ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯ ภูเก็ต เรียกประชุมด่วนหน่วยงานภาครัฐ เอกชน แสวงหาความร่วมมือจัดการด้านการท่องเที่ยว หลังพบสารพัดปัญหาพุ่งเข้าเข้าใส่ เตรียมตั้งคณะทำงานกลั่นกรองการขอจดทะเบียนธุรกิจการค้า ขณะที่ปัญหาการขายผลิตภัณฑ์เครื่องนอนยางพารา มอบหน่วยงานเกี่ยวข้องเชิญผู้ประกอบการร่วมหารือเพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหา
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่ห้องรับรอง ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน เช่น ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต ขนส่งจังหวัดภูเก็ต สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า สรรพากร สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว ผู้ประกอบการทัวร์จีน ผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่กะรน ซึ่งได้รับผลกระทบจากกรณีบริษัททัวร์จีนไม่ส่งนักท่องเที่ยวเข้าพักในพื้นที่ โดยมี นายพรหมโชติ ไตรเวช รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว เข้าร่วมประชุมด้วย
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้ร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชนในหลายประเด็นด้วยกัน ประกอบด้วย ประเด็นการตรวจสอบการประกอบธุรกิจท่องเที่ยวโดยใช้คนไทยเป็นนอมินี ซึ่งเรื่องนี้ นายนิสิต กล่าวว่า การแก้ไขปัญหานั้นจะต้องมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจกลั่นกรองในส่วนของบริษัทที่มีชาวต่างชาติร่วมถือหุ้นขอจดทะเบียนการค้าต่อทางสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งจะต้องมีการบูรณาการความร่วมมือกันทุกหน่วยงานเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว และเรื่องนี้จะต้องมีการรายงานให้แก่ตนทราบด้วย เนื่องจากที่ผ่านมา มีปัญหาเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ส่วนหนึ่งก็เกิดจากการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทที่ใช้คนไทยเป็นนอมินี ซึ่งปัญหานี้ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกันเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างแน่นอน และถ้ามีการร้องเรียนเข้ามาตนจะให้สำนักงานสรรพากรเข้าตรวจสอบด้วย
นอกจากนั้น ยังมีการหารือถึงกรณีการเพิ่มจำนวนรถบัสของบริษัทนำเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเรื่องนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้มอบหมายให้ทางหัวหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ร่วมหารือกับบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ใช้รถในพื้นที่สำหรับบริการนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต แทนการใช้รถที่นำเข้ามาจากข้างนอก ซึ่งไม่แน่ใจว่ามีการตรวจสภาพรถเป็นอย่างไร และที่สำคัญอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นต่อรถบัสบรรทุกนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เกิดจากความไม่ชำนาญพื้นที่ของคนขับรถ ซึ่งในการหารือร่วมกันนั้นจะต้องมีการกำหนดราคากลางในการเช่าเหมารถให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาสปรับราคาโดยไม่เป็นธรรมในกรณีที่บริษัททัวร์จำเป็นที่จะต้องใช้รถจำนวนมากๆ
ขณะที่ปัญหาการควบคุมร้านค้าผลิตภัณฑ์เครื่องนอนยางพารานั้น นายนิสิต กล่าวว่า หลังจากมีการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้หลังจากที่ผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่ตำบลกะรนเข้าร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากได้รับผลกระทบจากกรณีบริษัททัวร์จีนไม่ส่งนักท่องเที่ยวเข้าพักในโรงแรม เนื่องจากบริเวณโรงแรมมีร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องนอนยางพาราตั้งอยู่ ก็มีกระแสข่าวออกมาว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กดดันร้านค้าเหล่านั้นให้จำหน่ายสินค้าในราคาเท่ากับร้านค้าที่ทัวร์จีนพานักท่องเที่ยวไปซื้อสินค้า ซึ่งเรื่องนี้จะต้องเชิญทั้ง 2 ฝ่าย มาร่วมหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย เพราะถ้าปล่อยไว้ตนเชื่อว่าจะต้องเสียหายทั้ง 2 ฝ่ายแน่นอน
