ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ไกด์ไทยภาษาจีน-ภูเก็ต รวมตัวยื่นหนังสือเรียกร้องกรมการท่องเที่ยวฯ แก้ปัญหาไกด์ต่างชาติ และบริษัทนำเข้าไกด์ต่างชาติผิดกฎหมาย พร้อมนัดหยุดทำหน้าที่ไกด์ประท้วงบริษัททัวร์ ขณะที่ ผอ.ท่องเที่ยวและกีฬา ยืนยันจัดการขั้นเด็ดขาดต่อไกด์เถื่อนต่างชาติ จับได้เนรเทศออกนอกประเทศทันที
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (6 ส.ค.) สมาชิกชมรมมัคคุเทศก์ภาษาจีน-ภูเก็ต ประมาณ 30 คน นำโดย นายนนภูรี ภัทรคุณากรสกุล อายุ 49 ปี เลขาชมรมมัคคุเทศน์ภาษาจีนภูเก็ต คณะกรรมการสมาคมมัคคุเทศก์ภาษจีน-ภูเก็ต รวมตัวเดินขบวนเข้ายื่นหนังสือต่อ นายสันติ ป่าหวาย ผู้อำนวยการศูนย์การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต กรณีปัญหาไกด์ต่างชาติ และบริษัทนำเข้าไกด์ต่างชาติที่ผิดกฎหมาย
โดยทางชมรมอ้างว่า จากระยะเวลาครึ่งปีที่ผ่านมา บริษัททัวร์ตลาดจีนได้นำมัคคุเทศก์ผิดกฎหมายเข้ามาประกอบอาชีพในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง นอกจากนั้น มัคคุเทศก์เถื่อนไม่เคยเรียนรู้ประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของไทย ไม่ใช่ผู้ถือสัญชาติไทย อีกทั้งยังทำให้เสียภาพลักษณ์ของประเทศชาติ และก่อให้เกิดการว่างงานของมัคคุเทศก์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียงเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ส่งผลให้มัคคุเทศก์ในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น เพื่อรักษาสิทธิและประโยชน์ของมัคคุเทศก์ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ 2551 ทางสมาชิกชมรมมัคคุเทศก์ฯ จึงได้รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือดังกล่าวเพื่อแสดงถึงความเดือนร้อน และขอให้ทางกรมการท่องเที่ยวและกีฬา ช่วยหาวิธีแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของมัคคุเทศก์ในพื้นที่ให้เกิดความเป็นธรรมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จากปัจจุบันคาดว่า มีมัคคุเทศก์ต่างชาติผิดกฎหมายที่ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตในจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียงอยู่ประมาณ 75% ของมัคคุเทศก์ทั้งหมดที่มีอยู่
นายนนภูรี ภัทรคุณากรสกุล อายุ 49 ปี เลขาชมรมมัคคุเทศน์ภาษาจีนภูเก็ต กล่าวว่า การเข้ายื่นหนังสือในวันนี้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อการทำงานโดยตรงให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 ให้ดำเนินการช่วยเหลือไกด์ไทย เพราะไกด์ต่างชาติเข้ามา นอกเหนือจากมาแย่งอาชีพแล้ว ยังทำให้ศักยภาพของสิ่งแวดล้อมเสียหายพังยับเยิน และช่วงในวันที่ 4-12 สิงหาคม 2558 ไกด์ไทยภาษาจีน ประมาณ 200 คน ได้มีการนัดหมายที่จะหยุดงานเพื่อปฏิเสธที่จะช่วยทำทัวร์ให้แก่บริษัททัวร์ในช่วงดังกล่าว เพราะบริษัททัวร์จีนเหล่านี้ไม่ยอมฟังคำเรียกร้องจากไกด์ไทย ยังคงใช้ไกด์ต่างชาติทำงานอยู่ ทั้งนี้ เพื่อให้เขารับรู้ว่า ในเมื่อไม่ให้ความสำคัญต่อไกด์ไทย ไกด์ไทยก็จะไม่ช่วยทำทัวร์
