ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กรมการท่องเที่ยว ร่วมกับสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวฯ ตำรวจท่องเที่ยว และสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า จังหวัดภูเก็ต สนธิกำลังตรวจสอบบริษัทนำเที่ยวที่มีชาวต่างชาติร่วมถือหุ้นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อป้องปรามต่างชาติการใช้คนไทยเป็นนอมินี
เมื่อเวลา 9.00 น. วันนี้ (27 พ.ค.) นายสันติ ป่าหวาย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต ทำหน้าที่นายทะเบียนสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 2 จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายอธิพงศ์ แสงศิลป์ หัวหน้ากิจการพิเศษ กรมการท่องเที่ยว น.ส.ปิยสุดา สุขเจริญ หัวหน้ากลุ่มกฎหมายธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กรมการท่องเที่ยว นายนิมิต ฆังคะจิตร พัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดภูเก็ต ร.ต.อ.เอกชัย ศิริ รองสารวัตรตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชาวต่างชาติร่วมถือหุ้น สำหรับการตรวจบริษัทนำเที่ยวในวันนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แบ่งเป้าหมายออกตรวจสอบ 2 เส้นทาง คือ โดยชุดแรก เดินทางไปตรวจสอบในส่วนของบริษัทนำเที่ยวต่างๆ และ ชุดที่ 2 เดินทางไปตรวจสอบบริษัททัวร์ที่ให้บริการตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต
สำหรับในครั้งนี้ จุดแรกที่ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ คือ บริษัท อนาโทเลียน เอ็กซ์เพรสส์ จำกัด หรือ annex tour ซึ่งตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านจัดสรรศรีสุชาติ ใกล้กับถนนบายพาส อ.เมือง จ.ภูเก็ต จากการตรวจสอบที่บริษัททัวร์ดังกล่าว พบว่า เป็นบริษัทที่มีการจดทะเบียนที่พัทยา และไม่มีผู้ถือหุ้นบริษัทอยู่ในพื้นที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำให้ติดป้ายชื่อบริษัท และเลขที่จดทะเบียนให้ถูกต้อง
หลังจากนั้น คณะทั้งหมดได้เดินทางไปยังบริษัท เจียยุ่น ทราเวล จำกัด บริษัทเหลียนไท ทราเวล จำกัด สาขา ภูเก็ต และบริษัท สตาร์ ภูเก็ต จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ภายในหมู่บ้าน ท็อปแลนด์ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยทั้ง 3 บริษัท มีสำนักงานอยู่ในจุดเดียวกัน ซึ่งจากการตรวจสอบบริษัทดังกล่าวมี นายจิรภัทร บดัภัทรกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท เจียยุ่น ทราเวล จำกัด ร่วมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัท และผู้ร่วมถือหุ้น ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีคนไทยร่วมถือหุ้น 2 คน และมีชาวต่างชาติซึ่งเป็นชาวจีน จำนวน 1 คน
นายสันติ ป่าหวาย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต ทำหน้าที่นายทะเบียนสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 2 จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีบริษัทนำเที่ยวที่มีชาวต่างชาติร่วมถือหุ้นประมาณ 80 บริษัท ซึ่งมีทั้ง จีน รัสเซีย และเกาหลี ซึ่งการตรวจสอบในครั้งนี้เพื่อป้องปรามกรณีชาวต่างชาติใช้คนไทยเป็นนอมินี รวมทั้งตรวจเพื่อหวังผลถ้าพบว่ามีการกระทำความผิด หน่วยงานที่เกี่ยวของในส่วนของสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าก็จะส่งข้อมูลให้แก่ทาง DSI เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งการตรวจสอบในครั้งนี้จะเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องต่อการจัดทั้งบริษัท เส้นทางการเงิน การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท การต่ออายุ การติดป้ายให้ชัดเจน และอื่นๆ
สำหรับการดำเนินการนั้นเป็นการสนธิกำลังร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตรวจสอบป้องกันไม่ให้มีการกระทำความผิดในลักษณะของการเป็นนอมินี หรือการใช้คนไทยบังหน้าในการทำธุรกิจ จึงมีการสนธิกำลังร่วมกัน ซึ่งปัจจุบันต้องยอมรับว่ามีต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะธุรกิจทางด้านการท่องเที่ยว ซึ่งมีทั้งจีน รัสเชีย และเกาหลี ซึ่งกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนด้านการท่องเที่ยวมากเป็นอันดับต้นๆ คือ จีน รองลงมารัสเซีย และเกาหลี
ขณะที่ นายนิมิต ฆังคะจิตร พัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในการตรวจสอบนั้นจะต้องมีการสอบปากคำในส่วนของผู้ถือหุ้น รวมทั้งตรวจสอบเอกสารการถือหุ้น และรายการอื่นๆ รวมทั้งข้อมูลการจดทะเบียนการค้า ซึ่งการตรวจสอบนั้นจะต้องมีการตรวจสอบในส่วนของบริษัทที่มีชาวต่างชาติถือหุ้นทั้งหมดตั้งแต่ 1-49% หากตรวจสอบพบว่าการถือหุ้นไม่เป็นไปตามความเป็นจริง หรือชาวต่างชาติให้คนไทยถือหุ้นแทนในลักษณะนอมินี ก็จะส่งข้อมูลให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบต่อไป
สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการร่วมกับกับกรมการท่องเที่ยว และตำรวจท่องเที่ยว เพื่อตรวจสอบบริษัทนำเที่ยวต่างๆ ที่มีชาวต่างชาติร่วมถือหุ้น ซึ่งในส่วนของบริษัทนำเที่ยวจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า มีชาวต่างชาติร่วมถือหุ้นจำนวนมาก ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นยังไม่พบข้อมูลที่ผิดสังเกต
เมื่อเวลา 9.00 น. วันนี้ (27 พ.ค.) นายสันติ ป่าหวาย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต ทำหน้าที่นายทะเบียนสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 2 จังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นายอธิพงศ์ แสงศิลป์ หัวหน้ากิจการพิเศษ กรมการท่องเที่ยว น.ส.ปิยสุดา สุขเจริญ หัวหน้ากลุ่มกฎหมายธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กรมการท่องเที่ยว นายนิมิต ฆังคะจิตร พัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดภูเก็ต ร.ต.อ.เอกชัย ศิริ รองสารวัตรตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชาวต่างชาติร่วมถือหุ้น สำหรับการตรวจบริษัทนำเที่ยวในวันนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แบ่งเป้าหมายออกตรวจสอบ 2 เส้นทาง คือ โดยชุดแรก เดินทางไปตรวจสอบในส่วนของบริษัทนำเที่ยวต่างๆ และ ชุดที่ 2 เดินทางไปตรวจสอบบริษัททัวร์ที่ให้บริการตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต
สำหรับในครั้งนี้ จุดแรกที่ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ คือ บริษัท อนาโทเลียน เอ็กซ์เพรสส์ จำกัด หรือ annex tour ซึ่งตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านจัดสรรศรีสุชาติ ใกล้กับถนนบายพาส อ.เมือง จ.ภูเก็ต จากการตรวจสอบที่บริษัททัวร์ดังกล่าว พบว่า เป็นบริษัทที่มีการจดทะเบียนที่พัทยา และไม่มีผู้ถือหุ้นบริษัทอยู่ในพื้นที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำให้ติดป้ายชื่อบริษัท และเลขที่จดทะเบียนให้ถูกต้อง
หลังจากนั้น คณะทั้งหมดได้เดินทางไปยังบริษัท เจียยุ่น ทราเวล จำกัด บริษัทเหลียนไท ทราเวล จำกัด สาขา ภูเก็ต และบริษัท สตาร์ ภูเก็ต จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ภายในหมู่บ้าน ท็อปแลนด์ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยทั้ง 3 บริษัท มีสำนักงานอยู่ในจุดเดียวกัน ซึ่งจากการตรวจสอบบริษัทดังกล่าวมี นายจิรภัทร บดัภัทรกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท เจียยุ่น ทราเวล จำกัด ร่วมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัท และผู้ร่วมถือหุ้น ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีคนไทยร่วมถือหุ้น 2 คน และมีชาวต่างชาติซึ่งเป็นชาวจีน จำนวน 1 คน
นายสันติ ป่าหวาย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต ทำหน้าที่นายทะเบียนสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวมัคคุเทศก์ สาขาภาคใต้ เขต 2 จังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีบริษัทนำเที่ยวที่มีชาวต่างชาติร่วมถือหุ้นประมาณ 80 บริษัท ซึ่งมีทั้ง จีน รัสเซีย และเกาหลี ซึ่งการตรวจสอบในครั้งนี้เพื่อป้องปรามกรณีชาวต่างชาติใช้คนไทยเป็นนอมินี รวมทั้งตรวจเพื่อหวังผลถ้าพบว่ามีการกระทำความผิด หน่วยงานที่เกี่ยวของในส่วนของสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าก็จะส่งข้อมูลให้แก่ทาง DSI เข้ามาตรวจสอบ ซึ่งการตรวจสอบในครั้งนี้จะเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องต่อการจัดทั้งบริษัท เส้นทางการเงิน การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท การต่ออายุ การติดป้ายให้ชัดเจน และอื่นๆ
สำหรับการดำเนินการนั้นเป็นการสนธิกำลังร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตรวจสอบป้องกันไม่ให้มีการกระทำความผิดในลักษณะของการเป็นนอมินี หรือการใช้คนไทยบังหน้าในการทำธุรกิจ จึงมีการสนธิกำลังร่วมกัน ซึ่งปัจจุบันต้องยอมรับว่ามีต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะธุรกิจทางด้านการท่องเที่ยว ซึ่งมีทั้งจีน รัสเชีย และเกาหลี ซึ่งกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนด้านการท่องเที่ยวมากเป็นอันดับต้นๆ คือ จีน รองลงมารัสเซีย และเกาหลี
ขณะที่ นายนิมิต ฆังคะจิตร พัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในการตรวจสอบนั้นจะต้องมีการสอบปากคำในส่วนของผู้ถือหุ้น รวมทั้งตรวจสอบเอกสารการถือหุ้น และรายการอื่นๆ รวมทั้งข้อมูลการจดทะเบียนการค้า ซึ่งการตรวจสอบนั้นจะต้องมีการตรวจสอบในส่วนของบริษัทที่มีชาวต่างชาติถือหุ้นทั้งหมดตั้งแต่ 1-49% หากตรวจสอบพบว่าการถือหุ้นไม่เป็นไปตามความเป็นจริง หรือชาวต่างชาติให้คนไทยถือหุ้นแทนในลักษณะนอมินี ก็จะส่งข้อมูลให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบต่อไป
สำหรับการลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการร่วมกับกับกรมการท่องเที่ยว และตำรวจท่องเที่ยว เพื่อตรวจสอบบริษัทนำเที่ยวต่างๆ ที่มีชาวต่างชาติร่วมถือหุ้น ซึ่งในส่วนของบริษัทนำเที่ยวจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า มีชาวต่างชาติร่วมถือหุ้นจำนวนมาก ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นยังไม่พบข้อมูลที่ผิดสังเกต