ขณะที่ นายสันติ ป่าหวาย ผู้อำนวยการสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้เชิญผู้ประกอบการร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องนอนยางพารา ซึ่งมีประมาณ 14 ร้านมาประชุม แต่ปรากฏว่า ไม่มีร้านใดมาร่วมประชุมเลย ซึ่งการเชิญมาประชุมนั้นเพื่อต้องการที่จะมาหามาตรการ และร่วมกันกำหนดราคากลางเพื่อที่จะให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ แต่อย่างไรก็ตามทางสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ จะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาร่วมหารืออีกครั้ง
ขณะที่ตัวแทนบริษัทนำเที่ยวจีนที่เข้าร่วมประชุม กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม FIT หรือกลุ่มที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเองโดยมาผ่านบริษัทนำเที่ยว กลุ่มนี้มีประมาณ 30% นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่จะเลือกเที่ยว เลือกพัก เลือก ชอปปิ้งที่ไหนก็ได้ ส่วนอีกกลุ่ม คือ กลุ่มที่มาเป็นกลุ่มทัวร์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องมีทัวร์ลีดเดอร์ ซื้อโปรแกรมทัวร์เสร็จมาจากประเทศจีน ไกด์ในประเทศไทยไม่สามารถพานักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไปซื้อของ พัก เที่ยว หรือรับประทานอาหารที่อยู่นอกเหนือโปรแกรมทัวร์ที่ซื้อมาแล้วได้ ถ้าทำผิดเงื่อนไขจะต้องถูกปรับตั้งแต่ 100,000-1,000,000 บาท ซึ่งร้านค้าต่างๆ ที่บริษัททัวร์จะนำนักท่องเที่ยวเข้าไปใช้บริการได้จะต้องเป็นร้านค้าที่ได้รับการรับรองจากการท่องเที่ยวของจีนเท่านั้น ซึ่งทางการท่องเที่ยวจีนจะเข้ามาสำรวจก่อนที่จะรับรองให้พานักท่องเที่ยวจีนเข้าไปได้
เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันนี้ (16 มิ.ย.) ที่ห้องรับรอง ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน เช่น ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต ขนส่งจังหวัดภูเก็ต สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า สรรพากร สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว ผู้ประกอบการทัวร์จีน ผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่กะรน ซึ่งได้รับผลกระทบจากกรณีบริษัททัวร์จีนไม่ส่งนักท่องเที่ยวเข้าพักในพื้นที่ โดยมี นายพรหมโชติ ไตรเวช รองอธิบดีกรมการท่องเที่ยว เข้าร่วมประชุมด้วย
สำหรับการประชุมในครั้งนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้ร่วมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชนในหลายประเด็นด้วยกัน ประกอบด้วย ประเด็นการตรวจสอบการประกอบธุรกิจท่องเที่ยวโดยใช้คนไทยเป็นนอมินี ซึ่งเรื่องนี้ นายนิสิต กล่าวว่า การแก้ไขปัญหานั้นจะต้องมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจกลั่นกรองในส่วนของบริษัทที่มีชาวต่างชาติร่วมถือหุ้นขอจดทะเบียนการค้าต่อทางสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งจะต้องมีการบูรณาการความร่วมมือกันทุกหน่วยงานเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว และเรื่องนี้จะต้องมีการรายงานให้แก่ตนทราบด้วย เนื่องจากที่ผ่านมา มีปัญหาเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ส่วนหนึ่งก็เกิดจากการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทที่ใช้คนไทยเป็นนอมินี ซึ่งปัญหานี้ถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกันเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างแน่นอน และถ้ามีการร้องเรียนเข้ามาตนจะให้สำนักงานสรรพากรเข้าตรวจสอบด้วย
