ศูนย์ข่าวหาดใหญ่- กลุ่มผู้ชุมนุมชาวประมงพื้นบ้านโพงพาง 3 จังหวัดภาคใต้ ทั้งสงขลา สตูล และตรัง เกือบ 500 คน รวมตัวหน้าศาลากลางจังหวัดสงขลา ยื่นหนังสือผ่านศูนย์ดำรงธรรม จ.สงขลา ถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้ทบทวนคำสั่งใหม่ในการรื้อถอนโพงพาง อ้างส่งผลกระทบต่อชาวประมงพื้นบ้านจำนวนมาก
วันนี้ (31 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มประชาชนที่มาชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัดสงขลา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวประมงพื้นบ้านโพงพางในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ทั้งสงขลา ตรัง และสตูล ราว 500 คน เดินทางไปรวมตัวกันที่บริเวณหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา ซึ่งอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดสงขลาหลังเก่า เพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อนายกรัฐมนตรี กรณีคำสั่ง คสช.ที่ 24/2558 โดยการใช้คำสั่งในมาตรา 44 ในการรื้อถอนโพงพาง
ทั้งนี้ ในส่วนของ จ.สงขลา ได้มีการออกประกาศให้ชาวประมงเจ้าของโพงพาง ไซนั่ง ทำการรื้อถอนเครื่องมือประมงโพงพางด้วยตัวเองภายในวันที่ 10 กันยายนนี้ หากไม่ดำเนินการทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการรื้อถอนทั้งหมด
โดยการเข้ายื่นหนังสือในครั้งนี้ ชาวประมงพื้นบ้านโพงพางขอให้มีการระงับการรื้อถอนเครื่องมือประมงออกไปก่อน รวมทั้งขอความเป็นธรรมให้มีการทบทวนคำสั่งใหม่อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากชาวประมงพื้นบ้านในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา และใน จ.สตูล และ ตรัง ได้รับความเดือดร้อน และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูสภาพความเป็นอยู่ที่แท้จริงของชาวประมงพื้นบ้าน และร่วมหาทางออกที่ดีที่สุดให้แก่ชาวประมง
โดย นายปรีชา ดำเกิงเกียรติ ปลัดจังหวัดสงขลา เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกมารับหนังสือจากชาวประมงพื้นบ้านโพงพาง พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน และมอบให้หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา ดำเนินการจัดส่งหนังสือผ่านไปถึงนายกรัฐมนตรีในวันนี้ จากนั้นชาวประมงพื้นบ้านโพงพางทั้ง 3 จังหวัดก็แยกย้ายไปอย่างสงบโดยไม่มีเหตุความวุ่นวายบานปลายแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ในช่วงเช้าที่ผ่านมา มีรายงานว่าผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งที่มาร่วมชุมนุมคือ ประชาชนที่ต่อต้านการบริหารงานของผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ซึ่งมาผสมโรงร่วมด้วยกับกลุ่มผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน แต่หลังจากกลุ่มประมงได้มีการยื่นหนังสือทั้งหมดก็สลายตัวไปพร้อมกันในที่สุด