สำหรับไกด์ภาษาจีนที่เป็นชาวไทยในจังหวัดภูเก็ต มี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ไม่ได้เข้ามาลงชื่อต่อชมรมฯ มีอยู่ประมาณ 1,700 คน ส่วนที่เข้ามาเป็นสมาชิกในชมรมฯ แล้วมีกว่า 2,500 คน ซึ่งมีจำนวนเพียงพอในการทำหน้าที่ไกด์ ส่วนสาเหตุที่ทางบริษัททัวร์ตลาดจีนอ้างว่าไกด์ไทยภาษาจีนมีไม่เพียงพอ เนื่องจากไกด์บางส่วนสื่อสารภาษาไม่ได้พอ ศักยภาพการทำทัวร์ไม่ได้ตามที่เขาต้องการ ทางผู้ประกอบการบริษัททัวร์จึงอ้างว่าไกด์ไทยไม่เพียงพอ ทั้งๆ ที่ในข้อเท็จจริงแล้วเรามีไกด์เพียงพอต่อความต้องการ
ขณะที่ นายสันติ ป่าหวาย ผอ.ศูนย์การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับนโยบายการปราบปรามไกด์เถื่อนของกรมการท่องเที่ยวและกีฬานั้น มีความชัดเจน พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ 2551 ซึ่งไม่ให้คนต่างชาติมาทำหน้าที่มัคคุเทศก์ ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ตนทำหน้าที่นายทะเบียน ในสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ภาคใต้ สาขา 2 ก็ยืนยันว่า จะต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว ในส่วนของการดำเนินงานต่างๆ คงต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน พยายามบูรณาการทั้งไกด์ไทยให้ถูกต้อง ออกมาชี้เป้า ตรวจจับ ร่วมเป็นเครือข่ายร่วมกันในการปราบปราม
ขณะที่ในส่วนของไกด์เถื่อนถ้ามีการจับกุมได้ ต่อไปนี้จะต้องมีการเนรเทศออกนอกประเทศ และขึ้นบัญชีห้ามเข้ามาในประเทศไทยอีกอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะภูเก็ต ส่วน กฎหมายที่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.บริษัทธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ บริษัทนำเที่ยวที่ใช้ไกด์เถื่อน ถือว่าเป็นการทำลายอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว เราก็อาจจะมีการพักใช้ และเพิกถอนบริษัทนำเที่ยวให้เป็นตัวอย่างว่าต่อไปนี้ถ้าจะทำเรื่อการท่องเที่ยวต้องทำให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ถ้าไม่เช่นนั้นในการปฏิบัติหน้าที่เราก็จะต้องปราบปรามให้ถึงที่สุด นายสันติ กล่าวในที่สุด
เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (6 ส.ค.) สมาชิกชมรมมัคคุเทศก์ภาษาจีน-ภูเก็ต ประมาณ 30 คน นำโดย นายนนภูรี ภัทรคุณากรสกุล อายุ 49 ปี เลขาชมรมมัคคุเทศน์ภาษาจีนภูเก็ต คณะกรรมการสมาคมมัคคุเทศก์ภาษจีน-ภูเก็ต รวมตัวเดินขบวนเข้ายื่นหนังสือต่อ นายสันติ ป่าหวาย ผู้อำนวยการศูนย์การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต กรณีปัญหาไกด์ต่างชาติ และบริษัทนำเข้าไกด์ต่างชาติที่ผิดกฎหมาย
โดยทางชมรมอ้างว่า จากระยะเวลาครึ่งปีที่ผ่านมา บริษัททัวร์ตลาดจีนได้นำมัคคุเทศก์ผิดกฎหมายเข้ามาประกอบอาชีพในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง นอกจากนั้น มัคคุเทศก์เถื่อนไม่เคยเรียนรู้ประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของไทย ไม่ใช่ผู้ถือสัญชาติไทย อีกทั้งยังทำให้เสียภาพลักษณ์ของประเทศชาติ และก่อให้เกิดการว่างงานของมัคคุเทศก์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียงเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ส่งผลให้มัคคุเทศก์ในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น เพื่อรักษาสิทธิและประโยชน์ของมัคคุเทศก์ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ 2551 ทางสมาชิกชมรมมัคคุเทศก์ฯ จึงได้รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือดังกล่าวเพื่อแสดงถึงความเดือนร้อน และขอให้ทางกรมการท่องเที่ยวและกีฬา ช่วยหาวิธีแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนของมัคคุเทศก์ในพื้นที่ให้เกิดความเป็นธรรมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จากปัจจุบันคาดว่า มีมัคคุเทศก์ต่างชาติผิดกฎหมายที่ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตในจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียงอยู่ประมาณ 75% ของมัคคุเทศก์ทั้งหมดที่มีอยู่
