xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มประมงพื้นบ้านยื่นหนังสือผู้ว่าฯ จันท์ ไม่เห็นด้วยคำสั่ง คสช.ห้ามใช้เครื่องมือประมงโพงพาง รั้วไซมาน เครื่องมือลี่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

กลุ่มประมงพื้นบ้าน ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯจันทบุรี ไม่เห็นด้วยคำสั่ง คสช.ห้ามใช้เครื่องมือประมง
จันทบุรี - กลุ่มประมงพื้นบ้านกว่า 300 คน ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯ จันทบุรี หลังไม่เห็นด้วยต่อคำสั่ง คสช.ที่ห้ามให้บุคคลใช้หรือครอบครองเพื่อใช้เครื่องมือประมงโพงพาง รั้วไซมาน เครื่องมือลี่ ที่ชาวบ้านใช้มานานกว่า 200 ปี

วันนี้ (11 ส.ค.) ที่ลานหน้าศาลากลางจังหวัดจันทบุรี นายธวัชชัย อนามพงษ์ นายสนคม อนามพงษ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด (อดีต ส.ส.) จันทบุรี และนายสนั่น แก้วขาว นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (นายก อบต.) บางชัน ได้นำกลุ่มประมงพื้นบ้านอำเภอขลุง กว่า 300 คน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากคำสั่ง คสช.ที่ห้ามให้บุคคลใช้หรือครอบครองเพื่อใช้เครื่องมือประมงโพงพาง รั้วไซมาน เครื่องมือลี่ หรือเครื่องมืออื่นที่มีลักษณะ และวิธีการคล้ายคลึงกัน เดินทางมายื่นหนังสือให้แก่ นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้นำไปยื่นต่อคณะ คสช.หลังชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ลุ่มน้ำเวฬุ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ได้อาศัยทำมาหากินโดยใช้เครื่องมือที่ชาวบ้านเรียกว่า หลักเคย มาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 200 ปี

สำหรับเครื่องมือดังกล่าวเข้าข่ายเครื่องมือผิดกฎหมายดังคำสั่งที่ประกาศมาตราการดังกล่าว สร้างความเดือดร้อนอย่างถึงที่สุดต่อชุมชน ซึ่งเครื่องมือหลักเคยเป็นอาชีพหลักเพียงอย่างเดียวของชุมชนที่ใช้ทั้งหาอาหารดำรงชีวิต และเป็นแหล่งรายได้ ยังไม่มีทางเลือกอื่นในการประกอบอาชีพ และส่งผลกระทบกระเทือนต่อชุมชนกว่า 3,500 คน

ดังนั้น ชาวประมงพื้นบ้านได้ร่วมกันประชาคมโดยการลงชื่อไม่เห็นด้วยต่อคำสั่ง คสช. โดยไม่มีเจตนาที่จะทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และสัตว์น้ำ จึงได้เดินทางรวมตัวเพื่อยื่นหนังสือให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ในวันนี้ เพื่อหาทางออกในการแก้ไขปัญหา

หลังที่กลุ่มประมงพื้นบ้านได้ยื่นหนังสือให้แก่ นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการเสร็จสิ้น ทางผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ก็ได้เชิญตัวแทนกลุ่มประมงพื้นบ้าน ประมงจังหวัดจันทบุรี และนายอำเภอขลุง เข้าร่วมประชุมเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาให้แก่ชาวประมงพื้นบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน

โดยทางกลุ่มประมงพื้นบ้านต้องการให้มีการผ่อนผันออกไปก่อน หรือหากมีการรื้อถอนก็ควรที่จะให้ความหวังแก่ชาวประมงพื้นบ้านด้วย ควรที่จะมีอาชีพรองรับให้แก่ชาวประมงพื้นบ้านด้วย ซึ่งตรงนี้ชาวประมงพื้นบ้านจะไปทำอะไรกิน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้รับเรื่องไว้ และจะนำปัญหาที่ชาวประมงพื้นบ้านเสนอมาไปผ่านไปยังคณะ คสช.ให้พิจารณาช่วยเหลือชาวประมงพื้นบ้าน อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ต่อไป ทำให้กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านมีความพอใจ และได้เดินทางกลับโดยไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด

ด้าน นายสนั่น แก้วขาว ตัวแทนกลุ่มประมงพื้นบ้าน และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางชัน กล่าวว่า จากคณะ คสช.ได้มีการออกมาตรา 44 จะให้มีการรื้อถอนหลักเคยหลังภายในวันที่ 12 สิงหาคม 2558 นี้ ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านได้ตื่นตระหนก และกลัวมาก

ทั้งนี้ ถามว่าผิดไหม ซึ่งรู้ว่าผิดแต่ว่าการรื้อถอนน่าจะมีอย่างอื่นเข้ามารองรับต่อชุมชนบางชัน เพื่อให้ชุมชน และชาวประมงพื้นบ้านอยู่ได้ แต่ถ้ามีการรื้อถอนโดยการไม่ให้ความหวังชุมชน และชาวประมงพื้นบ้านเลย ประชาชนที่หากินกับแม่น้ำเวฬุจะไปทำอะไรกิน ประชาชนตำบลบางชัน ขึ้นจากทะเลไปก็เจอป่า วันนี้กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านก็อยากจะมาขอความเป็นธรรมจากผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ว่า ช่วยหาทางออกให้แก่กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านด้วย ทำอย่างไรก็ได้ให้กลุ่มประมงพื้นบ้าน และชุมชนอยู่ได้
ชาวประมงจำนวนมาก ได้รับความเดือดร้อนจากคำสั่งนี้
ผู้ว่าฯจันท์ ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเรื่องเสนอ คสช.ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น