xs
xsm
sm
md
lg

นักธุรกิจโวย! รพ.เอกชนชื่อดังเมืองตรังเรียกค่ารักษาสูงเกินจริง เตรียมร้องศูนย์ดำรงธรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ตรัง - นักธุรกิจโวย! รพ.เอกชนชื่อดังเมืองตรัง เรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลของพ่อสูงเกินจริง ทั้งที่นอนรักษาตัวแค่ 3 วัน ด้วยโรคไข้เลือดออก แถมยังพบข้อมูลผู้ป่วยรายอื่นแทรกอยู่ในผลวินิจฉัยโรคของพ่อตนด้วย ยันเตรียมร้องศูนย์ดำรงธรรมให้ทำการเข้าตรวจสอบ

วันนี้ (20 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางวัชรี วิทวัสการเวช อายุ 48 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว อยู่บ้านเลขที่ 43/5 ถนนวัดคลองน้ำเจ็ด ต.ทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง ได้เข้าร้องต่อสื่อมวลชน กรณีที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.ตรัง ทำการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลแพงเกินจริง พร้อมทั้งอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบ และควบคุมค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนให้มากกว่านี้ โดยอย่าปล่อยให้มีการเอารัดเอาเปรียบจากผู้บริโภคมากจนเกินไป

โดย นางวัชรี ระบุว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2558 ตนได้พา นายโสภณ ตรังตุลคาร ผู้เป็นพ่อ ไปเข้ารับการตรวจร่างกายเนื่องจากมีไข้สูง และมีสภาพอ่อนแอ ปรากฏว่า แพทย์ที่โรงพยาบาลเอกชนดังกล่าววินิจฉัยว่า เป็นโรคไข้เลือดออก ได้สั่งให้นอนพักรักษาตัวเป็นเวลา 3 วัน คือ ระหว่างวันที่ 30 ก.ย. ถึง 3 ต.ค. แต่กลับถูกเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลสูงถึง 73,723 บาท ตนจึงรู้สึกตกใจ และสงสัย ถึงแม้จะเข้าใจดีว่าค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลเอกชน จะต้องแพงกว่าโรงพยาบาลรัฐบาล แต่ไม่นึกว่าจะสูงมากขนาดนี้

ดังนั้น ตนจึงได้ขอให้โรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวชี้แจงรายการค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ฟัง และต่อมาได้ยอมลดค่ารักษาพยาบาลลงมาเหลือ 52,789 บาท ส่วนเหตุผลที่ตนเองพาพ่อเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน เนื่องจากทราบว่า โรงพยาบาลของรัฐ มีภาระต้องดูแลผู้ป่วยแต่ละวันจำนวนมาก และไม่อยากเสียเวลารอ อีกทั้งส่วนหนึ่งก็อยากช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐ และตนก็พอมีกำลังในการรับผิดชอบค่าใช้จ่าย แต่หากสูงเกินไปตนก็รู้สึกไม่ไหวเช่นกัน

นางวัชรี กล่าวอีกว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นนี้ตนรู้สึกเหมือนกับตกเป็นเหยื่อ และถูกเอารัดเอาเปรียบ ทั้งๆ ที่ได้แจ้งต่อทางโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้ ก่อนนำตัวพ่อเข้ารับการรักษาแล้วว่า ตนไม่มีสวัสดิการ หรือประกันชีวิต และไม่สามารถเบิกค่ารักษาใดๆ ได้ แต่ยังถูกเรียกเก็บค่าใช้จ่ายสูงถึงขนาดนี้ นอกจากนั้น หลังจากที่ตนได้เอาใบเสร็จรับเงินมาตรวจสอบดูอย่างละเอียดก็พบว่า ยังคงมีค่ายา ค่าวินิจฉัยโรค และค่าเวชภัณฑ์อื่นๆ ที่ซ้ำซ้อน และมีราคาสูงผิดปกติ

“ที่ซ้ำร้ายหลังจากมาตรวจสอบประวัติการรักษาของพ่อ ก็ยังพบสิ่งผิดปกติ โดยพบประวัติการผลการเจาะเลือดของใครก็ไม่ทราบที่มีอายุ 18 ปี และเป็นชาวต่างชาติ แต่ถูกนำมาสอดแทรกอยู่ในเอกสารรายงานผลการวินิจฉัยโรคของพ่อตน ซึ่งทำให้เข้าใจได้ว่า โรงพยาบาลเอกชนดังกล่าวมีระบบการทำงานที่ชุ่ยมาก จึงอยากให้ตนเอง และครอบครัวเป็นเหยื่อรายสุดท้ายที่ต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ พร้อมทั้งจะมีการทำหนังสือถึงศูนย์ดำรงธรรม จ.ตรัง เพื่อให้ทำการตรวจสอบต่อไป”


 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น