครศรีธรรมราชเพียงไม่ถึง 1 เดือน ขณะที่มีงานใหญ่ระดับประเทศรออยู่ข้างหน้า คือ การแข่งขันกีฬาเยาวชนนักเรียนนักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 37 จ.นครศรีธรรมราช จะต้องเป็นเจ้าภาพ
“ในส่วนของงบประมาณนั้นจะมีการประชุมสภาพิจารณากันในวันที่ 17 พ.ย.นี้ นอกจากนั้น ในส่วนของ ส.อบจ.ได้เตรียมทำหนังสือสอบถามความคืบหน้าในการสอบสวนทุจริตการใช้จ่ายงบประมาณที่อยู่ในส่วนของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ไปยัง สตง.ภูมิภาคที่ 14 รวมทั้งส่งทวงถามไปยังผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน คู่ขนานกันไปด้วย เพื่อความชัดเจนว่าผลการสอบสวนมีข้อสรุปอย่างไร ใครจะต้องมีส่วนรับผิดชอบตามกฎหมายในความผิดหรือไม่ผิดอย่างไร เนื่องจากการพิจารณาล่วงมาแล้ว 1 ปี กลับไม่มีความคืบหน้า จนกระทั่ง นายเชาว์นวัศน์ เสนพงศ์ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ทิ้งกลับมาให้ อบจ.ผลการสอบสวนก็ยังไม่ออกมา”
ส.อบจ.เขต อ.เมืองนครศรีธรรมราช ยังระบุด้วยว่า ล่าสุดนั้นทราบอย่างไม่เป็นทางการว่า นายสนั่น ศิลารัตน์ ปลัด อบจ.ปฏิบัติหน้าที่ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช กำลังทำหนังสือส่งสนามฟุตบอล และลู่วิ่งกลับไปให้เทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดยผ่านทางผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช ให้นำกลับดูแลต่อไป เนื่องจากยังติดอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนการทุจริตของ สตง. ซึ่งในเรื่องนี้ไม่สามารถทำได้อาจขัดต่อกฎหมาย เนื่องจาก สภา อบจ.มีมติไม่โอนขาดสนามกีฬาไปให้เทศบาลดูแล เท่ากับว่าทรัพย์สินนี้ยังเป็นของ อบจ.โดยสมบูรณ์ และสนามถือเป็นส่วนควบของคุรุภัณฑ์ อาคารสถานที่อีกด้วย ดังนั้น หากปลัด อบจ.ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.จะส่งสนามกลับไปให้เทศบาลต้องใช้มติของสภา อบจ.เท่านั้น