นอกจากนั้น ยังมีการหารือถึงกรณีการเพิ่มจำนวนรถบัสของบริษัทนำเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเรื่องนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้มอบหมายให้ทางหัวหน้าสำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ร่วมหารือกับบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ใช้รถในพื้นที่สำหรับบริการนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต แทนการใช้รถที่นำเข้ามาจากข้างนอก ซึ่งไม่แน่ใจว่ามีการตรวจสภาพรถเป็นอย่างไร และที่สำคัญอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นต่อรถบัสบรรทุกนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เกิดจากความไม่ชำนาญพื้นที่ของคนขับรถ ซึ่งในการหารือร่วมกันนั้นจะต้องมีการกำหนดราคากลางในการเช่าเหมารถให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาสปรับราคาโดยไม่เป็นธรรมในกรณีที่บริษัททัวร์จำเป็นที่จะต้องใช้รถจำนวนมากๆ
ขณะที่ปัญหาการควบคุมร้านค้าผลิตภัณฑ์เครื่องนอนยางพารานั้น นายนิสิต กล่าวว่า หลังจากมีการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้หลังจากที่ผู้ประกอบการโรงแรมในพื้นที่ตำบลกะรนเข้าร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากได้รับผลกระทบจากกรณีบริษัททัวร์จีนไม่ส่งนักท่องเที่ยวเข้าพักในโรงแรม เนื่องจากบริเวณโรงแรมมีร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องนอนยางพาราตั้งอยู่ ก็มีกระแสข่าวออกมาว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กดดันร้านค้าเหล่านั้นให้จำหน่ายสินค้าในราคาเท่ากับร้านค้าที่ทัวร์จีนพานักท่องเที่ยวไปซื้อสินค้า ซึ่งเรื่องนี้จะต้องเชิญทั้ง 2 ฝ่าย มาร่วมหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้ง 2 ฝ่าย เพราะถ้าปล่อยไว้ตนเชื่อว่าจะต้องเสียหายทั้ง 2 ฝ่ายแน่นอน
ขณะที่ นายสันติ ป่าหวาย ผู้อำนวยการสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้เชิญผู้ประกอบการร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องนอนยางพารา ซึ่งมีประมาณ 14 ร้านมาประชุม แต่ปรากฏว่า ไม่มีร้านใดมาร่วมประชุมเลย ซึ่งการเชิญมาประชุมนั้นเพื่อต้องการที่จะมาหามาตรการ และร่วมกันกำหนดราคากลางเพื่อที่จะให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ แต่อย่างไรก็ตามทางสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ จะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาร่วมหารืออีกครั้ง
ขณะที่ตัวแทนบริษัทนำเที่ยวจีนที่เข้าร่วมประชุม กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม FIT หรือกลุ่มที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเองโดยมาผ่านบริษัทนำเที่ยว กลุ่มนี้มีประมาณ 30% นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่จะเลือกเที่ยว เลือกพัก เลือก ชอปปิ้งที่ไหนก็ได้ ส่วนอีกกลุ่ม คือ กลุ่มที่มาเป็นกลุ่มทัวร์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องมีทัวร์ลีดเดอร์ ซื้อโปรแกรมทัวร์เสร็จมาจากประเทศจีน ไกด์ในประเทศไทยไม่สามารถพานักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไปซื้อของ พัก เที่ยว หรือรับประทานอาหารที่อยู่นอกเหนือโปรแกรมทัวร์ที่ซื้อมาแล้วได้ ถ้าทำผิดเงื่อนไขจะต้องถูกปรับตั้งแต่ 100,000-1,000,000 บาท ซึ่งร้านค้าต่างๆ ที่บริษัททัวร์จะนำนักท่องเที่ยวเข้าไปใช้บริการได้จะต้องเป็นร้านค้าที่ได้รับการรับรองจากการท่องเที่ยวของจีนเท่านั้น ซึ่งทางการท่องเที่ยวจีนจะเข้ามาสำรวจก่อนที่จะรับรองให้พานักท่องเที่ยวจีนเข้าไปได้