นายนนภูรี ภัทรคุณากรสกุล อายุ 49 ปี เลขาชมรมมัคคุเทศน์ภาษาจีนภูเก็ต กล่าวว่า การเข้ายื่นหนังสือในวันนี้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อการทำงานโดยตรงให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551 ให้ดำเนินการช่วยเหลือไกด์ไทย เพราะไกด์ต่างชาติเข้ามา นอกเหนือจากมาแย่งอาชีพแล้ว ยังทำให้ศักยภาพของสิ่งแวดล้อมเสียหายพังยับเยิน และช่วงในวันที่ 4-12 สิงหาคม 2558 ไกด์ไทยภาษาจีน ประมาณ 200 คน ได้มีการนัดหมายที่จะหยุดงานเพื่อปฏิเสธที่จะช่วยทำทัวร์ให้แก่บริษัททัวร์ในช่วงดังกล่าว เพราะบริษัททัวร์จีนเหล่านี้ไม่ยอมฟังคำเรียกร้องจากไกด์ไทย ยังคงใช้ไกด์ต่างชาติทำงานอยู่ ทั้งนี้ เพื่อให้เขารับรู้ว่า ในเมื่อไม่ให้ความสำคัญต่อไกด์ไทย ไกด์ไทยก็จะไม่ช่วยทำทัวร์
สำหรับไกด์ภาษาจีนที่เป็นชาวไทยในจังหวัดภูเก็ต มี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ไม่ได้เข้ามาลงชื่อต่อชมรมฯ มีอยู่ประมาณ 1,700 คน ส่วนที่เข้ามาเป็นสมาชิกในชมรมฯ แล้วมีกว่า 2,500 คน ซึ่งมีจำนวนเพียงพอในการทำหน้าที่ไกด์ ส่วนสาเหตุที่ทางบริษัททัวร์ตลาดจีนอ้างว่าไกด์ไทยภาษาจีนมีไม่เพียงพอ เนื่องจากไกด์บางส่วนสื่อสารภาษาไม่ได้พอ ศักยภาพการทำทัวร์ไม่ได้ตามที่เขาต้องการ ทางผู้ประกอบการบริษัททัวร์จึงอ้างว่าไกด์ไทยไม่เพียงพอ ทั้งๆ ที่ในข้อเท็จจริงแล้วเรามีไกด์เพียงพอต่อความต้องการ
ขณะที่ นายสันติ ป่าหวาย ผอ.ศูนย์การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับนโยบายการปราบปรามไกด์เถื่อนของกรมการท่องเที่ยวและกีฬานั้น มีความชัดเจน พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ 2551 ซึ่งไม่ให้คนต่างชาติมาทำหน้าที่มัคคุเทศก์ ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต ตนทำหน้าที่นายทะเบียน ในสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ภาคใต้ สาขา 2 ก็ยืนยันว่า จะต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว ในส่วนของการดำเนินงานต่างๆ คงต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน พยายามบูรณาการทั้งไกด์ไทยให้ถูกต้อง ออกมาชี้เป้า ตรวจจับ ร่วมเป็นเครือข่ายร่วมกันในการปราบปราม
ขณะที่ในส่วนของไกด์เถื่อนถ้ามีการจับกุมได้ ต่อไปนี้จะต้องมีการเนรเทศออกนอกประเทศ และขึ้นบัญชีห้ามเข้ามาในประเทศไทยอีกอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะภูเก็ต ส่วน กฎหมายที่เกี่ยวกับ พ.ร.บ.บริษัทธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ บริษัทนำเที่ยวที่ใช้ไกด์เถื่อน ถือว่าเป็นการทำลายอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว เราก็อาจจะมีการพักใช้ และเพิกถอนบริษัทนำเที่ยวให้เป็นตัวอย่างว่าต่อไปนี้ถ้าจะทำเรื่อการท่องเที่ยวต้องทำให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ถ้าไม่เช่นนั้นในการปฏิบัติหน้าที่เราก็จะต้องปราบปรามให้ถึงที่สุด นายสันติ กล่าวในที่สุด