ปัตตานี - ชาวประมงพื้นบ้านปัตตานี ขอบคุณรัฐบาลที่ได้ตรากฎหมายให้เครื่องมือไอ้โง่ผิดกฎหมาย พร้อมขอให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง หวังอ่าวปัตตานีจะกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง
วันนี้ (11 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณอู่ซ่อมเรือประมงพื้นบ้าน ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี และเป็นที่ตั้งของชมรมประมงพื้นบ้านรอบอ่าวปัตตานี ได้มีการเปิดบริการนำพานักท่องเที่ยวนั่งเรือชมอ่าวปัตตานี ชมป่าชายเลน ลอดถ้ำไม้กงกางหนึ่งเดียวในประเทศ ชมวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้าน เพื่อเป็นรายได้เสริมหลังจากที่ต้องได้รับผลกระทบจากเครื่องลอบพับได้ หรือไอ้โง่ ทำให้ชาวประมงอวนลอยไม่สามารถทำประมงได้นาน 2 ปีเศษ และเพื่อสร้างจิตสำนึกร่วมกันในการร่วมอนุรักษ์มรดกทางทรัพยากรทางทะเลให้มีความอุดมสมบูรณ์สืบไป เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำวัยอ่อนก่อนเติบโตลงสู่ทะเลอ่าวไทยต่อไปตามกลไกของตามชาติ
นายมะแอ ลาเต๊ะ ชาวประมงพื้นบ้านกล่าวว่า หลังจากที่ชาวประมงพื้นบ้านรอบอ่าวปัตตานีรวมตัวกันต่อสู้เพื่อขอคืนพื้นที่ทุกตารางเมตรของอ่าวปัตตานี เพื่อกลับเป็นพื้นที่อ่าวสาธารณะจนประสบความสำเร็จ หลังจากที่ก่อนหน้านั้น กลุ่มทุนได้นำพื้นที่อ่าวปัตตานีเกือบทั้งหมดเป็นที่เลี้ยงหอย สร้างผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของชาวประมงพื้นบ้าน แต่เพียงไม่กี่วันได้เกิดปัญหาใหม่ ได้มีกลุ่มทุนแฝงตัวกับประมงนำเครื่องมือลอบพับได้ หรือไอ้โง่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เคยเลี้ยงหอยในอ่าวมาก่อนหน้านี้ ทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำในอ่าวปัตตานีเกือบสูญพันธุ์
การทำประมงอวนลอยกุ้งที่เคยมีมานานนับร้อยปียังเกิดปัญหา เนื่องมาจากเครื่องมือไอ้โง่ จนทำให้ชาวประมงจำนวนไม่น้อยต้องสิ้นเนื้อประดาตัว เพราะไม่รู้จะหาทางยับยั้งอย่างไร จนเกิดการรวมตัวไปเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากทางประมงจังหวัด ศอ.บต. ในขณะนั้น แต่ได้รับคำตอบเดียวกันว่า เจ้าหน้าที่จะดำเนินการห้ามยังไม่ได้ เพราะยังไม่มีกฎหมายห้าม
นายมักตาร์ สาแม ประธานชมรมประมงพื้นบ้านรอบอ่าวปัตตานี กล่าวถึงกรณีคำสั่ง คสช.ที่ 24/2558 การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ตามคำสั่งดังกล่าวนี้ ได้ระบุถึงเครื่องมือลอบพับได้ หรือไอ้โง่ ที่ได้ออกตรากฎหมายห้ามใช้เครื่องมือประมงลักษณะนี้เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ของอ่าวปัตตานีของพวกเรากลับมาอีกครั้ง นับเป็นเรื่องดี ในฐานะประธานชมรมประมงพื้นบ้านรอบอ่าวปัตตานี ขอแสดงความดีใจ และขอบคุณรัฐบาลชุดนี้ที่สามารถตรากฎหมายห้ามเครื่องมือไอ้โง่ได้สำเร็จ เป็นสิ่งที่ชาวประมงพื้นบ้านรอคอยมานานถึง 2 ปีเศษ
จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยงข้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อความสงบสุข ความยั่นยืนของสัตว์น้ำ ความมั่นคง และความอยู่รอดของการดำเนินชีวิตชาวประมงพื้นบ้านในรอบอ่าวปัตตานี